"โลกธุรกิจของจำลองโต๊ะทอง"


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2537)



กลับสู่หน้าหลัก

หลังจากรีไทร์ตัวเองจากชีวิตราชการ แต่ละคนอาจจะมีทางเลือกของการดำเนินชีวิตที่แตกต่างๆ กันหลายคน อาจจะใช้เวลาในช่วงบั้นปลายกับชีวิตครอบครัวอันสุขสงบ และอีกหลายคนที่ยังมีไฟอยู่ก็อาจจะเลือกการทำโครงการที่ตนเองชอบและใฝ่ฝัน

จำลอง โต๊ะทอง อดีตผู้จัดการใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์ก็เช่นเดียวกัน วันนี้เขากำลังสนุกอยู่กับโครงการใหม่ล่าสุด "หมู่บ้านสุขภาพผึ้ง-หวาน กาญจน์" ที่ตำบลท่ามะขาม จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยแนวความคิดที่ว่าปัญหาของคนเฒ่าคนแก่ ซึ่งเป็นบิดามารดาของคนทั่วไปนั้น เมื่อมีอายุมากแล้ว สมควรที่จะได้พักผ่อนอยู่ในสถานีที่มีอากาศที่ดี สดชื่น ไม่ควรอยู่อย่างแออัดกับสังคมในเมืองหลวง โดยเฉพาะเมื่อลูกหลานบางคนมีฐานะดีพอที่จะเลือกซื้อบ้านหลังที่ 2 ได้

ดังนั้นหมู่บ้านสุขภาพนี้จึงเน้นเป็นพิเศษในเรื่องการบริการและอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับผู้สูงอายุ โดยในโครงการจะมีหมอทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู และพยาบาลประจำโครงการคอยดูแล มีการเก็บประวัติการเจ็บไข้ได้ป่วยและโรคประจำตัวของผู้สูงอายุแต่ละคนเอาไว้ เพื่อจะได้คอยแก้ไขปัญหาให้ถูกจุดเมื่อมีปัญหาขึ้นมาทีหลัง

"ครั้งแรกที่ลูกค้าเอาพ่อแม่แก่ๆ มาค้างที่โครงการซึ่งได้ซื้อไว้ อาจจะไม่กล้าทิ้งให้พักต่อเมื่อตนเองได้เวลาเดินทางกลับ แต่การที่ทางโครงการสามารถทำให้เขากล้าทิ้งพ่อแม่พักอาศัยต่อไป โดยตัวลูกค้าเองก็มั่นใจในความปลอดภัยที่จะเกิดขึ้น มั่นใจว่ามีคนดูแลมีกิจกรรมที่เหมาะสมและสามารถสร้างความเพลิดเพลินให้กับพ่อแม่เขาได้ นั่นคือสิ่งที่เราประสบความสำเร็จแล้ว" จำลองเล่าถึงจุดประสงค์หลักในการทำโครงการให้ผู้จัดการฟัง

สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการที่จะจัดให้มี เช่น สระว่ายน้ำ กีฬาประเภทลานเช่นเปตอง ศูนย์นวดแผนโบราณ และที่จ๊อกกิ้งริมน้ำซึ่งที่ริมน้ำความยาวกว่า 700 เมตรนั้นทางโครงการจะทำให้เป็นทางเดินสาธารณะไปโดยตลอด

และเพื่อให้รูปแบบเหมาะสำหรับผู้สูงอายุอย่างแท้จริง จำลองได้มอบหมายให้ศาสตราจารย์ นพ. เล็ก อักษรานุเคราะห์ หัวหน้าแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นที่ปรึกษาโครงการ ในโครงการยังสร้างโรงแรมให้คนทั่วไปพักด้วย ตัวโรงแรมนี้จำลองบอกว่าเป็นสิ่งที่จะสร้างกิจกรรมต่างๆ ให้เกิดขึ้นทำให้โครงการไม่เงียบเหงาเกินไป

อย่างไรก็ตามกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาซื้อโครงการนี้ไม่ได้หมายถึงซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 เพื่อให้พ่อแม่มาพักอย่างเดียว แต่รวมไปถึงลูกค้าโดยทั่วไปที่ต้องการซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่ 1 เพื่อเป็นที่พักอาศัยเองด้วย

ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้จึงดูราวกับว่าจุดประสงค์ของการทำโครงการไม่แน่นอน การสร้างคอนเซ็ปต์เพื่อผู้สูงอายุนั้นจริงๆ แล้วกลายเป็นจุดขายจุดหนึ่งของจำลองเท่านั้น แต่เขายืนยันว่าจากข้อมูลที่ศึกษามาทำให้รู้ว่าการเอาคนแก่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันมาอยู่รวมกัน ในโครงการนั้นจะสร้างความหดหู่ไม่สดชื่นให้กับตัวผู้อยู่อาศัยเองอย่างมาก เขาจึงต้องการให้มีทุกวัยอยู่ด้วยกัน

มองลึกไปยังพื้นฐานในการทำธุรกิจทางด้านพัฒนาที่ดินของจำลอง จะพบว่าเขามีความสนใจในธุรกิจนี้ตั้งแต่สมัยยังคงดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธกส. เพระจากการได้ออกพื้นที่บ่อยๆ ทำให้ไปพบเห็นที่ดินแปลงสวยราคาไม่แพงมากมาย และเมื่อปี 2524 นั้นเขาได้ร่วมกับกลุ่มเพื่อนฝูงสร้างโรงแรมซีวิวที่พัทยาและโครงการน้ำพุร้อน "รุ่งอรุณ" ที่อำเภอสันกำแพง ก็เป็นหนึ่งในผลงานการรวบรวมที่ดินของเขา แต่ต่อมาภายหลังได้ขายโครงการรุ่งอรุณเพื่อพัฒนาที่ดินที่ผึ้งหวาน รีสอร์ทอย่างเต็มตัว เมื่อเอ่ยถึงโครงการผึ้งหวานรีสอร์ท หลายคนคงรู้จักดีว่าเป็นโครงการรีสอร์ทให้เช่า ท่ามกลางขุนเขาในจังหวัดกาญจนบุรี ดินแดนแห่งเมืองท่องเที่ยว ที่ดินประมาณ 300 ไร่ตรงนี้จำลองซื้อไว้ตั้งแต่เป็นผู้จัดการใหญ่ธกส. และเป็นโครงการแรกที่มาพัฒนาเองหลังลาออกจากชีวิตราชการเมื่อปี 2532 ในช่วงเวลานั้นในกาญจนบุรีโครงการที่พักและรีสอร์ทที่มีชื่อก็คือโครงการโรงแรมหมู่บ้านแม่น้ำแคว และโครงการโฮมพุเตย ส่วนโครงการอื่นๆ ยังไม่ค่อยมีมากนัก แต่สนามการค้าที่ดินกำลังเริ่มต้นการซื้อขายอย่างคึกคักขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ

ผึ้งหวานรีสอร์ทนับเป็นโครงการที่จุดประกายให้เกิดโครงการเพื่อการท่องเที่ยวต่อมาอย่างต่อเนื่องหลังจากปี 2532 เป็นต้นมา ถึงวันนี้กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีที่พักในลักษณะของโรงแรม และรีสอร์ทมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย รวมทั้งการกว้านซื้อที่ดินเพื่อทำสนามกอล์ฟด้วยเช่นกัน จุดเด่นสำคัญของจังหวัดนี้ก็คือมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งภูเขา ป่าไม้ และน้ำตก รวมทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ในขณะที่การเดินทางก็สะดวกเพราะเป็นจังหวัดที่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงประมาณ 100 กิโลเมตร

เมื่อผึ้งหวานประสบความสำเร็จ โครงการ "ดอกไม้หวานรีสอร์ท" ก็เกิดขึ้นโดยสร้างอยู่ในพื้นที่ห่างจากโครงการผึ้งหวานเดิมเพียง 30 กม. รูปแบบเป็นที่ดินจัดสรรติดริมน้ำแควน้อยทุกแปลง และจะมีโครงการโรงแรมสูง 3 ชั้นอีก 200 ห้อง และเช่นเดียวกันแนวความคิดในการสร้างโรงแรมก็คือทำให้ผู้ที่เข้ามาซื้อที่ดินปลูกบ้านในโครงการไม่โดดเดี่ยวจนน่ากลัว โรงแรมนั้นต้องการสร้างให้เสร็จในปีนี้ ส่วนที่ดินจัดสรรได้พัฒนาและกำลังอยู่ในระหว่างการขายราคาต่อตารางวาประมาณ 3,500 บาทขึ้นไป

ทั้ง 3 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่นั้นเป็นสิ่งที่เกิดหลังชีวิตราชการ และนับเป็นความฝันที่บรรลุเป็นจริงของผู้สูงอายุวัย 65 ปี คนหนึ่งที่ยังมีไฟคุโชนอยู่



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.