L&E รับผลพิษเศรษฐกิจและราคาน้ำมันชี้รายได้ทั้งปีโตไม่ถึงเป้าแต่ไตรมาส2เจ๋ง


ผู้จัดการรายวัน(20 กรกฎาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

L&E ยอมรับรายได้ทั้งปีโตไม่ถึง 10% หลังโดนพิษการเมือง ราคาน้ำมันพุ่ง ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว ขณะที่ไตรมาส 2 คาดรายได้สูงกว่าไตรมาสแรก มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังยังเข้าเป้า 10-15% หลังออกสินค้าใหม่ที่มีมาร์จิ้นดี เดินหน้าหางานในมือเพิ่ม เนื่องจาก 400 ล้านบาทที่มีในมือจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ไตรมาส 3 ปีนี้ เล็งส่งออกเพิ่มหลังพบความต้องการลูกค้าสูง

นายปกรณ์ ปริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไล้ท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ( L&E) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10-15% ขณะที่ผลงานทั้งปีคาดว่ารายได้จากมีการเติบโตไม่ถึง 10% จากปี48 ที่มีรายได้ 1,400 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากธุรกิจได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนลดลงและชะลอออกไป ขณะที่ก่อนหน้านี้ L&E ตั้งเป้าว่ารายได้จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 15-20 % จากก่อน

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ L&E คาดว่าสูงกว่าไตรมาสแรก เนื่องจากบริษัทฯได้ออกสินค้าใหม่ ที่ใช้ในบางโครงการเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีคู่แข่งมาแข่งขันด้านราคา ทำให้สินค้าใหม่มีมาร์จิ้นดีกว่าสินค้าเดิม

ปัจจุบัน L&E มีงานในมือ (BACK LOG) มูลค่า 400 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษามูลค่างานในมือให้ได้ในระดับดังกล่าว ด้วยการเข้าร่วมประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง

นายปกรณ์กล่าวว่า ปีนี้อุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้าส่องสว่างเริ่มชะลอตัว แต่รายได้ยังคงสามารถเติบโตไปได้นั้น เนื่องจากบริษัทสามารถขยายมาร์เก็ตแชร์ได้มากขึ้น ทั้งนี้ เป็นเพราะสินค้าของบริษัทฯมีราคาที่ถูกกว่าผู้ประกอบการรายอื่น ในขณะเดียวกันก็ยังคงสามารถรักษาคุณภาพสินค้าได้ดี ส่งผลให้ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าของบริษัทฯมากขึ้น ดังนั้น จึงคาดว่ามาร์เก็ตแชร์ในปีนี้น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 15%

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ปีนี้อุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้าส่องสว่างเริ่มชะลอตัว ทำให้บริษัทฯมีการเพิ่มรูปแบบสินค้าใหม่ ๆ ออกมา Event Lighting รวมถึง ระบบไฟฟ้าแสงสว่างที่ใช้ในการโฆษณา เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทฯอีกทางหนึ่ง

นายปกรณ์ กล่าวว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้า บริษัทฯมีแผนที่รุกตลาดต่างประเทศให้เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2% ทั้งนี้ เพื่อต้องการหารายได้เพิ่ม และหาตลาดใหม่ ๆ และหลังจากที่บริษัทเปิดตลาดในเวียดนาม ด้วยการตั้งสำนักงานจำหน่าย ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี ส่งผลให้บริษัทวางเป้าหมายที่จะเพิ่มการส่งออกมากขึ้น รวมทั้งการพิจารณาตั้งสำนักงานขายในต่างประเทศเพิ่มอีกในอนาคต


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.