หุ้นร่วงกระแสข่าวลือท่วมตลาด EPCOลือควบ-DISTARถูกเทคฯ


ผู้จัดการรายวัน(14 กรกฎาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ข่าวลือท่วมตลาดหุ้น ในช่วงตลาดหุ้นซบเซา"โรงพิมพ์ตะวันออก"ลือจะถูกนำไปควบรวมกับเอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วน"ไดสตาร์ อิเลคทริก"ลือนักลงทุนรายใหญ่สนใจเข้าเทคโอเวอร์ ขณะที่"ยุทธ ชินสุภัคกุล"โต้ยังไม่มีแผนเสนอเข้าบอร์ด ระบุราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน มั่นใจปีนี้รายได้โต 10% เหตุได้ผลดีจากงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรวมถึงงานพิมพ์จากเทศกาลฟุตบอลโลก

วานนี้(13ก.ค.)หุ้นบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด(มหาชน)หรือ EPCO ราคาเปิดมาที่ระดับ 0.63 บาทต่อมาได้มีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาสูงสุดที่ 0.66 บาท อย่างไรก็ตามภาวะตลาดหุ้นในช่วงบ่ายได้ปรับตัวลดลงมาแรง ส่งผลทำให้มีแรงเทขายหุ้นออกมา ทำให้ราคาหุ้นบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออกปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดหุ้นโดยรวม โดยปิดที่ 0.58 บาทซึ่งเป็นระดับราคาที่ต่ำสุดของวันด้วย ลดลง 0.04 บาทหรือ 6.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น 103.08 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ DISTAR ราคาเปิดมาที่ 0.69 บาทต่อมาได้มีแรงซื้อจนทำให้ราคาขึ้นมาสูงสุดที่ 0.81 บาทต่อมาราคาได้อ่อนตัวลงตามภาวะตลาดหุ้น โดยราคาปิดที่ 0.74 บาทเพิ่มขึ้น 0.05 บาทหรือ 7.25% มูลค่าการซื้อขาย 67.65 ล้านบาท

ส่วนภาวะตลาดหุ้นโดยรวมดัชนีปิดที่ 672.34 จุดลดลง 13.68 จุดหรือ 1.99% มูลค่าการซื้อขาย 11,708.11 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่ามีนักลงทุน 2 กลุ่มแสดงความสนใจที่จะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทไดสตาร์ อิเลคทริก โดยแสดงเจตนาจะเข้าไปครอบงำกิจการ ด้วยการขอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งกลุ่มหนึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนอีกกลุ่มเป็นกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ชื่อดัง ซึ่งกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่มีความเป็นไปได้ว่าจะเข้าไปซื้อหุ้นได้ เพราะเสนอราคาซื้อที่สูงกว่า อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดและยังไม่มีข้อสรุป

นายกมล เอี้ยวศิริกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทไดสตาร์ อิเล็กทริก คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องที่มีกลุ่มนักลงทุนสนใจจะเข้ามาซื้อหุ้น อย่างไรก็ดี การขายหุ้นจะต้องพิจารณาหลายเงื่อนไขประกอบการตัดสินใจ คือความพอใจของระดับราคาของบุคคลที่ต้องการซื้อหุ้น รวมถึงความคิดเห็นโดยรวมของผู้ถือหุ้น และวัตถุประสงค์ของการเข้าซื้อหุ้นด้วย

'การพิจารณาซื้อขายก็ต้องมีเงื่อนไขหลายอย่างประกอบ ก็แล้วแต่ความพอใจของเราและหากเดือดร้อนเงินก็อาจจะขาย อย่างไรก็ดี ก็ต้องดูกลุ่มผู้ถือหุ้นด้วยรวมทั้งดูว่าจะขายเพื่อไปทำอะไร ผู้ถือหุ้นรายอื่นเดือดร้อนหรือไม่' นายกมลกล่าว

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทโรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า การที่หุ้นของบริษัทมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นเพิ่มขึ้น มองว่าน่าจะเกิดจากราคาหุ้นต่ำกว่าสภาพความเป็นจริง จึงทำให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุน ประกอบกับบริษัทก็ยังเชื่อมั่นว่าภายในปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลดีเพราะได้รับการว่าจ้างให้พิมพ์งานจากงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรวมถึงงานพิมพ์จากเทศกาลฟุตบอลโลก

สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่าบริษัทบริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน)หรือSPACK ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออกจะนำบริษัทมาควบรวมกิจการกันนั้น นายยุทธกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่เคยมีการนำมาหารือในคณะกรรมการบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งมองว่าที่มีกระแสข่าวลือเนื่องจากนักลงทุนอาจจะมองว่าบริษัทเอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ได้ทยอยเข้าไปซื้อหุ้นของบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออกเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันนี้ถืออยู่ในสัดส่วนประมาณ 23% แล้ว และคงจะต้องรอดูว่าเมื่อบริษัทเข้าไปถือเพิ่มเป็น 24.99%แล้วจึงค่อยคิดว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่เชื่อว่ากว่าจะถึงระดับดังกล่าวคงจะใช้เวลาพอสมควร เพราะบริษัทจะทยอยซื้อหุ้นเมื่อมีจังหวะและเป็นการซื้อเก็บไม่ได้ขายออกมาแต่อย่างใด

ส่วนกระแสข่าวลือว่าบริษัทจะมีการดึงพันธมิตรจากญี่ปุ่นเข้ามาถือหุ้น นายยุทธกล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินข่าวลือดังกล่าว และไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จะมีแต่ลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่นที่สั่งออเดอร์งานพิมพ์มายังบริษัท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.