|
เจ้าหนี้ช้ำแฮร์คัทหนี้DAIDOกว่า600ล.
ผู้จัดการรายวัน(11 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
เจ้าหนี้ "ไดโดมอน กรุ๊ป" ยอมแฮร์คัทหนี้จาก 800 ล้านบาท เหลือ 155 ล้านบาท เหตุจำต้องยอมรับสภาพ เพราะบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปเหลือสินทรัพย์ที่มีค่าเพียงสิทธิเช่าระยะยาวของสาขาทั้ง 17 แห่งเท่านั้น ขณะที่บริษัทที่ประกอบธุรกิจอาหาร 3 รายที่สนใจเข้าร่วมถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนประมาณ 80% เตรียมเข้าไปตีมูลค่าสิทธิเช่าว่าจะอยู่ในระดับใดคาดว่าจะสรุปได้ไม่เกินเดือนพ.ย.นี้ ขณะที่"วิชัย ทองแตง"จะเหลือสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 10%เศษ
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า แผนการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)(DAIDO)นั้น ปรากฏว่าเจ้าหนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถาบันการเงินที่ให้ความเห็นชอบในแผนฟื้นฟูกิจการนั้น ยอมที่จะลดหนี้หรือแฮร์คัดให้กับบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปจากหนี้ทั้งหมดทีมีอยู่ประมาณ 800 ล้านบาทยอมลดเหลือประมาณ 155 ล้านบาท
สาเหตุที่เจ้าหนี้ยอมแฮร์คัทเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมองว่าบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป มีสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพียงสิทธิในการเช่าสาขาระยะยาวจำนวน 17 สาขาเท่านั้น ส่วนสินทรัพย์อื่นๆไม่มี ดังนั้นถ้าไม่ยอมและปล่อยเวลานานออกไปอีก จะทำให้ระยะเวลาในการเช่าสาขาลดลงอีก ซึ่งจะทำให้มูลค่าลดลงด้วย และอาจจะทำให้เจ้าหนี้ไม่ได้อะไรคืนเลย
ปัจจุบันนี้บริษัทไดโดมอน กรุ๊ปมีสาขาทั้งสิ้น 38 สาขาเป็นสาขาที่เช่าในระยะยาวจำนวน 17 สาขา ซึ่งสาขาเหล่านี้สามารถตีมูลค่าได้ ส่วนอีก21 สาขานั้นเป็นสาขาที่เช่าเป็นรายเดือนและจ่ายค่าเช่าเป็นเดือน(ดูตารางประกอบ)
แหล่งข่าวกล่าวว่า ตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปนั้นจะมีการหาผู้ร่วมทุนใหม่เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนประมาณ 80% โดยสามารถเข้ามาควบคุมการบริหารงานได้เลย โดยที่ผ่านมามีบริษัทที่ประกอบธุรกิจอาหาร 3 รายที่แสดงความสนใจเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบริษัทฮอทพอทที่ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร ส่วนอีก 2บริษัทนั้นก็เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอาหารเช่นกัน และเป็นบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ โดยทั้ง 3 บริษัทเตรียมที่จะเข้ามาตรวจสอบสินทรัพย์หรือดิวดิลิเจ้นท์ โดยเฉพาะในส่วนของสาขาทั้ง 17 แห่งที่จะต้องถูกตีมูลค่าว่าอยู่ในระดับใด โดยจะพิจารณาจากระยะเวลาสัญญาเช่าที่เหลืออยู่ ทำเลที่ตั้ง สภาพตลาดและรายได้ที่จะเข้ามาว่าเป็นอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ตามก็มีกระแสข่าวว่าผู้ประกอบการทั้ง 3 รายก็อยู่ระหว่างรอประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมด้วยว่าเป็นอย่างไร เพราะถือว่ามีผลต่อการลงทุนของบริษัท
"ผู้ประกอบธุรกิจทั้ง 3 รายนั้นแสดงความสนใจที่จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป สาเหตุหนึ่งเนื่องจากบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปมีสาขาที่อยู่ในทำเลที่ดี ซึ่งจะช่วยทำให้สนับสนุนการขยายธุรกิจได้ต่อไป"แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ตามกรอบระยะเวลาเมื่อเจ้าหนี้ให้ความเห็นชอบกับแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว ทางศาลล้มละลายกลางนัดพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้ในวันที่ 4 กันยายน 2549 และหลังจากนั้นอีก 3 เดือนบริษัทยังมีเวลาที่จะหาผู้เข้ามาร่วมทุนรายใหม่ ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถสรุปว่าผู้ประกอบการธุรกิจอาหารรายใดจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปภายในไม่เกินเดือนพฤศจิกายน 2549 นี้ ซึ่งตามแผนฟื้นฟูได้ระบุว่าผู้ร่วมทุนรายใหม่ที่เข้ามานั้นจะต้องนำเงินเข้ามาไม่ต่ำกว่า155 ล้านบาทเพื่อที่จะนำไปชำระคืนให้กับเจ้าหนี้ และถ้าผู้ร่วมทุนใหม่ต้องการที่จะขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นอีก ก็จะต้องนำเงินเข้ามาลงทุนเพิ่ม
แหล่งข่าวกล่าวว่า การปรับโครงสร้างหนี้ในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมคือนายวิชัย ทองแตง ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นก็จะลดลง โดยหลังจากได้มีการแปลงหนี้เป็นทุนแล้วจะทำให้นายวิชัย ถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 10%เศษส่วนหุ้นบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปที่ตลาดหลักทรัพย์ให้เวลาในการดำเนินการแก้ไขฐานะการเงินให้ดีขึ้น โดยให้เวลา 2 ปีนั้น ซึ่งขณะนี้ยังมีระยะเวลาประมาณ 1 ปีเศษ โดยจะต้องทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่มีกำไรต่อเนื่อง 3 ไตรมาส รวมถึงจะต้องทำให้มีส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ บริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ทำแผน แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) และมีคำสั่งตั้งบริษัทเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 30กันยายน 2548 นั้น
ทั้งนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2549 แจ้งว่าที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติพิเศษให้ความห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทโดยในการนี้ ศาลล้มละลายกลางนัดพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้ดังกล่าวในวันที่ 4 กันยายน 2549 เวลา 9.00 นาฬิกา
ในส่วนของเรื่องการแจ้งวันนำส่งงบการเงินปี 2548 ขณะนี้บมจ.ไดโดมอน กรุ๊ปอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาลล้มละลายกลางและศาลดังกล่าวมีคำสั่งตั้งบริษัทฯ เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ เมื่อ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2548 ดังนั้น บริษัทฯ ในฐานะผู้ทำแผนขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัทฯ จะนำส่งงบการเงินประจำปี 2548 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2549
นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ บมจ.ไดโดมอน กรุ๊ป ในฐานะผู้ทำแผน เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2548 ซึ่งปรากฏว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำรอบระยะเวลาเดียวกัน บริษัทฯ มีผลกำไร( ขาดทุน )เปลี่ยนแปลงเกิน 20% เนื่องจากผลประกอบกิจการมีผลขาดทุนสุทธิ 151.25 ล้านบาท ขาดทุนจากผลการดำเนินงาน 36.68 บาท เนื่องจากในงวด 6 เดือน ปี 2548 ยอดขายเมื่อเปรียบเทียบกับงวด 6 เดือนปี 2547 ลดลง 75.08 ล้านบาท หรือ 33.45% ขณะที่ต้นทุนสินค้าเพื่อขายลดลง 112.75 ล้านบาท หรือ 45.10% ค่าใช้จ่ายลดลง 40.54 ล้านบาท หรือ 40.41%
นอกจากนี้ บันทึกผลขาดทุนจากรายการพิเศษที่บริษัทฯ ได้ตั้งค่าเผื่อการลดมูลค่าสินทรัพย์ถาวรไว้เป็นมูลค่า 72.23 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|