|
แฟชั่นแบรนด์เนมออกอาการผวา พีน่า เฮาส์นิ่ง-มอร์แกนงัดทีเด็ดหวังโตสวนเศรษฐกิจ
ผู้จัดการรายวัน(10 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดแฟชั่นหวั่นเศรษฐกิจฉุดกำลังซื้อผู้บริโภคลด โดยเฉพาะสินค้าอินเตอร์แบรนด์ได้รับผลพวงหนัก ส่วนโลคอลแบรนด์ได้เปรียบเพราะราคาถูกกว่า เชื่อครึ่งปีหลังทุกแบรนด์งัดสารพัดกลยุทธ์สู้ศึก "พีน่า เฮาส์"ไม่ลงทุนเพิ่มเน้นบริหารธุรกิจในมือให้ดี ด้าน"มอร์แกน" ชี้ตลาดแฟชั่นปีนี้โตไม่เกิน10% จากการเมืองวุ่นและเศรษฐกิจแย่ งัดทีเด็ดเน้นบริการและส่งสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ทุกสัปดาห์ หวังเรียกกำลังซื้อกลับคืน ตั้งเป้าสิ้นปีเติบโตสวนทางเศรษฐกิจที่70%
นายสุพจน์ ตันติจิรสกุล ประธานกรรมการ บริษัท พีน่า เฮาส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าจะได้รับผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งตรงนี้จะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่นไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวจึงทำให้ยอดขายสินค้าช่วงนี้ซบเซา โดยเฉพาะแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศน่าจะได้รับผลกระทบมาก ส่วนโลคอล แบรนด์หรือแบรนด์ที่ผลิตในประเทศมองว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะเป็นสินค้าราคาไม่แพงและผู้บริโภคมีการยอมรับมากขึ้น ดังนั้นสถานการณ์ทางการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ทุกแบรนด์จะหันมาใช้กลยุทธ์ต่างๆในการทำตลาดหนักขึ้น เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้ากลุ่มแฟชั่น รวมถึงต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด อาทิ เรื่องการเมืองก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่หลายคนกำลังเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ หรือเรื่องภาวะเศรษฐกิจ เป็นต้น
ในส่วนของบริษัทพีน่า เฮาส์ฯปีนี้ยังไม่มีแผนลงทุนต่างๆที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก อาทิ การขยายสาขาเพิ่ม เป็นต้น แต่จะเน้นรักษาฐานเดิมหรือธุรกิจที่มีอยู่ในมือให้ดียิ่งขึ้น ในส่วนของการนำเข้าแบรนด์ใหม่ๆในปีนี้จะไม่มีให้เห็น เนื่องจากเมื่อปีที่แล้วบริษัทฯได้มีการนำเข้าหลายแบรนด์แล้ว เช่น เอคโค อันลิมิเต็ด เป็นต้น
สำหรับครึ่งปีแรกของบริษัทพีน่าฯพบว่าสินค้าที่เป็นแบรนด์นำเข้าหรืออินเตอร์แบรนด์มีอัตราการเติบโตต่ำกว่าเป้าที่วางไว้หรือลดลงประมาณ 20-30% ในส่วนแบรนด์โลคอลนั้นไม่ได้ผลกระทบและยังเติบโตตามเป้า ทั้งนี้ภาพรวมยอดรายได้ทั้งปีบริษัทฯคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตขึ้น 10%
มอร์แกนชี้ภาพรวมแฟชั่นโตต่ำกว่า 10%
นางสาวมารินทร์ ลีลานุวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มอร์แกน เดอ ทัว (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แต่งกาย ภายใต้แบรนด์ "มอร์แกน" เปิดเผยว่า ตลาดรวมสินค้าแฟชั่นในปีนี้เชื่อว่ามีอัตราการเติบโตไม่เกิน10% จากเดิมทุกปีจะเติบโตประมาณกว่า 10% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีและปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอนจึงส่งผลต่อสินค้ากลุ่มแฟชั่นที่ลูกค้าจะซื้อก็ต่อเมื่อไม่มีความกังวลถึงจะมีการจับจ่ายสินค้า
"ในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภคต่อสินค้าฟุ่มเฟือยหรือกลุ่มแฟชั่นพบว่าได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและราคาน้ำมันพอสมควร เนื่องจากผู้บริโภคไม่มั่นใจในสภาพเศรษฐกิจจึงไม่อยากฟุ่มเฟือย อีกทั้งสินค้ากลุ่มแฟชั่นเป็นสิ่งไม่จำเป็นมาก"
ด้านภาพรวมการแข่งขันของตลาดพบว่ามีการแข่งกันรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากต้องการช่วงชิงกำลังซื้อของลูกค้ากลับคืนมา ประกอบกับตลาดรวมมีการเติบโตไม่มากนัก จึงทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของแต่ละแบรนด์อาจจะไม่เติบโตมาก เหตุเพราะมีแบรนด์ใหม่เข้ามาร่วมแชร์มากขึ้น ส่วนโลคอล แบรนด์ปรับตัวดีขึ้นและสามารถแข่งขันกับตลาดนำเข้าได้เป็นอย่างดี
ไม่สนเศรษฐกิจตั้งเป้าสิ้นปีโต 70%
นางสาวมารินทร์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของบริษัทฯมีแผนรองรับสภาพเศรษฐกิจโดยการนำเสนอสินค้าแฟชั่นหรือสินค้าใหม่ทุกสัปดาห์ รวมถึงรักษาคุณภาพสินค้าและการบริการให้ดีอยู่เสมอ เพื่อพยายามรักษาฐานลูกค้าหรือสมาชิกที่มีกว่า 1,000 รายไว้ให้ได้
ทั้งนี้ภาพรวมครึ่งปีแรกของมอร์แกนพบว่ามีอัตราการเติบโต 40% เนื่องจากมีการเปิดสาขาใหม่ และยอดขายในสาขาเดิมที่มีอยู่ดีขึ้น โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 38 สาขา ภายในสิ้นปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ ที่เซ็นทรัล เวิลด์ ในรูปแบบแฟลกชิพสโตร์ บนพื้นที่ 270 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดบริการได้ในช่วงปลายเดือนกรกฏาคมนี้ และเตรียมเปิดร้านคอนเซ็ปต์ คอนเนอร์ที่เซนในช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป
ขณะที่ตลาดรวมในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าจะเติบโตดี โดยบริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตทั้งปีที่ 60-70% เนื่องจากตลาดมีการตอบรับสินค้าดี อีกทั้งบริษัทฯมีการเพิ่มสินค้าสำหรับกลุ่มวัยรุ่น หรือการที่บริษัทฯได้ลดราคาสินค้าลง15% จากการที่ภาษีนำเข้าเสื้อผ้าปรับลดลงจาก 36-37% เหลือกว่า 20% ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาเสื้อผ้าของมอร์แกนจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-2,600 บาท จากเดิมราคา 2,800-3,000 บาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|