เนชั่นผวาเศรษฐกิจชะลอลงทุน


ผู้จัดการรายวัน(7 กรกฎาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

เนชั่นฯ พร้อมรับมือพิษเศรษฐกิจ หันบริหารการจัดการ ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย หวังช่วยกู้รายได้จากโฆษณาของหนังสือพิมพ์ที่หดลง 5 % เชื่อสิ้นปียังมีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา ด้านธุรกิจนิตยสาร “ธนาชัย” ประธานมีเดียฯลั่นโอกาสและตลาดยังมีถ้าจับตลาดถูทาง เผยมีหัวใหม่จ่อคิดวางแผง คาดปีนี้อาจเห็น 1 หัว หวังสิ้นปีกลุ่มนิตยสารมีรายได้รวม 200 ล้านบาท เติบโต 100%

นายธนะชัย สันติชัยกูล รองประธานบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนเกี่ยวกับการบริหารการจัดการภายใน ควมคุมค่าใช้จ่าย มาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้บริษัทฯไม่คาดหวังในเรื่องของการเติบโตมากนัก แต่หวังว่าน่าจะช่วยให้บริษัทฯยังคงมีรายได้เท่าปีที่ผ่านมามูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทได้ก็ถือเป็นที่น่าพอใจแล้ว ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้

โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้น บริษัทฯยังคงมีรายได้หลักจากค่าโฆษณาอยู่ แต่คาดว่าช่วงครึ่งปีนี้รายได้จากค่าโฆษณาจะลดลง ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่สภาวะทางเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าชะลอการใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าโฆษณาจากกลุ่มหนังสือพิมพ์ได้ลดลงไปแล้วกว่า 5% แต่โชคดีที่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเฉพาะวันที่ 9-13 นั้น รายได้จากการจำหน่ายหนังสือพิมพ์นั้นสูง จึงยังคงทดแทนกันได้ ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์แบบนี้เกิดกับทุกค่ายเช่นเดียวกัน

ส่วนสถานการณ์ของตลาดหนังสือนั้น ยังคงมีการเติบโตที่ดีอยู่ โดยที่บริษัทฯได้เข้าร่วมทุน เปิดบริษัทฯใหม่ โดยเข้ามีหุ้นเพียง 10 % สำหรับการทำธุรกิจนิตยสารหัวนอกนั้น รายได้ที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังไม่มีแนวคิดที่จะเปิดตัวนิตยสารหัวนอกอีกในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจยังไม่ดีอยู่ ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้หลักจากกลุ่มสิ่งพิมพ์กว่า 90% ทีวี 5 %

**ตั้งบอร์ดใหญ่คุมนโยบายกลุ่มนิตยสาร**

นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท มีเดีย เอกซ์ เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจนิตยสารในเครือเนชั่น เปิดเผยว่า การทำธุรกิจนิตยสารในปัจจุบันนี้ต้องมีความรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้น ทั้งแนวทางการทำนิตยสารและการลงทุนเปิดหัวหนังสือใหม่ๆลงสู่ตลาด เนื่องจากตลาดแข่งขันกันค่อนข้างสูงทั้งการหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย การหาโฆษณา และการหาช่องทางจำหน่าย แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีโอกาสและช่องว่างในการเปิดหัวใหม่ๆหากสามารถมองตลาดทะลุและมีความพร้อมทั้งเงินทุนและทีมงาน

ทางบริษัทฯมีการปรับตัวมาตลอดเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยล่าสุด ได้ตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ขึ้นมา 1 ชุด เรียกว่า แมเนจเม้นท์ คอมมิตตี (Management Committee) มีประมาณ 8-9 คน โดยมีตนเองเป็นประธานที่ปรึกษา เพื่อเป็นคณะทำงานในการวางกรอบ นโยบาย ภาพรวมองค์กร การลงทุน และการทำงาน ของธุรกิจนิตยสารทั้งหมด รวมถึงการวิเคราะห์การแข่งขันของแต่ละเซ็กเม้นท์ในตลาดรวม ซึ่งจะแยกออกจากคณะกรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้น เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของธุรกิจด้วย

อย่างไรก็ตามในแง่ของคอนเท้นต์หรือการผลิตเนื้อหานั้น ก็จะมีคณะกรรมการของแต่ละหัวนิตยสารทำอยู่เดิมแล้ว ซึ่งคณะกรรมการชุดใหญ่นี้ไม่ได้ลงลึกถึงเนื้อหาแต่ละเล่มขนาดนัเน เพราะว่า บรรณาธิการบริหารแต่ละฉบับก็มีประสบการณ์และความสามารถในการบริหารอยู่แล้ว

ทั้งนี้บริษัทฯมีแผนที่จะออกนิตยสารใหม่ทั้งลิขสิทธิ์หัวนอกและการพัฒนาหัวในขึ้นมาเองต่อเนื่อง คาดว่าในปีนี้จะเปิดตัวได้อีก 1 หัวเป็นหัวใน และปีหน้าประมาณ 2 หัว เนื่องจากยังมีแนวโน้มการเติบโต แต่ต้องทำให้ถูกตลาดจึงจะไปได้ และบริษัทฯตั้งเป้าหมายว่า นิตยสารทุกเล่มที่ทำตลาดจะต้องคืนทุนให้ได้ภายใน 1 ปี ถ้าไม่เช่นนั้นก็จะเลิก

บริษัทฯไม่ได้กำหนดเป็นแผนตายตัวว่า จะต้องมีนิตยสารในความรับผิดชอบจำนวนกี่หัว แต่ดูความเหมาะสมเป็นหลัก และเปิดกว้างทั้งหัวไทยและหัวนอก ในช่วงหลังนี้จะมีการเปิดหัวในมากขึ้น โดยในช่วง 2 ปีของการก่อตั้งบริษัทฯมา ถือได้ว่าประสบความสำเร็จและเติบโตเร็วมากกับจำนวนนิตยสารรวม 8 เล่มที่ทำตลาดเวลานี้

ปัจจุบันบริษัทฯมีนิตยสารอยู่ในตลาดจำนวน 8 หัว เป็นลิขสิทธิ์หัวนอก 7 หัวคือ แฮร์, ลีฟวิ่ง, ฮาร์เปอร์บาซาร์, สวิมสูท ซึ่งทั้งหมดนี้เกิน 1 ปีและถึงจุดคุ้มทุนไปแล้ว ส่วน ท็อปเกียร์, วอลล์เปปอร์ และ เพรสทีจ นั้น ยังไม่ครบปี แต่มีแนวโน้มที่ดีทุกเล่ม ส่วนอีกหัวคือ สวิง ที่บริษัทฯซื้อมาจากกลุ่มเดิมของคนไทยก็เลี้ยงตัวได้แล้ว

“ก่อนหน้านี้ได้ตัดสินใจเลิกนิตยสารชื่อ เฟรเวอร์ ไปแล้ว เนื่องจากไม่ประสบความสำเร็จและแนวดโมของตลาดไม่ค่อยดีด้วย ซึ่งเราเองก็ไม่ต้องการที่จะสวนทางกับความเป็นจริง เล่มใดไม่ดีก็เลิก เล่มใดดีก็ทำต่อและปรับปรุงไปเรื่อยๆ เราต้องปรับตัวตลอดเวลา หยุดไม่ได้ เพราะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ” นายธนาชัยกล่าว

ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้รวมของนิตยสารไว้ที่ 200 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 100% เนื่องจากมีการทำตลาดที่ต่อเนื่องและการผลิตนิตยสารที่ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การหาโฆษณาได้ตามเป้าหมาย

ล่าสุดนิตยสารลีฟวิ่ง ได้ร่วมมือกับทางบริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอล์ จำกัด และ ศูนย์ทีซีดีซี ในการจัดโครงการ ประกวดออกแบบตกแต่งห้อง ภายใต้แนวคิด “Living Big in Small Space” ซึ่งมาจากแนวคิดที่ต้องการให้นักออกแบบดึงเอาไอเดียมาสร้างสรรค์ในแบบฉบับของตัวเองมาผสมผสานกับการบริหารพื้นที่ที่จำกัด 45 ตารางเมตร และด้วยประมาณจำกัด 350,000 บาท เพื่อชิงรางวัลใหญ่สุดเป็นเงิน 1 แสนบาท พร้อมสมาชิกนิตยสารลีฟวิ่งฟรี 1 ปี


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.