ธนมิตรฯคาดผลงานไตรมาส2เจ๋งรับดอกเบี้ยขาขึ้นดันลูกค้าเติบโต


ผู้จัดการรายวัน(5 กรกฎาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

DM คาดผลงานไตรมาส 2 จะดีกว่าไตรมาสแรกที่แม้ปัจจัยรอบด้านรุมเร้า แต่ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยขาขึ้น ลูกค้าหันมาใช้บริการเพิ่ม พร้อมตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้ให้ได้ 1 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ 10% เล็งโรดโชว์ในประเทศเพื่อเปิดตัวให้นักลงทุนรับรู้ข้อมูลบริษัทมากขึ้น

นายวิวัฒน์ คงคาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนมิตร แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน)(DM) เปิดเผยว่าคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ว่าน่าจะสูงกว่าไตรมาสแรกปีนี้ที่บริษัทมีรายได้ 21.35 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้การบริโภคของประชาชนลดลง ซึ่งทำให้ปริมาณการรับซื้อสิทธิเรียกร้องของบริษัทแรกลดลง ขณะที่ต้นทุนในการบริหารเพิ่มขึ้น

“เรายังเชื่อว่าผลงานไตรมาส 2 จะดี แม้ว่ามูลค่าจะลดลง แต่ปริมาณของลูกค้าใหม่เราเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ลูกค้าหันมาพึ่งเรามากกว่าปกติ ” นายวิวัฒน์

สำหรับปีนี้ บริษัทยังตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 10% แม้ผลงานไตรมาสแรกจะออกมาไม่ดีนักก็ตาม เพราะมองว่าในไตรมาส 2 แนวโน้มจะดี บวกกับครึ่งปีหลังที่มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถทำได้ตามเป้าได้ จากความต้องการใช้ของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับธุรกิจแฟคตอริ่งที่มีอัตราการเติบโตที่ดี โดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 40-50%

อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ส่งผลให้การใช้จ่ายชะลอตัวลง ทำให้ลูกค้าเก่าลดลงเช่นกัน แต่ DM พยายามหาลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มทดแทน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ทำธุรกิจขนาดกลางและย่อม โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าอยู่เกือบ 300 ราย และพอร์ตสินเชื่อ ณ สิ้นปี 48 อยู่ที่ 8,300 ล้านบาท

“เราตั้งเป้าที่จะทำให้พอร์ตสินเชื่อของเราให้ได้ที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาทในปีนี้ หรือหากคลาดเคลื่อนก็บวกลบ 10% เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการของลูกค้าที่น่าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลูกค้า เอสเอ็มอี ที่เมื่อแบงก์เข้มงวดในการปล่อยกู้ก็จะหันมาเป็นลูกเรา ” นายวิวัฒน์กล่าว

สำหรับต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น DM ต้องบริหารต้นทุนทางการเงิน ด้วยการกู้เงินจากแบงก์เป็นแบบระยะยาว 6-9 เดือน และผลักภาระต้นทุนให้กับลูกค้าได้บ้าง โดยเมื่อปี 48 ที่ผ่านมา บริษัทได้ผลักภาระให้กับลูกค้าได้บางส่วน ซึ่งแต่ละครั้งปรับได้ 0 .25- 0.50 % และDM ยังโอนสิทธิการรับเงินมาดำเนินการเอง เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน รวมทั้งการบริหารพอร์ตสินเชื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

โดยที่ผ่านมา บริษัทปรับขึ้นดอกเบี้ยของลูกค้า โดยการปล่อยสินเชื่อของบริษัทเป็นระยะสั้นทำให้เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นบริษัทก็สามารถปรับขึ้นตามได้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ปล่อยให้กับลูกค้าอยู่ที่ 10-12 %

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พอร์ตสินเชื่อเพิ่มได้ตามเป้าหมายแล้ว บริษัทมีแผนที่จะไปโรดโชว์ในประเทศเพื่อเปิดเผยข้อมูลให้กับนักลงทุนได้รับทราบข้อมูลบริษัทมากขึ้น เนื่องจากเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่นักลงทุนไม่ค่อยให้ความสนใจนัก


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.