| |
คอนโดฯยังแรงราคาพุ่งต่อเนื่องไตรมาส1กทม.ขึ้น12%จากปี48
ผู้จัดการรายวัน(5 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ไรมอน แลนด์ เผยผลวิจัยตลาดคอนโดมิเนียม พบเขตกรุงเทพราคาปรับขึ้น 12% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จากราคาเฉลี่ย 72,596 บาท ต่อ ตร.ม. เป็น 81,975 บาท ต่อ ตร.ม. ตลาดพัทยาแนวโน้มราคาเพิ่มต่อเนื่องเหตุสินค้าสร้างเสร็จเข้าสู่ตลาดน้อย ส่วนตลาดภูเก็ตยอดขายโต 20%
บริษัทไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลงานวิจัย "คอนโดมิเนียมโฟกัส" ว่า นับตั้งแต่ปี 2548 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้เน้นการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในมือให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดจากการลงทุนจากภาวะปัจจัยลบในตลาด นอกจากนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังได้เบนเข็มการลงทุนไปยังในตลาดอสังหาฯระดับกลางที่จำนวนยูนิตขนาดเล็กและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำกัด
สำหรับภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมโดยแยกเป็นทำเลในเขตกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่าบริษัทร่วมทุนต่างชาติรวมถึงบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เข้ามามีบทบาทหลักในตลาดคอนโดมิเนียมมากขึ้น โดยมีการเปิดตัวห้องชุดในบริเวณใจกลางกรุงเทพฯจำนวน 1,500 ยูนิต โดยมุ่งเน้นการพัฒนาในพื้นที่บริเวณสุขุมวิท ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังพบว่า ราคาห้องชุดในเขตกรุงเทพฯ ได้ปรับตัวสูงขึ้น 12% จาก 12 เดือนที่ผ่านมา ผู้ซื้อจะต้องจ่ายเงินโดยเฉลี่ย 81,975 บาท ต่อ ตร.ม. เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของห้องชุดในคอนโดมิเนียมใจกลางกรุง เปรียบเทียบกับราคาเฉลี่ยที่ 72,596 บาท ต่อ ตร.ม. เมื่อ 12 เดือนที่ผ่านมา และเมื่อแยกเป็นทำเลพบว่าราคาห้องชุดในไตรมาส 1 ของปีนี้ ย่านลุมพินี 99,452 บาท ต่อ ตร.ม., สีลม/สาทร 76,940 บาท ต่อ ตร.ม., สุขุมวิท 71,272 บาท/ตร.ม., พระราม 3 62,195 บาท ต่อ ตร.ม.และริมแม่น้ำ 78,413 บาท ต่อ ตร.ม.
สำหรับ ตลาดภูเก็ตตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตยืนยันว่าการท่องเที่ยวได้ฟื้นคืน ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มีผู้โดยสารจำนวน1.3 ล้านคนเดินทางถึงสนามบินนานาชาติภูเก็ตซึ่งคิดเป็นจำนวน 2 เท่าของช่วงเดียวกันในปี 2005 หลังเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ การท่องเที่ยวได้ฟื้นคืนสู่สภาพปกติและกลับไปยังระดับเดียวกันกับในปี 2004 คือมีผู้โดยสารจำนวน 1.28 ล้านคนในระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2004 เมื่อการท่องเที่ยวฟื้น ทำให้ความต้องการห้องชุดพักอาศัยมีเพิ่มมากขึ้นทั้งจากคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติเอง โดยในปี 2548 มีห้องชุดจำหน่ายออกไป 377 ยูนิต ที่ราคาเฉลี่ย 64,480 บาทต่อตร.ม. เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2547 ที่มีห้องชุดจำหน่ายออกที่ 276 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 52,780 บาทต่อตร.ม. ซึ่งผู้ซื้อกว่า 70% เป็นชาวต่างชาติ อาทิ อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเรียและกลุ่มประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย
ส่วนตลาดพัทยา การกลับมาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติ ในปี 2548 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 5.3 ล้านคนเดินทางมายังพัทยา และ 1.5 ล้านคนที่พักใน โรงแรมระดับ 4 และ 5 ดาว
โดยในปีนี้คาดว่าจะมีห้องชุดเข้าสู่ตลาดน้อยกว่า 250 ยูนิต ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่ง 95% ของจำนวนนี้ได้ถูกจำหน่ายออกไปแล้ว และจะมีห้องชุดอีกจำนวน 270 ยูนิต กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2550-2551 ส่วนโครงกาตึกสูงที่กำลังออกสู่ตลาด คาดการณ์ว่าจะไม่สามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จก่อนปี 2251-2552 ซึ่งการขาดแคลนโครงการใหม่ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์จะเป็นตัวผลักดันให้ราคาจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้นอีกในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้านี้
สำหรับไรมอนแลนด์ มีโครงการนอร์ธชอร์ พัทยา ที่มีห้องชุดถูกจำหน่ายต่อถึง 40 ยูนิต ด้วยผลตอบแทนสูงถึง 20 - 50% ของราคาขายตอนเปิดโครงการ หลังจากนั้นบริษัทจึงได้เตรียมเปิดตัวโครงการนอร์ธพ้อยน์ เร็วๆนี้ โครงการนอร์ธพ้อยน์เป็นโครงการใหม่ที่ประกอบด้วยห้องชุดวิวทะเลประมาณ 350 ยูนิต ติดชายหาดวงอมาตย์ที่กว้าง 80 เมตร และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างพร้อมสรรพ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ซื้อลงทะเบียนเพื่อแสดงความสนใจในการจองซื้อห้องชุดของโครงการนี้แล้วกว่า 1,000 คน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|