|

"ทนง"ขู่จีดีพีปีหน้าโตแค่2%ธปท.พอใจทิศทางศก.ฟุ้งเงินเฟ้อลด
ผู้จัดการรายวัน(5 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
หม่อมอุ๋ยพอใจทิศทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ระบุเงินเฟ้อลดลงแน่นอน "ทนง พิทยะ" ยังมั่นใจเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 4.5% แต่ปีหน้าอาจเหลือแค่ 3.5% และหากเลวร้ายสุดกรณีการเมืองมีปัญหาและงบปี 2550 ล่าช้า จะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเหลือแค่ 2%
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงความพอใจกับอัตราเงินเฟ้อล่าสุดในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน เพียง 5.9% เพราะเป็นการเพิ่มขึ้นที่ต่ำกว่าที่ ธปท.ประมาณการไว้ ทำให้ลดแรงกดดันในเรื่องของการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (อัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร อายุ 14 วัน) ในอนาคต
“เป็นเรื่องที่ดี คาดว่าในอัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.ค.จะปรับลดลงได้อีก เพราะในปีที่ผ่านมาได้มีการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลทำให้ฐานเงินเฟ้อเดือน ก.ค.ปีที่ผ่านมาสูงเมื่อเทียบกับฐานในช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมาและเมื่ออัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลงก็เป็นไปตามการคาดการณ์ของแบงก์ชาติในเรื่องอัตราดอกเบี้ย” ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว
โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ เนื่องจากราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ลดลง แต่กระทรวงระบุว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องราคาน้ำมัน ที่อาจผลักดันให้เงินเฟ้อขยายตัวค่อนข้างสูง แม้ไม่สูงเท่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) มิถุนายนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3
4 กรกฎาคม 2549
รายงานข่าวระบุว่า ธปท.ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าหากอัตราเงินเฟ้อเริ่มปรับลดลง ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป และเห็นการลดลงที่ชัดเจนในช่วงเดือน ส.ค.แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะสามารถทรงตัวอยู่ที่ระดับ 5% แม้ว่าคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น เฟด ฟันด์ เรตของสหรัฐก็ตาม ทั้งนี้ เมื่ออัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่เดือนมิ.ย.ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เงินเฟ้อเป็นไปตามประมาณการ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อล่าสุดเดือน มิ.ย.ที่อยู่ในระดับ 5.9% และอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้า ที่อยู่ประมาณ 4.5% เทียบกับกับอัตราเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง ซึ่งอยู่ที่ระดับ 4% จะพบว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริงยังคงติดลบอยู่ประมาณ 0.5-0.6% ฝ่ายนโยบายการเงิน ธปท. ให้ความเห็นว่า ตามสภาพการณ์ของระบบการเงินของไทยในขณะนี้ หากพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 12 เดือนจะเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังเป็นลบ แต่เชื่อว่าในอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 12 เดือนจะต้องปรับเพิ่มขึ้นอีก แม้ว่าธปทจะไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มก็ตาม
นอกจากนั้นจะเห็นว่า ธนาคารพาณิชย์พยายามเลี่ยงด้วยการออกเงินฝากอายุใหม่ขึ้นมา เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 9 เดือน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของหลายธนาคารพาณิชย์สูงกว่าเงินฝากประจำ 12 เดือนด้วยซ้ำ หากประชาชนเลือกฝากช่องทางนี้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่จะได้รับจะติดลบน้อยลงหรือบางแห่งจะเริ่มเป็นศูนย์หรือเป็นบวกด้วยซ้ำ
วานนี้ (4 ก.ค.) นายทนง พิทยะ รักษาการ รมว.คลัง เปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวีว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2549 จะขยายตัวได้ตามเป้าหมายกระทรวงการคลังคือ 4.5% แต่ในปี 2549 เศรษฐกิจอาจจะขยายตัวเหลือเพียง 3.5-4.0% และอาจจะมีโอกาสขยายตัวเพียง 2% ในทางที่เลวร้ายที่สุดที่เศรษฐกิจปีหน้าจะโตได้เพียง 2% ตามที่นายโอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษา รมว.คลัง ได้คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะปัญหาการเมืองที่อาจทำให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไป ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการใช้งบประมาณปี 2550 ให้เลื่อนออกไปนานมาก
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|