|
ไวไวรับจ้างขายสินค้าหาลำไพ่ตลาดรวมลดงบ43%ศึกราคาหนักครึ่งหลัง
ผู้จัดการรายวัน(4 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
"ไวไว" ชี้ผู้ประกอบการบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปแห่ปรับตัวรับเศรษฐกิจหดตัว 5 เดือนแรกหั่นงบโฆษณาลง 43% แถมเมินออกรสชาติใหม่ ระบุเทรนด์ครึ่งปีหลังสงครามไพรซ์วอร์ถี่ขึ้น ล่าสุดไวไวปรับตัวรับเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าหารายได้เสริมทัพ ทุ่ม 60 ล้านบาท ปั้นไวไว ควิก รสชาติใหม่กุ้งนึ่งมะนาวขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ดันแชร์เพิ่ม 2-3% สิ้นปีแชร์รวมเพิ่ม 3-5% จากเดิมมี 28% ส่วนปีหน้าปั้นบะหมี่ชาม หลังพบเทรนด์ตลาดมาแรง
นายสุชัย ตันติยาสวัสดิกุล ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา "ไวไว" เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่า 10,000 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 7-8% แม้ว่าสภาพตลาดจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่กลับพบว่าในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมานี้ ผู้ประกอบการรายหลักที่อยู่ในตลาด 3 ราย ลดงบในการทำตลาดลงถึง 43% นอกจากนี้ยังไม่มีการออกรสชาติใหม่ๆ จากเดิมแต่ละรายจะเปิดตัวรสชาติใหม่ 1-2 รสชาติ
ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะมีปัจจัยบวกหนุนไม่ว่าจะเป็น สภาพอากาศในช่วงฤดูฝน ทำให้คนไม่อยากออกนอกบ้านเพื่อรับประทานอาหาร หรือกระทั่งฤดูหนาวคนต้องการรับประทานอาหารจานร้อนมากกว่า จึงคาดว่าการแข่งขันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีความรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือกระทั่งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะสงครามราคาจะมีความถี่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้คาดว่าสภาพตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งปีจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา คือ 9%
สำหรับการทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผู้ประกอบการทุกรายจะเน้นขยายฐานกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื่องจากมองกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวยังไม่มีความภักดีต่อตราสินค้าสูงมากนัก สามารถสวิตช์ชิ่งมาสู่สินค้าภายใต้แบรนด์ตนเองได้ง่าย ดังนั้นการแข่งขันเพื่อดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผู้ประกอบการจะงัดสร้างการจดจำตราสินค้า ส่วนกลุ่มเป้าหมายเดิมการแข่งขันจะเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การปรับปรุงหรือพัฒนาสินค้าใหม่ๆ หรือกระทั่งการแจกของพรีเมียม
นายสุชัย กล่าวถึงแผนการทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไวว่า บริษัทฯได้ปรับลดงบการตลาดลง จากเดิมที่คาดว่าจะใช้ 315 ล้านบาท เป็นเหลือ 300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงบการตลาดปีที่ผ่านมาใช้ 280 ล้านบาท โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเปิดตัวรสชาติใหม่ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไวชนิดซองหรือไม่ ซึ่งจะพิจารณาจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก ส่วนครึ่งปีหลังจะมีการทำโปรโมชั่นตลอด พร้อมกันนี้บริษัทฯยังได้ปรับตัวรองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ด้วยการรับเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหารหรือเครื่องดื่ม เพื่อสร้างรายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง โดยปัจจุบันบริษัทฯมีหน่วยรถกระจายสินค้า 70 - 80 คัน จากในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 3,000 ล้านบาท
ล่าสุดบริษัทฯได้ทุ่มงบ 60 ล้านบาท เปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "ไวไว ควิก" รสกุ้งนึ่งมะนาวรสชาติใหม่ลงสู่ตลาด เนื่องจากไวไว ควิก เป็นซับแบรนด์ที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่าไวไวชนิดซอง เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายอายุ 15-25 ปีเพิ่มขึ้น ไวไว ควิก เป็นรายแรกในตลาดที่ออกรสชาติใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ ปัจจุบันไวไว ควิก มีทั้งหมด 3 รสชาติ ได้แก่ รสต้มยำกุ้ง รสต้มโคล้ง และรสต้มยำกุ้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนพฤษภาคมบริษัทฯเพิ่งรีลอนช์แพกเกจจิ้งใหม่ด้วยตัวการ์ตูนเอนิเมชั่น ส่วนเดือนมิถุนายนนำภาพยนตร์โฆษณาไวไว ควิก บรรจุภัณฑ์ถ้วยตอกย้ำตราสินค้า
ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดถ้วย เป็นเซกเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูง บริษัทฯจะเน้นจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายไวไว ควิกชนิดถ้วยผ่านช่องทางจำหน่ายหลัก โมเดิร์นเทรด และร้านค้าสะดวกซื้อ เพื่อรั้งตำแหน่งอันดับสองของตลาด ด้วยการครองส่วนแบ่ง 33-35% ส่วนมาม่าเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 49% และอันดับสามนิสชิน กว่า 10% จากมูลค่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดถ้วย 500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% ของตลาดรวม
ในปีหน้าบริษัทฯเตรียมรุกตลาดบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปบรรจุภัณฑ์โบว์ล โดยตั้งราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 15-25 บาท จากปัจจุบันราคาของคู่แข่ง 18-20 บาท เพราะแนวโน้มใน 2-3 ปีข้างหน้านี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโบวล์จะเป็นตลาดใหญ่และมีความคึกคักมากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย
สำหรับสิ้นปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายภายใต้แบรนด์ไวไวมีส่วนแบ่งเพิ่ม 3-5% จากในปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่ง 28% โดยแบ่งเป็น ไวไว ควิก จะมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 7-8% เป็น 10% ในสิ้นปีนี้ ซึ่งคาดว่ารสกุ้งนึ่งมะนาวจะมีส่วนแบ่ง 2-3% ส่วนไวไวชนิดซองรักษาส่วนแบ่งไว้ที่ 20-21% เป็นอันดับสองของตลาดรองจากมาม่าครองส่วนแบ่ง 50% ส่วนด้านสแน็ก "คูลิ คูลิ" บริษัทอยู่ระหว่างปรับกลยุทธ์ทางการตลาด เนื่องจากตลาดสแน็กมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง แต่บริษัทฯจะยังคงทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|