|
เงินเฟ้อมิ.ย.ไม่ขยับ-การุณยันทั้งปี4-4.5%
ผู้จัดการรายวัน(4 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
“การุณ”คาดเงินเฟ้อครึ่งปีหลังชะลอตัวลงแน่ เพราะฐานน้ำมันปีก่อนสูง แถมพาณิชย์อัดโครงการธงฟ้าช่วยดึงราคาสินค้า ยืนยันเงินเฟ้อ 4-4.5% แต่อาจปรับเป้าใหม่หลังเดือนก.ค. “สมคิด” สั่งทำโครงการธงฟ้านำสินค้าราคาถูกขายถึงที่ทำงานข้าราชการและผู้ใช้แรงงาน ลดค่าครองชีพ พร้อมผุดสถานพยาบาลธงฟ้า คิดค่ารักษาถูกๆ
นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือนมิ.ย.2549 เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.2549 ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.2548 สูงขึ้น 5.9% และเทียบเฉลี่ย 6 เดือนแรกของปี 2549 (ม.ค.-มิ.ย.) กับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สูงขึ้น 5.9%
เงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ที่ไม่เปลี่ยนแปลงทั้งที่เดือนพ.ค.สูงขึ้นถึง 0.7% นั้น แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้ออ่อนตัวลงค่อนข้างมาก โดยดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลง 1.1% สินค้าที่มีราคาลดลง เช่น มะนาวลดลง 64% ผลไม้สด ลดลง 1.1% รวมถึงนมข้นหวาน ครีมเทียม น้ำมันพืชที่มีราคาลดลง ส่วนข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียวและไข่ไก่ ราคาสูงขึ้น ขณะที่ดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 0.5% ซึ่งสาเหตุหลักยังคงเป็นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น 2.4% ค่ากระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากการปรับค่า Ft 9.60 สตางค์ต่อหน่วย ค่าโดยสารเครื่องบินภายในประเทศเพิ่มขึ้น 1.9%
แต่ทั้งนี้ จากมาตการธงฟ้าของกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินค้าหลายชนิดมีราคาลดลง เช่น น้ำมันใส่ผม ครีมนวดผม น้ำยาปรับผ้านุ่ม แปรงสีฟัน และผ้าอนามัย เป็นต้น
“แรงกดดันเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา ตัวหลักคือน้ำมัน และสิ่งที่ต่อเนื่องจากน้ำมัน เช่น ค่าโดยสาร ค่าไฟฟ้า และสินค้าที่ขึ้นอยู่กับฤดูกาล เช่น ผักสด ผลไม้สด โดยบางเดือนก็มีปัจจัยอื่นๆ เข้ามากดดันเงินเฟ้อ เช่น ค่าธรรมเนียมรถด่วน ค่าอุปกรณ์การเรียน ซึ่งก็เกิดขึ้นครั้งเดียวแล้วจบ”
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินเฟ้อหลังจากเดือนก.ค.เป็นต้นไป จะมีแนวโน้มลดต่ำ เพราะฐานราคาน้ำมันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นฐานที่น้ำมันมีการปรับขึ้นราคาแล้ว ผิดกับช่วงต้นปี ที่ฐานน้ำมันยังต่ำ ขณะที่สินค้าฤดูกาล ก็เริ่มมีราคาลดลง ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์มีโครงการธงฟ้าออกมาตลอด ก็จะดึงให้ราคาสินค้าถูกลง ทำให้เงินเฟ้อช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวขึ้นไม่มาก ทั้งนี้ เงินเฟ้อทั้งปียังคาดว่าจะอยู่ในระดับ 4-4.5% โดยจะมีการปรับประมาณการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อทั้งปีอีกครั้งหลังจากเดือนตัวเลขในเดือนก.ค.แล้ว
สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งหักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสดและสินค้ากลุ่มพลังงานจำนวน 107 รายการ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 24% ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.2549 สูงขึ้น 0.1% เทียบกับเดือนมิ.ย.สูงขึ้น 2.7% และเทียบเฉลี่ย 6 เดือนแรกของปีนี้กับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วสูงขึ้น 2.7%
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในไปดำเนินการจัดทำโครงการธงฟ้า ขยายไปสู่กลุ่มข้าราชการและผู้ใช้แรงงาน โดยขอให้จัดโมบายนำสินค้าราคาถูกและสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพไปจำหน่ายถึงสถานที่ๆ ทำงาน เพราะคนกลุ่มนี้ลำบากมากเมื่อเทียบกับภาคส่วนอื่นๆ ในสังคม จึงต้องหาทางลดค่าครองชีพให้ด้วย
“ที่ผ่านมา โครงการธงฟ้าถือว่าประสบผลสำเร็จ สามารถช่วยลดแรงกดดันด้านราคาสินค้า จนทำให้ค่าครองชีพของประชาชนลดลง โดยดูได้จากอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเพียง 5.9% หลังจากที่เคยปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่กระทรวงพาณิชย์ดูแลได้ดี ทั้งๆ ที่น้ำมันเป็นตัวกดดันอย่างหนัก แต่สินค้าก็ปรับขึ้นราคาไม่มาก ”นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้ขอให้กรมการค้าภายในไปหารือกับสมาคมที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์ และโรงพยาบาลใหญ่ๆ เพื่อให้ส่งหมอที่พร้อมจะเสียสละมาเข้าร่วมโครงการสถานพยาบาลธงฟ้า โดยจะจัดสถานที่รักษาพยาบาลโรคทั่วๆ ไปในราคาถูกมากๆ เพื่อบรรเทาภาระให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับประชาชน นอกเหนือจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|