|
จัดสรรควงลูกค้าเคลียร์เงินกู้แบงก์เอ็น.ซี.ชี้รายได้2-5หมื่นบาทถูกเด้ง
ผู้จัดการรายวัน(3 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
อสังหาฯแก้เกมลูกค้าทิ้งดาวน์หลังถูกแบงก์ปฎิเสธเงินกู้ เอ็น.ซี.ฯดึงลูกค้าเคลียร์กับแบงก์เป็นรายๆ ช็อกรายได้2-5 หมื่นบาทยังกู้ไม่ผ่าน ปรับตัวลดพอร์ตบ้านพร้อมอยู่-บ้านสร้างก่อนขาย ขยับบ้านสั่งสร้างให้สูงขึ้น ด้านอิสระ บุญยัง แนะผ่อนหนี้ยาวขึ้น
นับตั้งแต่ช่วงปลายปี48ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายด้าน ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อประเมินสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย และการเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง รวมถึงธนาคารพาณิชย์มีนโยบายที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เนื่องจากการขาดความมั่นใจต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในขณะนี้
ต่อกรณีดังกล่าว นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮาส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จริงๆแล้ว ในภาวะปกติปัญหาการกู้ไม่ผ่านของลูกค้าถือว่าเป็นเรื่องปกติ โดยในช่วงที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับลูกค้าในทุกๆบริษัท แต่อาจจะมีสัดส่วนไม่สูงเมื่อเทียบกับปัจจุบัน โดยในระยะ 3-4 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯพบว่า จำนวนลูกค้าที่ขอสินเชื่อและถูกปฎิเสธเพิ่มมากขึ้นกว่าภาวะปกติที่เฉลี่ยอยู่ที่ 10% เพิ่มขึ้นถึง 20%
" ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ เอ็น.ซี.ฯ ก็พยายามหาแนวทางช่วยเหลือลูกค้า ด้วยการแนะนำให้เลือกซื้อบ้านหลังเล็กลง ซึ่งบริษัทมีสินค้าไว้รองรับอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่ลูกค้าต้องการซื้อบ้านหลังใหญ่ตามที่ต้องการ จะแนะนำให้หาผู้กู้ร่วมเพื่อเพิ่มอำนาจในการขอเงินกู้ อย่างไรก็ตามปัญหาการกู้ไม่ผ่านนี้ บริษัทจะพิจารณาช่วยเหลือเป็นรายๆ ไป เนื่องจากลูกค้าแต่ละรายมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป"นายสมเชาว์ กล่าว
สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ที่กู้ไม่ผ่านนั้น มีระดับรายได้ต่อเดือนประมาณ 20,000 -50,000 บาท ส่วนกลุ่มที่มีรายได้100,000บาทต่อเดือนขึ้นไปส่วนใหญ่เกือบ 100% จะไม่มีปัญหาในการขอกู้ เนื่องจากมีกำลังและความสามารถในการผ่อนที่สูงอยู่แล้ว ส่วนผู้ที่กู้ไม่ผ่านดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มที่มีปัญหาเรื่องศักยภาพในการผ่อน และมีหนี้หลายทาง หรือเป็นกลุ่มที่ผิดนัดชำระหนี้บ้าง ซึ่งเอ็น.ซี.ฯ ก็แนะนำให้ไปแก้หนี้ในส่วนอื่น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทได้ปรับสัดส่วนการก่อสร้างบ้านใหม่ โดยทยอยเพิ่มสัดส่วนบ้านสั่งสร้างให้มากขึ้น จากเดิมที่ตามแผนจะมีสัดส่วนในการพัฒนาบ้านแบ่งเป็น บ้านสั่งสร้างกว่า 30% ขณะนี้เริ่มทยอยเพิ่มบ้านสั่งสร้างให้มากขึ้น ส่วนบ้านพร้อมอยู่จะทยอยปรับลดลง จากเดิมมีสัดส่วนการก่อสร้างประมาณ 30% กว่า ส่วนที่เหลือเป็นบ้านสร้างก่อนขาย 30% กว่าจะลดลง เพื่อเป็นการบริหารต้นทุนและลดความเสี่ยงทางด้านสินค้าคงเหลือ(สต๊อก)ไม่ให้มีสูงเกินไป
ด้านนายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัทกานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า การเข้มงวดปล่อยกู้ของ สถาบันการเงินนั้น เป็นผลมาจากการปรับอัตราดอกเบี้ยส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ คือความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์การเมือง ซึ่งยังมีความผันผวนอยู่ ขณะที่ความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์คาดจะเป็นปัญหาระยะสั้น
"ลูกค้าของบริษัทกานดาที่กู้ไม่ผ่านเฉลี่ยไม่มากประมาณ 5-7% แต่ขณะนี้พบว่าลูกค้ากู้ไม่ผ่านเพิ่มขึ้น 10% และจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการรายอื่น บางบริษัทมีลูกค้ากู้ไม่ผ่านสูงถึง 30% ส่วนวิธีการแก้ไขของบริษัทนั้น ได้ให้ลูกค้าตรวจสอบการกู้เงินกับธนาคารก่อนจองซื้อ หรือแนะนำให้ซื้อบ้านเล็กลง ขอเพิ่มระยะการผ่อนยาวขึ้น "นายอิสระกล่าว
ส่วนการปรับตัวของผู้ประกอบการนั้น เชื่อว่าทุกรายมีการปรับตัวกันมากอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ สังเกตได้จากราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยจะลดลง โดยในปี48 นั้นราคาขายเฉลี่ยของบ้านในตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาทต้นๆ ส่วนปี49 ราคาเฉลี่ยลดลงมาอยู่ที่ 2.6-2.7 ล้านบาทเท่านั้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|