|
แอร์ไลน์อาหรับคึกคัก พาเหรดขอเที่ยวบินเพิ่ม
ผู้จัดการรายสัปดาห์(3 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ในที่สุดรัฐบาลรักษาการณ์ชุดนายกรัฐมนตรีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรก็ประกาศเปิดให้บริการของสนามบินสุวรรณภูมิภายในวันที่ 28 กันยายน 2549 ส่งผลให้สายการบินต่างประเทศเริ่มปรับตัวรับกระแสทันที ว่ากันว่าในบรรดาสายการบินต่างประเทศกว่า 87 สายการบินมีการขอเพิ่มเที่ยวบินเข้าประเทศกว่า 2,427 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ มีความเคลื่อนไหวของสายการบินจากภูมิภาคตะวันออกกลางและภูมิภาคเอเชียมากที่สุด
นโยบายการเปิดน่านฟ้าเสรีของไทย ส่งผลให้สายการบินจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก และสายการบินแถบตะวันออกกลางดูจะคึกคักเป็นพิเศษมีการขอเที่ยวบินเพิ่มเพื่อเปิดตลาดใหม่ให้ทั้งคนไทยและคนตะวันออกกลางมีการเดินทางมากขึ้น ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิประกาศพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายนศกนี้ ศักยภาพของประเทศไทยจึงน่าจะเป็นประตูสากลสู่เมืองหลายๆแห่งในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม กัมพูชา ลาวและพม่า ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งของสายการบินตะวันออกกลางที่ตัดสินใจเข้ามาเปิดให้บริการอันเป็นที่มาของการขอเพิ่มเที่ยวบินในที่สุด โดยคาดว่าปีนี้จุดบินจากไทยไปตะวันออกกลางน่าจะมีการเติบโตถึง 45%
ล่าสุดสายการบินตะวันออกกลางอาทิ เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ ก็มีการขอเพิ่มเที่ยวบินจากซัมเมอร์ที่แล้วซึ่งบินอยู่สัปดาห์ละ 14 เที่ยวบินเป็นสัปดาห์ละ 21 เที่ยวบิน รวมไปถึงสายการบินเอทิฮัต แอร์เวย์ ที่เพิ่มจากสัปดาห์ละ 4 เที่ยวบินเป็นสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน
มาร์วาน โคลอยลัด ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ประจำภาคพื้นตะวันออกไกลและออสเตรเลีย สายการบินกาตาร์ ให้ความเห็นว่า ขณะนี้ปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างไทยและตะวันออกกลางมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก กอปรกับมีสายการบินจากตะวันออกกลางเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นทำให้ทุกสายการบินต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อช่วงชิงลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการปรับบนภาคพื้นดินและบนอากาศ
“กรุงเทพฯเป็น 1 ใน 12 จุดหมายปลายทางที่ต้องการให้บริการสำหรับเส้นทางตะวันออกไกล คาดว่าน่าจะเป็นร้อยละ 15 ของเครือข่ายการบินกาตาร์ในต่างประเทศทั้งหมด”มาร์วาน กล่าว
ปัจจุบันสายการบินกาตาร์ เปิดให้บริการเที่ยวบินจาก 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เพิ่มขึ้นเป็น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ หวังรองรับตลาดจากนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่มีความต้องการเดินทางในเส้นทางไปและกลับในแถบเอเชียที่นับวันจะมีตัวเลขจะเพิ่มมากขึ้น
พลิกกลยุทธ์สู้
การเพิ่มเที่ยวบินให้มากขึ้นเพื่อขนถ่ายผู้โดยสารเป็นเพียงกลยุทธ์หนึ่งที่ถูกนำมาใช้ของสายการบินตะวันออกกลาง ขณะที่การปรับกลยุทธ์บนภาคพื้นดินและการใช้เครื่องบินที่ทันสมัยยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอีกทางหนึ่ง
สอดคล้องกับที่ มร.โรฮาน เสนีวิรัตน์ ผู้จัดการเขตประจำประเทศไทยและกัมพูชาของสายการบินกาตาร์ กล่าวว่า การเพิ่มความสะดวกในการให้บริการสำหรับผู้โดยสารจำเป็นต้องเปิดสำนักงานสาขาที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ
นอกจากนี้การใช้เครื่องบินที่ทันสมัยรุ่น แอร์บัส A330-200 มีชั้นผู้โดยสารธุรกิจซึ่งสามารถปรับเก้าอี้เอนนอนได้ 160 องศาถึง 24 ที่นั่ง ขณะที่ชั้นประหยัดจะมีที่นั่งประมาณ 259 ที่นั่ง มาให้บริการคืออิมเมจที่จะสร้างความมั่นใจของผู้โดยสารได้ดีทีเดียว
อย่างไรก็ตามการพัฒนาสนามบินนานาชาติโดฮาแห่งใหม่ ที่สายการบินกาตาร์ คาดว่าจะเป้นศูนย์กลางการบินแห่งอนาคตในแถบภูมิภาคตะวันออกกลาง กำลังเริ่มปรับโฉมอาคารอามิรี เทอร์มินัล สำหรับเที่ยวบินระดับวีไอพี พร้อมด้วยลานจอดพิเศษ อาคารสำหรับขนส่งสินค้า โรงเก็บเครื่องบิน และองค์ประกอบอื่นๆของสายการบินและสนามบิน อาคารดังกล่าวจะมีโรงแรมประจำสนามบินใกล้กับอาคารที่พักผู้โดยสาร ขนาด 100 ห้องภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาเยือนรวมถึงผู้โดยสารที่รอเปลี่ยนเครื่อง
“ระยะแรกจะมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2552 เพื่อรองรับผู้โดยสาร 12 ล้านคนต่อปี และสนามบินจะเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในปี 2558 คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าตัวหรือประมาณ 50 ล้านคน”มร.โรฮาน กล่าวทิ้งท้าย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|