|
เอาท์ออฟโฮม อะวอร์ด 2006 ปูทางสื่อนอกบ้านขึ้นชั้นสื่อหลัก
ผู้จัดการรายสัปดาห์(3 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
'สื่อนอกบ้าน' ดาวดวงใหม่ของวงการโฆษณามาแรงสุดฉุดไม่อยู่ ชมรมเอาท์ออฟโฮม ตอกย้ำความสำเร็จของสื่อนอกบ้านยุคใหม่ ด้วยการจัดประกวด "Out of Home Awards 2006" ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 พร้อมใช้เวทีนี้สร้างมาตรฐานสื่อนอกบ้านพันธุ์ไทย ให้ผงาดในระดับภูมิภาค ตามเป้าหมาย "การเป็นฮับผลิตสื่อนอกบ้านแห่งเอเชีย"
"จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยได้ส่งผลบวกต่อธุรกิจสื่อนอกบ้านให้ก้าวออกมามีบทบาทที่เด่นขึ้น เพราะราคาที่ถูกกว่าสื่อหลัก การปรับเปลี่ยนชิ้นงานที่ทำได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์เพราะต้นทุนที่ใช้ต่ำกว่า ทำให้จุดนี้เองเป็นแรงผลักดันหนึ่งที่ทางชมรมเอาท์ออฟโฮมจะใช้ เพื่อเร่งสร้างให้สื่อนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น ทั้งในฝั่งผู้ประกอบธุรกิจเอง และในหน่วยงานของภาครัฐที่จะร่างกฎระเบียบ ข้อบังคับให้สื่อนอกบ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น" สุภานี เดชาบูรณานนท์ ประธานชมรมและคณะกรรมการดำเนินงาน เอาท์ออฟโฮม อะวอร์ด 2006 กล่าว
การให้ความสำคัญกับสื่อนอกบ้าน อาทิ โปสเตอร์, โฆษณาเคลื่อนที่, บิลบอร์ด และอื่น ๆ ของเหล่านักการตลาดและเอเจนซี่เริ่มชัดเจนขึ้น หลังจากที่สื่อนอกบ้านสามารถพิสูจน์บทบาทตัวเองที่สามารถเติมเต็มและเสริมศักยภาพของสื่อหลักที่นับวันจะหดหายลงเรื่อย ๆ เพราะสื่อนอกบ้านสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปได้เป็นอย่างดี เช่น ผู้บริโภคมีการเดินทางที่บ่อยขึ้น มีกิจกรรมและการเคลื่อนไหวนอกบ้านมากขึ้น รวมไปถึงการมีสถานที่ให้สื่อสารด้วยสื่อนอกบ้านมากกว่าแต่ก่อน ดังนั้นการส่งเสริมและผลักดันให้สื่อนอกบ้านของไทยมีมาตรฐานเดียวกันและกระตุ้นให้เหล่าบรรดาครีเอทีฝนักคิดงานโฆษณาทั้งหลายตื่นตัวในการให้ความสำคัญและเลือกใช้สื่อนอกบ้านอย่างสร้างสรรค์มากขึ้น
ส่วนเรื่องไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตสื่อนอกบ้านในเอเชียนั้น สุภาณี ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมและยืนยันว่า ที่ผ่านมาไทยมีศักยภาพมากพอที่เป็นศูนย์กลางการผลิตชิ้นงานประเภทสื่อนอกบ้านในภูมิภาคเอเชีย โดยในขณะนี้ผู้ประกอบการมีการขยายตลาด ผลิตงานสื่อนอกบ้านไปสู่ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียมากขึ้น เช่น มาเลเซีย จีน ฯลฯ แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการผลิตสื่อนอกบ้านของประเทศไทย เมื่อมีความตลาดมีความต้องการใช้งานสูงขึ้น ประกอบกับสามารถขยายตลาดต่างประเทศ ส่งผลถึงความคุ้มค่าในแง่การผลิตก็จะมีมากขึ้นตาม ดังนั้นการมีเวทีประกวด Out of Home Awards นอกจากจะช่วยยกระดับสื่อนอกบ้านของไทยให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยผลักดันให้แวดวงนักการตลาดและโฆษณา รวมถึงเจ้าของสินค้า หันมาให้ความสนใจ เรียนรู้ และใช้สื่อตัวนี้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ จากความสำเร็จของการจัดงานประกวด Out of Home Awards ครั้งที่ผ่านมา ผนวกกับทิศทางที่สดใสของสื่อนอกบ้าน เวทีการประกวดผลงานภายใต้คอนเซปต์ "เตะตา"ของงานประกวดสร้างสรรค์สื่อโฆษณานอกบ้านครั้งที่ 2 จึงเกิดขึ้น พร้อมเพิ่มความเข้มข้นในการมอบรางวัล Best Use of Media, Gold, Silver, Bronze ตามลำดับ จากคณะกรรมการทั้งหมด 11 คน แบ่งเป็น กลุ่มครีเอทีฟเอเจนซี่ 2 คน, กลุ่มมีเดีย เอเจนซื่ 5 คน, เจ้าของสื่อ 2 คน และที่พิเศษสุดสำหรับในปีนี้คือ การเพิ่มผลการตัดสินรางวัลจากฟากเจ้าของผลิตภัณฑ์และบริการอีก 2 คน
"ผลงานที่จะได้รับรางวัลแต่ละประเภทนั้นจะต้องมีแนวคิดสร้างสรรค์ที่สด ใหม่ แปลกไม่ซ้ำใคร และต้องสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้ตรงโจทย์ที่ตั้งไว้ พร้อมทั้งต้องสวยงาม ไม่รกหูรกตาและก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญคือการเลือกวัสดุที่มาผลิตเป็นชิ้นงานต้องเหมาะสม รวมไปถึงงบประมาณที่ใช้ด้วย เรียกว่าผลงานที่ควรจะได้รับรางวัลต้องทั้งเตะตาและเตะใจด้วย" ไพจิตร เทียนทอง อดีตซีอีโอมือทองของเอเจนซี่คาราต และเป็นที่ปรึกษาชมรมเอาท์ออฟโฮม กล่าวถึงเกณฑ์ตัดสินชิ้นงาน
อย่างไรก็ตาม ไพจิตร ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในปีที่ผ่านมาธุรกิจสื่อนอกบ้านมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15 % และจะยังคงแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการขยายตัวที่มากกว่าสื่ออื่น ๆ เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมโฆษณาในภาพรวมที่มีการเติบโตเพียง 3-5% เท่านั้น
สำหรับสื่อในกลุ่มเอาท์ออฟโฮมที่มีการเติบโตมากที่สุด คือ กลุ่มสื่อเคลื่อนที่ ทั้งรถเมล์ และรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเฉพาะประเภทหลังมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด สืบเนื่องจากภาวะน้ำมันแพง ทำให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ดังนั้นการแวร็ปรถไฟฟ้าทั้งคันจึงเป็นโอกาสทองที่จะสื่อสารแบรนด์และสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุด
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|