|

ธปท.ตีกลับข้อเสนอชมรมบัตรเครดิตฝันค้างลดภาระลูกค้าผ่อนชำระขั้นต่ำ5%
ผู้จัดการรายวัน(29 มิถุนายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
แบงก์ชาติปัดขอเสนอผู้ประกอบการบัตรเครดิตขอลดวงเงินผ่อนชำระขั้นต่ำจาก 10% เหลือ 50% ถามผู้ประกอบการกลับเป็นการช่วยลูกค้าหรือผู้ประกอบการกันแน่ แจงหากเห็นสัญญาณเอ็นพีแอลก็ให้เรียกลูกค้ามาปรับโครงสร้างหนี้ได้ ย้ำไม่สนับสนุนให้แก้หนี้เน่าโดยซุกหนี้ไว้ใต้พรม
นายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่สมาคมบัตรเครดิตได้ยื่นข้อเสนอเรื่องมายังธปท.เพื่อขอให้ลดเกณฑ์การผ่อนค่างวดขั้นต่ำรายเดือนของลูกค้าบัตรเครดิตจาก 10% ของยอดค้างชำระ เหลือ 5% ของยอดค้างชำระเนื่องจากเริ่มมีการผิดนัดชำระหนี้และเกรงว่าจะเป็นการทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้นว่า ในเรื่องดังกล่าวต้องมีการพิจารณาออกเป็น 2 มุมมอง ทั้งในกรณีที่อนุญาตให้ลดวงเงินชำระหนี้ขั้นต่ำให้และในกรณีที่ไม่พิจารณาลดวงเงินให้
ทั้งนี้ ในการพิจารณาต้องศึกษาให้ละเอียดด้วยว่าการลดวงเงินชำระหนี้รายเดือนขั้นต่ำ จาก 10% เหลือ 5% นั้น ในความจริงเป็นการช่วยเหลือฝ่ายใดกันแน่ระหว่างเป็นการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิตหรือเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการบัตรเครดิต ถ้าพิจารณาจากที่ว่าหากผ่อนชำระเดือนละ 10% ของวงเงินค้างชำระเมื่อรวมกับดอกเบี้ยแล้วคิดว่าผ่อน 12 เดือนจะหมด แต่หากผ่อนชำระเดือนละ 5% ดอกเบี้ยของประชาชนที่จะต้องผ่อนให้เงินค้างชำระเท่าเดิมจะเพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นๆ ทุกเดือน เท่ากับเป็นการเพิ่มภาระหนี้ให้กับลูกค้าบัตรมากกกว่าจะลดภาระหนี้
นอกจากนั้น หากผู้ประกอบการบัตรเครดิตเห็นว่าลูกหนี้รายใดมีการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตก็สามารถที่เรียกมาเพื่อดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ได้ ถือเป็นการลดเงินผ่อนส่งรายเดือน หรือยืดระยะเวลาการชำระหนี้ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ตั้งแต่กลางปี 2547 ธปท.ได้ออกกฎให้ผ่อนส่งรายเดือนขั้นต่ำ 10%ของยอดวงเงินค้างชำระได้ชี้แจ้งแล้วว่า เป็นการออกกฎเพื่อสร้างความระมัดระวังให้กับผู้ประกอบการมากขึ้น
ส่วนกรณีที่ว่า การปรับลดเหลือ 5% นั้นจะช่วยให้หนี้เอ็นพีแอลไม่เพิ่มขึ้นนั้น นายเกริก กล่าวว่า แม้ว่า เป้าหมายของ ธปท.จะเป็นการลดหนี้เอ็นพีแอลให้เหลือน้อยที่สุดก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าสนับสนุนให้มีการแก้หนี้เอ็นพีแอลด้วยการซุกปัญหาไว้ใต้พรม แต่ต้องการให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่แท้จริงมากกว่า สำหรับลูกหนี้ที่แย่จริงๆ หากจำเป็นต้องเกิดก็ต้องเกิด เพราะจะทำให้แก้ไขปัญหาได้เร็วดีกว่าปล่อยให้คั่งค้างเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ
เป็นดินพอกหางหมูแล้วแก้หนี้ไม่ได้ ดังนั้น แม้ว่าสมาคมบัตรเครดิตจะอ้างถึงเรื่องลูกค้า และการลดหนี้เอ็นพีแอล ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องให้เสมอไป แต่จะต้องพิจารณาทั้งทุกด้านอย่างเหมาะสมว่าแนวทางใดเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ ฝ่ายนโยบายการเงิน ธปท.ได้พิจารณาในเรื่องดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่มีการประกาศออกมาเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม คาดว่า ธปท.จะไม่อนุมัติให้สมาคมผู้ประกอบการบัตรเครดิตลดวงเงินชำระคืนหนี้ขั้นต่ำรายเดือนลง จาก 10% เป็น 5% ในขณะนี้
ก่อนหน้านี้นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี กล่าวว่า ชมรมบัตรเครดิต และสมาคมธนาคารไทยได้เสนอไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอให้พิจารณาผ่อนปรนให้ลูกค้าบัตรเครดิตสามารถผ่อนชำระขั้นต่ำ 5% ต่อไปอีก ขณะเดียวกัน ก็ขอปรับขึ้นเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรเครดิตด้วย จากปัจจุบันที่ธปท.กำหนดเพดานไว้ที่ไม่เกิน 18% ขณะที่ต้นทุนทางการเงินของธนาคารได้ปรับเพิ่มขึ้นไปมากแล้ว
"อัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) ได้ปรับขึ้นไปมากแล้ว ซึ่งก็ทำให้ต้นทุนทางการเงินของผู้ให้บริการเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่เพดานดอกเบี้ย 18% นั้น ธปท.กำหนดตั้งแต่ตอนที่อัตราดอกเบี้ยอาร์พีอยู่ที่ 2% แต่ขณะนี้ขยับไปที่ 5%แล้ว ต้นทุนทางการเงินของเราก็ต้องสูงตามไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ขณะนี้ ธปท.ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนออกมา"นายนิวัตต์กล่าว
โดยอัตราค้างชำระสินเชื่อบัตรเครดิตของเคทีซี มีอัตราเพิ่มจาก 2.85% เป็น 3% ขณะที่สินเชื่อบุคคล เพิ่มจาก 8% เป็น 9% เนื่องมาจากความผันผวนของราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ประชาชนประชาชนมีความต้องการใช้บริการสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อเครดิต ดังนั้นเคทีซีต้องเพิ่มความระมัดระวังในการอนุมัติเนื่องจากที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณอัตราค้างชำระที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อบริษัทได้ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามทวงถามก็สามารถหยุดตัวเลขอัตราค้างชำระไม่ให้เพิ่มขึ้นได้ ทำให้เห็นว่าในสถานการณ์ขณะนี้จะต้องเพิ่มความระมัดระวัง จึงอนุมัติสินเชื่อบุคคลในสัดส่วนประมาณ 30% ของยอดขอสินเชื่อ ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตอนุมัติ 50% ของจำนวนผู้ขอ
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|