หุ้นสะดุดอัยการสั่งยุบ5พรรคตลท.หารือแบงก์ดึงบริษัทภูธรระดมทุน


ผู้จัดการรายวัน(28 มิถุนายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ตลาดหุ้นวิตกอัยการสั่งยุบ 5 พรรค "ก้องเกียติ" ชี้แม้ว่าจะกระทบไม่มากแต่ควรจะจบได้ซักที ขณะที่บล.ทิสโก้ ระบุ 1-2 เดือนนี้ฝรั่งยังไม่กลับลำไล่ซื้อหุ้นไทยแน่นอน ด้านตลท.หารือแบงก์ใหญ่ หวังดึงฐานลูกค้าภูธรเข้ามาระดมทุนในตลาดฯ มากขึ้น ระบุอาจต้องใช้เวลาอีกระยะ แย้มอยากให้มีการจัดสรรหุ้นให้นักลงทุนท้องถิ่น เผยตลาดทุน-ตลาดเงินต้องพึ่งพากัน

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (27 มิ.ย.) ตลอดช่วงเช้าดัชนีแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกก่อนจะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงหลังโฆษกสำนักงานอัยการแถลงอัยการมีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคไทยรักไทย-ประชาธิปัตย์และพรรคขนาดเล็กอีก 3 แห่งก่อนส่งผลสรุปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป ขณะที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 659.69 จุด เพิ่มขึ้น 0.42 จุด หรือ 0.06% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 667.17 จุด และจุดต่ำสุด 657.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8,674.81 ล้านบาท นักลงทุนซื้อสุทธิ 199.14 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 366.62 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 565.76 ล้านบาท

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเชียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า จาการที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทยและประชาธิปัตย์ พร้อมพรรคเล็กอีก 3 พรรคนั้น ไม่มีผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยเพราะ ดัชนีก็สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ จากการที่เป็นปัจจัยที่มีการรับรู้ไปแล้ว แต่ก็น่าเสียดายที่การเมืองไทยออกมาในลักษณะนี้ ทำให้ไม่มีการเลือกตั้งเหมือนเดิม

"ทำไมไม่เปิดให้ทุกพรรคเข้ามาลงเลือกตั้งให้จบๆไปซะที เหตุการณ์เป็นอย่างนี้เมื่อไรจะมีการจัดตั้งรัฐบาลได้เมื่อไร ผลกระทบเกิดขึ้นกับการลงทุนใหม่ ทำให้ไม่มีการลงทุนเพิ่ม นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ความสามารถในการแข่งขันก็ถดถอยไป"นายก้องเกียรติกล่าว

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ข่าวการยุบพรรคการเมืองส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองต่อไป ตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวไม่มากนัก หากปรับตัวลดลงคงจะลงไม่มาก และการปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ขณะนี้ตลาดหุ้นยังมีความเสี่ยงในเรื่องเศรษฐกิจ

ดังนั้นในอีก 1-2 เดือนนี้ เม็ดเงินต่างประเทศจะไม่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะบรรดาผู้จัดการกองทุนจะมีการตัดสินใจลงทุนจะพิจารณาตลาดที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ทั้งนี้การที่ต่างประเทศจะเข้ามาลงทุนก็จะเลือกลงทุนเฉพาะในหุ้นที่ขนาดใหญ่ มีการจ่ายเงินปันผลที่ดี เท่านั้น เนื่องจากต้องลงทุนในบริษัทที่มีความมั่นคงและมีการดำเนินงานที่ดี

นายสาธิต วรรณศิลปิน รองกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ความไม่แน่นอนในเรื่องการเมือง จะทำให้การอนุมัติงบประมาณภาครัฐปี 2550 อาจจะต้องเลื่อนออกไปจากเดิมที่คาดว่าจะมีการอนุมัติในเดือน เม.ย.ปี50 ประกอบงบประมาณค้างจ่ายของรัฐบาลขณะนี้อยู่ที่ 6 แสนล้านบาท ซึ่งภาครัฐบาลควรที่จะเร่งนำงบประมาณค้างจ่ายดังกล่าวมาใช้

สำหรับผลกระทบต่อตลาดหุ้นไม่มาก เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศได้มีการขายออกมาจำนวนมากแล้ว ซึ่งตลาดหุ้นระยะสั้นขณะนี้กำลังรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ว่าจะออกมาทิศทางใด ซึ่งตลาดหุ้นไทยขณะนี้มีค่าP/E 8 เท่า มีผลตอบแทนจากการลงทุน 12% ซึ่งถือว่าสูงมาก

ตลท.บุกภูธรต้อนบริษัทเข้าจดทะเบียน

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ได้ร่วมหารือกับผู้บริหารธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งประกอบด้วย ธนาคารทหารไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย เพื่อขอข้อมูลและรายชื่อเกี่ยวกับลูกค้าของธนาคารแต่ละแห่งที่มีแนวโน้มต้องการเงินทุนเพิ่มเพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ

ทั้งนี้ หลายบริษัทได้มีการกู้ยืมเงินจากธนาคาร แต่อาจจะไม่เพียงพอ ตลาดหลักทรัพย์จึงหวังที่จะชักชวนบริษัทเหล่านั้นมาใช้ช่องทางในการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ซึ่งจะช่วยลดภาระความเสี่ยงของธนาคารและยังช่วยในเรื่องไม่เพิ่มภาระดอกเบี้ยจ่ายที่บริษัทจะต้องจ่ายให้สถาบันการเงิน รวมถึงจะไม่เพิ่มตัวเลขอัตราหนี้สิ้นต่อทุนของบริษัทให้สูงเกินไปด้วย

"เราเห็นว่ามีหลายบริษัทที่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ซึ่งทำให้เราอยากดึงบริษัทเหล่านั้นเข้ามาจดทะเบียนให้เพิ่มมากขึ้น แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกซักระยะซึ่งการได้คุยกับผู้บริหารของธนาคารถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว"นางภัทรียากล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมที่ตลาดหลักทรัพย์สนใจจะดึงเข้ามาจดทะเบียนยังมีอีกหลายอุตสาหกรรม เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริษัทที่ทำอุตสาหกรรมกับเพื่อนบ้านฝั่งเวียดนาม ลาว ก็ยังมีอีกหลายอุตสาหกรรม ภาคใต้ยังมีอุตสาหกรรมเกี่ยวกับอาหารทะเล เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การดึงบริษัทนอกตลาดเข้ามาจดทะเบียนอาจจะต้องใช้เวลาในการเตรียมข้อมูล และศึกษารวมถึงการพูดคุยกับเจ้าของและผู้บริหารของบริษัท ซึ่งตลาดหลักทรัพย์อาจจะมีการหารือในทีมงานเพื่อตั้งเป้าจำนวนบริษัทใหม่ในต่างจังหวัดที่จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้งหากมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์มีแนวคิดที่อยากจะให้บริษัทที่อยู่ในต่างจังหวัดที่สนใจจะเข้ามาระดมทุนให้มีการจัดสรรหุ้นที่นำเสนอขายต่อประชาชนให้กับนักลงทุนในท้องถิ่นด้วยเพื่อสร้างฐานะนักลงทุนกลุ่มใหม่อีกทาง

นายเก่งกล้า รักเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดเงินและตลาดทุนมีความสัมพันธ์กันทางด้านธุรกิจ บริษัทที่ต้องการขยายการลงทุนการกู้เงินจากธนาคารเป็นแนวทางที่บริษัทต่างๆเลือกที่จะปฎิบัติแต่อีกแนวทางหนึ่งเมื่ออัตราหนี้สินต่อทุนของบริษัทนั้นๆสูงเกินกว่าจะควรจะเป็นการระดมทุนกับตลาดทุนก็เป็นแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ ตลาดทุนถือว่าเป็นแหล่งระดมทุนที่เอื้อประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบริษัทที่จะได้รับเงินจาการระดมทุน ธนาคารซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงเนื่องจากหากต้องปล่อยกู้เพิ่มเติมภาระความเสี่ยงก็จะต้องสูงขึ้นด้วย ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ก็จะมีสินค้าใหม่ๆเข้ามาให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนมากขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.