|

PATHLAB บริการเลือดบ่งโรค
โดย
สุภัทธา สุขชู
นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
"การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" เป็นวลีคุ้นหูคนไทยมานาน แต่ใครที่จะรู้ซึ้งไปกว่าผู้ป่วยหนักจวนเจียนจะสายเกินแก้คงไม่มีอีกแล้ว
เพื่อไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น การตรวจเลือดเป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง เพราะเลือดเพียงน้อยนิดสามารถบอกถึงสภาวะสุขภาพ
และความเสี่ยงในการเกิดโรคได้มากมาย
โซฟานุ่มนั่งสบาย บรรยากาศที่อบอุ่นกับมุมมองกรุงเทพฯ บนชั้น 36 ของอาคารพหลโยธิน เพลส ช่วยบรรเทาอาการตื่นกลัวเข็มฉีดยาของผู้รับการเจาะเลือดได้เป็นอย่างดี ...ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ และเป็นศูนย์บริการ 1 ใน 5 สาขาของ PATHLAB ศูนย์ให้บริการตรวจเลือดเพื่อการดูแลสุขภาพ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย
"เลือดสะท้อนอะไรมากมายเกี่ยวกับตัวเรา แค่เลือดกับยูเรีย (ปัสสาวะ) เพียง 2 อย่างก็สามารถบ่งบอกโรคได้มากมายถึง 99% แล้ว" ข้อมูลจากมาร์คัส คัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พาธแล็บ (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นทายาทแห่งดาโต๊ะ ดร.เอฟ.ดับบลิว.คัม ผู้ก่อตั้ง
"คุณอาจจะรู้ไซส์จากการวัดสัดส่วนหรือชั่งน้ำหนัก แต่คุณจะไม่รู้เลยว่าสุขภาพของอวัยวะภายในเป็นอย่างไร ถ้าไม่เช็กเลือด"
ในเลือดจะมีเซลล์และองค์ประกอบต่างๆ เช่น เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด เม็ดน้ำเหลือง ไขมัน น้ำตาล เอนไซม์ ฯลฯ การตรวจโลหิตวิทยา (Hematology) เป็นการวิเคราะห์ทางกายภาพของเซลล์เลือด เช่น ตรวจนับจำนวน ตรวจดูรูปร่างลักษณะของเม็ดเลือด และตรวจหาสารอื่นๆ ในเลือด โดยจำนวนที่มากหรือน้อยเกินไป และความผิดปกติทางลักษณะของเม็ดเลือดนี้เองที่เป็นตัวบ่งชี้ความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ
ถ้ากลูโคสในเลือดสูงเกินระดับมาตรฐานเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ไตรกลีเซอร์ไรด์ มากเกินไปจะเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรืออัมพาต และถ้ามีจำนวนเม็ดเลือดแดงน้อยเกินไปอาจบ่งถึงภาวะของโรคโลหิตจาง เป็นต้น
บริการของพาธแล็บคือข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพที่ได้จากการตรวจวิเคราะห์เลือด พร้อมด้วยคู่มือและคำแนะนำในการดูแลสุขภาพด้วยตัวเองจากเจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์และพยาบาลที่ผ่านการอบรมจากพาธแล็บ แต่ทั้งนี้ที่นี่จะไม่มีการวินิจฉัยโรค หากพบว่าผลเลือดมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรง เจ้าหน้าที่ของพาธแล็บจะทำเพียงแนะนำลูกค้าให้รีบไปพบแพทย์
โรคร้ายแรงจำนวนมากที่กว่าจะปรากฏอาการทางร่างกายจนสังเกตได้ ก็อาจถึงระดับที่เรียกว่า "เข้าขั้นโคม่าแล้ว" แต่มีหลายโรคที่ตรวจพบได้เนิ่นๆ ด้วยการเช็กเลือด เช่น โรคหัวใจ โรคความดัน โรคภูมิแพ้ โรคตับอักเสบ โรคไตวาย โรคเกาต์ โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคมะเร็ง ฯลฯ
"คนเรามักจะไปโรงพยาบาลตรวจร่างกายก็เมื่อรู้สึกไม่สบายแล้ว ซึ่งนั่นอาจจะสายเกินกว่าจะรักษา แต่ถ้าเราตรวจเลือดประจำ เราก็จะมีข้อมูลที่บอกว่าสุขภาพเราเริ่มผิดปกติไปอย่างไร อาจจะบำบัดด้วยโภชนาการและการออกกำลังกาย ซึ่งถือเป็นการป้องกัน และยังช่วยให้รักษาโรคได้ทันการณ์ด้วย" มาร์คัสแนะนำ
ปัจจุบันพาธแล็บมีอายุกว่า 50 ปี ข้ามฟ้ามาจากแดนเสือเหลือง ดำเนินธุรกิจในกรุงเทพฯ มาร่วม 6 ปี โดยเริ่มจากการเป็นแบ็ก-อัพด้านแล็บตรวจเลือดให้กับโรงพยาบาลชั้นนำ เช่น โรงพยาบาลปิยะเวท ฯลฯ ก่อนจะเริ่มให้บริการเป็นหน่วยงานตรวจสุขภาพประจำปีให้กับบริษัทหรือองค์กรต่างๆ เมื่อ 2-3 ปีก่อน
มาร์คัสมองว่าถึงเวลาแล้วที่จะรุกสู่สาธารณชนทั่วไปอย่างเต็มตัว "ธุรกิจนี้ไปได้ดีในเมืองที่มีไลฟ์สไตล์โมเดิร์น ที่ประชาชนเริ่มใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เหมือนเช่นที่กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ และจาการ์ตา ซึ่งพาธแล็บได้รับความนิยมสูง"
นอกจากความถูกต้องและน่าเชื่อถือ อีกจุดเด่นของพาธแล็บที่เหนือกว่าบริการในโรงพยาบาลก็คือ บริการที่รวดเร็ว ที่นี่ใช้เวลาเจาะเลือดเพียง 15 นาที ตรวจได้มากถึง 50 กว่ารายการ อันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพที่ได้จากเลือดที่สมบูรณ์กว่าการตรวจเลือดทั่วไปตามโรงพยาบาล
เนื่องจากพาธแล็บมุ่งเน้นการตรวจแนวป้องกัน การฟังผลอาจกินเวลาร่วมสัปดาห์ขึ้นกับจำนวนรายการที่เช็ก และหากต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนขึ้น พาธแล็บเมืองไทยจะส่งตัวอย่างเลือดไปที่สำนักงานใหญ่ในมาเลเซีย เพื่อตรวจเช็กด้วยเครื่อง Advia Workcell สถานีวิเคราะห์โรคแบบครบวงจร ที่มีสนนราคาถึง 200 ล้านบาทซึ่งกำลังจะนำเข้ามาในเมืองไทยเร็วๆ นี้ เพื่อรองรับกับอีก 5 สาขา ที่เปิดตัวในปีนี้
ปัจจุบันพาธแล็บ ประเทศไทย มีอยู่ 5 สาขากระจายทั่วกรุงเทพฯ รองรับลูกค้ากว่า 2 หมื่นคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำที่มาตรวจเช็กสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
ถ้าเปรียบร่างกายกับรถยนต์ เราจำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำฉันใด เราจำเป็นต้องหมั่นดูแลตรวจเช็กสุขภาพให้เป็นประจำยิ่งกว่า เพราะ ร่างกายของเราต้องทำงานตลอดเวลา และไม่มีอะไหล่ไว้นำมาเปลี่ยนได้ใหม่เหมือนเช่นรถยนต์ ที่สำคัญถ้ารถเสื่อมสภาพเรายังหาซื้อรถใหม่ได้ แต่ถ้าร่างกายเสื่อมสภาพไป เงินมากเท่าไรก็ไม่อาจหาซื้อใหม่ได้
"หลายคนศึกษาจนรู้ปัญหาของรถหมด แต่ไม่เห็นสนใจเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองเท่าที่ควรเลย" มาร์คัสตั้งข้อสังเกต
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|