|
บัตรเครดิตอัจฉริยะ
นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
เป็นเรื่องปกติในยามที่เกิดข่าวโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิต มักเป็นเหตุให้ผู้ถือบัตรหวาดระแวงตามไปด้วยทุกครั้ง หลายรายต้องการความอุ่นใจมากขึ้น โดยเสนอผู้ให้บริการบัตรเครดิตควรคิดหาวิธีที่จะให้พวกเขามีโอกาสบันทึกรายการใช้จ่ายได้ด้วยตัวเอง
ข้อเรียกร้องเรื่องแบบนี้ยังเป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน แต่เมื่อถึงต้นปี 2550 ผู้ถือบัตรในไทยจะได้ในสิ่งที่ต้องการ เมื่อวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ตัดสินใจว่า อีก 6-9 เดือนข้างหน้าจะนำ Visa Wave บัตรเครดิตติดชิปแบบไร้สัมผัส (Contactless) มาเปิดตัวในเมืองไทย
ต้นปีนี้วีซ่าเพิ่งออกบัตรเดียวกันในมาเลเซียและไต้หวัน ซึ่งมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการเรื่องความสะดวกรวดเร็วในการบันทึกรายการค่าใช้จ่ายเป็นหลัก เหตุที่ผู้คนของทั้ง 2 ประเทศ คุ้นกับชีวิตที่ต้องติดชิป จนเข้าใจเทคโนโลยีนี้ได้มากขึ้นแล้ว
แต่ที่ประเทศไทย ความไว้ใจในชิปอาจยังมีไม่มากเท่าจุดขายของ Visa ในตลาดนี้ อาจต้องเน้นตรงคุณสมบัติบางประการที่ใกล้เคียงกับความต้องการของผู้ถือบัตรให้มากขึ้น ทั้งเรื่องความปลอดภัย และความสะดวกรวดเร็วในการบันทึกรายการโดยตัวผู้ถือบัตรเอง
"คนส่วนใหญ่บางทีก็ไม่ค่อยอยากยื่นบัตรให้ใคร เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงอยากขอเป็นคนทำรายการเอง แต่บางคนเห็นว่าเงินแค่ไม่กี่ร้อย ก็ไม่อยากคอยนาน อยากจะรีบๆ ไป ลูกค้าจึงเสนอว่าหากเราจะหาวิธีที่สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยเขาเองยังรู้สึกปลอดภัยก็จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย" สมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการ Visa ในไทย กล่าวถึงที่มาของ Visa Wave ในไทย
ตามคอนเซ็ปต์แล้ว Visa Wave กำหนดว่า Visa ตกลงยินยอมให้ผู้ถือบัตรบันทึกรายการได้เอง แต่เฉพาะค่าใช้จ่ายรายการย่อยๆ ที่สูงสุดไม่เกิน 25 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1,000 บาท ตามเงื่อนไขที่ Visa ใช้กับทุกตลาดทั่วโลก
สำหรับวิธีบันทึกรายการทำได้ง่ายๆ โดยให้เจ้าของบัตรนำบัตรมาเสียบเข้ากับตัวเครื่องที่ตั้งในจุดให้บริการ กดตัวเลขค่าใช้จ่ายใช้เวลาราว 3 วินาที รอสลิปไหลออกจากตัวเครื่อง จากนั้นหยิบสลิปใส่กระเป๋าเก็บเป็นหลักฐาน และเดินจากไปได้ในทันที โดยไม่ต้องลงลายมือกำกับเพื่อส่งสลิปให้ร้านค้าเก็บไว้เป็นหลักฐานเช่นที่เคยปฏิบัติกันมา
"เราคาดว่า การนำระบบ Contactless มาใช้ในไทย จะทำให้ขนาดการใช้จ่ายบัตรเครดิตในรายการย่อยๆ กินพื้นที่เงินสดได้ราว 22%" ปีเตอร์ แมนเนอร์ส หัวหน้าผลิตภัณฑ์ Contactless Visa เอเชียแปซิฟิก บอก
Visa Wave เกิดขึ้นจากผลวิจัยสำรวจทัศนคติ และความคาดหมายในคุณค่าผลิตภัณฑ์อัจฉริยะแห่งอนาคตอันใกล้ ซึ่ง Visa จัดขึ้นเมื่อปี 2548 ร่วมกับกลุ่มตัวอย่าง 2,400 ราย จากประเทศทั่วเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย
แม้ผลวิจัยจะชี้ว่า ผู้บริโภคพร้อมเปิดรับรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ใช้เทคโนโลยีชิปมากขึ้นก็ตาม แต่ยังมีข้อเท็จจริงที่ถูกเขียนไว้เพียง 1 บรรทัดว่า ความปลอดภัยในตัวบัตรเองนั้น ยังคงต้องเป็นจุดขายสำคัญของกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการบัตรเครดิต
ขณะที่คนยังคาดหมายถึงคุณค่าเทคโนโลยีที่เหนือกว่าการใช้งานธรรมดา โดยเน้นความรวดเร็วในการบันทึกรายการใช้จ่าย ที่สร้างความกังวลให้ผู้ถือบัตรน้อยที่สุด ทั้งยังมีข้อเสนอนำรูปแบบอุปกรณ์ติดชิปใหม่ๆ เช่น นาฬิกาข้อมือ โทรศัพท์มือถือ พีดีเอ ยูเอฟ บีฟอบ เครื่องเล่นเอ็มพี 3 มาพัฒนาต่อยอดเป็นทางเลือกใหม่ที่นอกเหนือจากบัตรเครดิตติดชิป
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|