การเมืองป่วน-ศก.ทรุดฉุดผลตอบแทนกบข.วูบ


ผู้จัดการรายวัน(27 มิถุนายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

กบข.ยอมรับแนวโน้มผลตอบแทนจากการลงทุนในปีนี้ลดลงเหลือ 4-5% เท่านั้น ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนให้ผลตอบแทนสูงถึง 6.8% “วิสิฐ”รับเศรษฐกิจทรุดจากปัญหาความไม่ชัดเจนทางการเมือง ส่งผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ ปัญหาราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูง ฉุดให้ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนปรับลดตาม เล็งเพิ่มน้ำหนักลงทุนตราสารหนี้-หุ้น ในต่างประเทศ ยอมรับในช่วงต้นปีทยอยขายหุ้นทำกำไร หลังราคาทะยาน ชี้การที่ตลาดหุ้นไทยทรุดตัวต่อเนื่องส่งผลให้ราคาหุ้นในปัจจุบันน่าสนใจเข้าไปลงทุน

นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลตอบแทนการลงทุนของกบข.ปีนี้คาดว่าจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4-5% ลดลงจากก่อนหน้าที่คาดว่าผลตอบแทนการลงทุนจะอยู่ที่ 5-6% และลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 6.8% เนื่องจากการลงทุนได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัญหาการเมือง และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ปรับตัวลดลงตามต้นทุนที่สูงขึ้นของราคาน้ำมัน และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยในปีนี้คาดว่าอัตราเติบโตของรายได้ของบริษัทที่ลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 5%

“การลงทุนของกบข.ในช่วงนี้ ได้มีการปรับกลยุทธ์การลงทุน โดยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ หลังดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น และในขณะนี้ใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว” นายวิสิฐกล่าว

สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นต้องยอมรับว่า กบข.ได้มีการทยอยขายหุ้นที่ถืออยู่ออกมาบางส่วนเพื่อทำกำไรในช่วงต้นปี เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้พอร์ตลงทุนหุ้นในประเทศปรับตัวเล็กน้อย และในขณะนี้การลงทุนในตลาดหุ้นของกบข.ก็ทยอยซื้อหุ้นเข้าพอร์ต เนื่องจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงในปัจจุบันถือว่า ราคาเหมาะสมกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่คาดว่าอัตราเติบโตของรายได้ และ P/E ที่อยู่ในระดับ 9-10 เท่า ก็ถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผลกับผลประกอบการ

นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กบข.อยู่ระหว่างการดำเนินการยื่นเรื่องต่อกระทรวงการคลัง เพื่อขอขยายเพดานการลงทุนในหุ้น จาก 20% เป็น 30% ซึ่งจะทำให้กบข.สามารถขยายสัดส่วนการลงทุนไปยังตลาดหุ้นต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น

“กบข.เป็นกองทุนขนาดใหญ่ ที่ต้องดูแลผลตอบแทนของสมาชิกในระยะยาว ซึ่งขณะนี้กำลังขยายการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหนทางที่จะไปนั้น ก็สามารถทำได้และทุกฝ่ายก็มองว่าเป็นทิศทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม จะต้องรอหารือถึงรายละเอียดก่อนว่าจะขยายเพดานเป็นสัดส่วนเท่าใด”นายศุภรัตน์กล่าว

นายวิสิฐ กล่าวต่อถึงนโยบายการลงทุนในครึ่งปีหลังของกบข.ว่า จะให้น้ำหนักกับการลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ต่างประเทศมากขึ้น โดยจะลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ต่างประเทศ เพิ่มจาก 10% เป็น 12-13% ส่วนตลาดหุ้นในประเทศพอร์ตการลงทุนในหุ้นก็ไม่ได้ลดลง เพราะเพดานการลงทุนในตลาดหุ้นใกล้เต็มแล้ว โดยปัจจุบันเพดานการลงทุนตลาดหุ้นอยู่ที่ 20% ซึ่งปัจจุบันลงทุนใน 3 ส่วนคือ ลงทุนในตลาดหุ้น 12% ลงทุนทางเลือกในส่วนของหุ้นบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (ทีพีไอ) 5-6% และส่วนที่เหลือลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าใน 2-3 เดือน หลังจากที่กระทรวงการคลังอนุมัติเพิ่มเพดานการลงทุนในตลาดหุ้นจาก 20% เป็น 30% จะทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นของกบข.มีความคล่องตัวมากขึ้น

“กลยุทธ์การลงทุนของกบข.ที่สำคัญจะให้เพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ การลงทุนในตราสารหนี้เพิ่ม และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานให้เช่า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการเพื่อเข้าไปลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุด”

สำหรับสาเหตุที่ทำให้กบข.เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากมีเสถียรภาพมากกว่าตลดาหุ้นไทย เพราะตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลังยังคงเผชิญปัญหาราคาน้ำมัน ความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งทำให้ทิศทางการใช้งบประมาณไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ง่ายนัก ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยในปีนี้คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวในอัตรา 4-4.5% ส่วนแนวโน้มในปีหน้าคงต้องประเมินใหม่อีกครั้ง

นายวิสิฐ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 เดือนข้างหน้าว่า ถ้าถามว่ามีความมั่นใจตลาดหุ้นไทยหรือไม่ คงต้องตอบว่ามั่นใจ แต่ปัจจัยพื้นฐานยังขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละบริษัทว่ามีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่ม ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับยอดขาย และต้นทุนการดำเนินงาน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นหัวใจที่สำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอนาคตของผู้ประกอบการ เพราะต้องยอมรับว่าการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมาทำให้ความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการลดลงเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้า


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.