โจนส์ แลงก์ วูทธั่น บทบาทที่ต้องปรับใหม่ตลอดเวลา


นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2538)



กลับสู่หน้าหลัก

โจนส์ แลงก์ วูทธั่น เป็นบริษัทโบรกเกอร์ทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ยังคงขึ้นชื่อในเมืองไทย

จากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจที่พลิกผันอยู่ตลอดเวลา ทำให้กลยุทธ์ในการเป็นตัวแทนการขายของโจนส์แลงก์ ก็ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อให้สอดคล้องและการดำเนินธุรกิจไม่สะดุดลงเช่นกัน

จากบริษัทที่เคยมีบทบาทอย่างมากในการเป็นโบรกเกอร์ขายพื้นที่เช่าอาคารสำนักงาน และอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ขณะนี้งานที่มาแรงกลับเป็นงานทางด้านวิจัยและที่ปรึกษาและงานทางด้านประเมินราคาและทรัพย์สิน

สมพร บุรินทรากุล กรรมการของบริษัทซึ่งเป็นผู้ดูแลทางด้านงานวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินได้ให้เหตุผลว่า ปัจจุบันการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความซับซ้อนมากขึ้น นักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในเมืองไทย ก็คาดหวังว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐานสากล ทางด้านนักลงทุนชาวไทยเองก็จำเป็นต้องมีความรอบคอบมากเช่นกันเพื่อลดความเสี่ยงทางด้านการลงทุน ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจทำโครงการจึงต้องการวิจัยความเป็นไปได้ของการลงทุนอย่างลึกซึ้งมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์บางประเภทที่ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ดีเฉกเช่นในอดีต

ส่วนงานทางด้านประเมินมูลค่าทรัพย์สินนั้นมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นตามการพัฒนาที่เกิดขึ้นในตลาดทุน โดยเป็นที่ยอมรับกันว่าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นหรือกำลังที่จะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือบริษัทที่ออกตราสารแห่งหนี้บางประเภท รวมทั้งกองทุนรวมของอสังหาริมทรัพย์ซึ่งกำลังจะได้รับการจัดตั้งขึ้น ควรได้รับการประเมินโดยผู้ประเมินอิสระดังนั้น ความต้องการต่อบริการทางด้านวิชาชีพด้านนี้จึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ภาพการเติบโตที่เห็นได้ชัดเจนของงานประเภทนี้คือจากทีมงานเพียง3-4 คนเท่านั้นในปี 2532 ปัจจุบันนี้ทีมงานทางด้านวิจัยได้เพิ่มขึ้นถึง 11 คน ในขณะที่ทีมงานทางด้านประเมินราคาเพิ่มเป็น 30 คน ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ก็คือเมื่องานขยายเพิ่มปริมาณมากขึ้นขนาดต่อชิ้นก็ใหญ่ขึ้นแต่คนทำงานกลับมีไม่เพียงพอ

"ต้องยอมรับเลยว่าเราขยายงานลำบากเพราะขาดคนบ้านเราไม่มีหลักสูตรทางด้านสาขานี้ในมหาวิทยาลัย บริษัทจำเป็นต้องใช้เวลาในการพัฒนาคน" สมพรย้ำ

จากภาวะการขาดแคลนบุคลากรทางด้านบริการทางวิชาชีพด้านอสังหาริมทรัพย์ โจนส์ แลงก์ฯ จึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศที่มีการยอมรับกันว่ามีความสามารถในเรื่องนี้มาก จัดหลักสูตรการฝึกอบรมทางด้านวิชาชีพขึ้นเพื่อช่วยพัฒนาความรู้ให้แก่พนักงานของโจนส์ แลงก์ฯ ทั่วเอเชีย โดยเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2535

สำหรับในปีนี้หลักสูตรการฝึกอบรมดังกล่าว จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 โดยใน 3 ครั้งที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ โจนส์ แลงก์ฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ของบริษัทไปเข้าร่วมหลักสูตรทั้งสิ้น 19 คน

งานทางด้านประเมินที่โจนส์แลงก์ฯ กำลังทำการประเมินอยู่ในตอนนี้ก็คือ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย โอเรียนเต็ล กรุ๊ป บริษัทแอลพีเอ็น ดีเวลลอปเม้นท์ บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ฯลฯ งานทางด้านวิจัยและที่ปรึกษาที่กำลังทำอยู่คือ ที่ดินของสมาคมศิษย์เก่าเทพศิรินทร์ของบริษัทมณียา เรียลตี้ Time Station ของบริษัทธนายง โครงการบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล ของบริษัทแกนมิไร อาร์คิเต็ค

งานอีกด้านหนึ่งที่ทางบริษัทกำลังให้ความสนใจไม่น้อยเลยก็คือ งานทางด้านบริหารอาคาร แน่นอนว่าการบริหารอาคารเป็นสิ่งจำเป็นในระยะยาว แต่ทางเจ้าของโครงการย่อมมีข้อจำกัดทางด้านเวลาและความสามารถ การว่าจ้างบริษัทที่เป็นมืออาชีพจะยิ่งมีความจำเป็นมากขึ้น

เมื่อคราวขยายสาขาเข้ามาในเมืองไทยเมื่อประมาณปี 2533-2534 นั้น โจนส์แลงก์ฯ มีบทาทอย่างยิ่งในเรื่องการขายตึกซึ่งเป็นพื้นที่ออฟฟิศ แต่เนื่องจากตลาดของออฟฟิศในช่วงนั้นกำลังบูมสุดขีด ธุรกิจของการเป็นตัวแทนขายตึกก็เลยยังไม่มีความจำเป็นเท่าที่ควร ประกอบกับยังเป็นเรื่องใหม่ในยุคนั้นที่ต้องใช้โบรกเกอร์ต่างชาติ

ในปี 2534 โจนส์แลงก์ฯ ก็เลยขายพื้นที่ตึกไปได้เพียง 20,000 ตร.ม. และเพิ่มเป็น 40,000 ตร.ม.ในปี 2535 พอปี 2536 โบรกเกอร์ขายตึกเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อเจ้าของโครงการมากขึ้น เพราะสภาพการแข่งขันที่เริ่มหนักหน่วงขึ้นมีพื้นที่อาคารให้เช่าเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากโจนส์แลงก์ฯ เริ่มหาช่องทางใหม่คือการขายพื้นที่ทางด้านรีเทล ส่วนงานขายพื้นที่อาคารขายได้เพียง 48,000 ตร.ม.

ย่างเข้าปี 2537 การขายพื้นที่คอนโดที่อยู่อาศัยในตัวเมืองเริ่มเป็นที่นิยม โจนส์แลงก์ฯ มีลูกค้ารายสำคัญๆ เข้ามาเช่น โครงการโกลด์ไพน์การ์เด้น โกลเด้นไพน์สวีท ของคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ บริษัทแผ่นดินทองพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน)

ในขณะเดียวกันงานขายพื้นที่ออฟฟิศ โจนส์แลงก์ฯ ยังมั่นใจว่าแม้พื้นที่ออฟฟิศจะยังคงโอเวอร์ซัปพลายไปอีกหลายปี แต่การรับงานต้องดูเป็นดครงการๆ ไป อย่างเช่นโครงการเวิล์ดเทรด ทาวเวอร์ ที่เพิ่งตัดสินใจรับงานขายมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ บริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพตรงนั้นมาก

ทุกวันนี้บริษัทบริหารงานขายที่ผ่านยุคทองของอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ คงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตลอดเวลาเช่นกันเพียงแต่ว่าใครเริ่มปรับตัวก่อนย่อมได้เปรียบกว่าแน่นอน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.