|
ระวัง! จีนตั้งบริษัทส่งออกสินค้าไทยEXIM BANK แนะชิงแต้มเพื่อนบ้าน-ส่งออกสินค้ากึ่งวัตถุดิบ
ผู้จัดการรายสัปดาห์(26 มิถุนายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
EXIM BANK แนะผู้ประกอบการไทย รับมือจีนยุคใหม่ที่พัฒนาสินค้าเน้น 2 กลยุทธ์ “ราคาถูก-ไฮเทคโนโลยี” ชี้ไทยควรปรับตัวแปรรูปสินค้าเป็นกึ่งวัตถุดิบ พร้อมชวนคนจีนร่วมทุนในสินค้าดาวเด่น ได้แก่ทำโรงงานยางพารา-ผลิตแป้งมันสำปะหลัง-สารหวานเพิ่มมูลค่าก่อนส่งออก เตือนระวัง! คนจีนตั้งบริษัทในไทยส่งออกสินค้าเองที่แนวโน้มมีมากขึ้น
นโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศของจีน โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับวิสาหกิจทุนต่างประเทศ ที่รัฐบาลจีนเน้นให้นักลงทุนต่างชาติถ่ายทอดเทคโนโลยีกับบริษัทร่วมทุนที่เป็นของจีน ส่วนจีนเองก็ยอมลงทุนจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อเทคโนโลยีทันสมัยจากต่างประเทศ ในสินค้าสำคัญ ๆ ที่โดดเด่นก็คือมีการจ้างนักออกแบบจากอิตาลีเพื่อผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุด แสดงถึงทิศทางการตลาดของประเทศจีนที่ชัดเจนว่า ไม่เพียงแต่สินค้าจีนจะมีจุดเด่นที่ค่าแรงต่ำ แต่อนาคตจีนจะเป็นเจ้าแห่งสินค้าไฮเทคโนโลยีที่ผู้ค้าขายจากทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นผู้ส่งออกหรือนำเข้าจากจีน ต้องปรับตัว...
เชื่อจีนยุคใหม่ไม่กระทบไทย
สมพันธ์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า ในด้านการค้าการลงทุนของจีน ได้แบ่งออกเป็น 2 ภาคที่สำคัญได้แก่ จีนภาคตะวันตก และจีนภาคตะวันออก ซึ่งจีนภาคตะวันตกนั้นเป็นภาคที่เหมือนกำลังพัฒนา ที่ค่าแรงยังต่ำ ทำให้สินค้าที่ผลิตจากภาคนี้มีจุดเด่นที่มีราคาถูกจากต้นทุนที่ต่ำ
ขณะเดียวกันในภาคตะวันออกของจีน เป็นภาคที่มีการปรับตัวเรื่องเทคโนโลยีอย่างมาก เพราะเน้นสินค้าส่งออกไปขายในตลาดโลก มีการปรับค่าแรงงานให้สูงขึ้น ฉะนั้นต้นทุนของสินค้าจะมากกว่าทางภาคตะวันตกของจีนเล็กน้อย ฉะนั้นจึงเชื่อว่าแม้จีนจะเน้นการมีเทคโนโลยีการผลิตที่สูงขึ้นและทันสมัยขึ้น แต่จุดขายของสินค้าจีนยังคงอยู่ที่ราคาถูก
ทั้งนี้มองว่าการปรับตัวของจีนเรื่องนี้จะไม่กระทบกับประเทศไทยมากนัก เนื่องจากประเทศไทย ลักษณะการทำการค้าขายกับจีนนั้น มีลักษณะที่จีนจะซื้อวัตถุดิบจากไทยเพื่อนำไปผลิตสินค้า สินค้าสำคัญไทยส่งออกไปจีนได้เป็นจำนวนมากจึงได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าว ส่วนสินค้าสำเร็จรูป กระทั่งสินค้ากึ่งสำเร็จรูป จากสถิติแล้วไทยส่งไปจีนกลับน้อยมาก ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัว โดยควรเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ประเภทวัตถุดิบให้เป็นสินค้ากึ่งสำเร็จรูปก่อนส่งไปจีน
เพิ่มมูลค่าส่งออก-แปรรูปสินค้ากึ่งวัตถุดิบ
“จีนต้องการสินค้าวัตถุดิบจากไทย สินค้าวัตถุดิบจึงเป็นสินค้าที่มีอนาคตที่จะส่งไปจีน เพราะไทยผลิตได้เท่าไรก็ไม่พอ แต่แทนที่เราจะส่งแค่วัตถุดิบ เราควรที่จะเพิ่มมูลค่าสินค้า เช่นจะเป็นไปได้ไหมที่ไทยจะชวนคนจีนมาร่วมทุนผลิตยางสำเร็จรูปในเมืองไทย ให้เขามาช่วยขายสินค้าให้เรา ลงทุนในไทย ค่าแรงให้คนไทย ส่วนไทยดูแลเรื่องซื้อวัตถุดิบป้อนโรงงาน”
ส่วนมันสำปะหลังนั้น จีนนำเข้าจากไทยเพื่อไปผลิตสินค้า 2 ประเภทได้แก่ เอทานอล และทำแป้งมันสำปะหลัง เพื่อผลิตกระดาษ และผลิตสารหวานในอาหาร ตรงนี้ผู้ประกอบการไทยแทนที่จะส่งเป็นมันเส้นเพื่อไปผลิตเป็นแป้งมันในจีน เราก็ควรทำโรงงานและผลิตแป้งมันหรือทำสารหวานส่งไปจีน เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า อีกทั้งสำหรับผู้ปลูกมันสำปะหลังต้องหาวิธีเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เพราะปัจจุบันมันสำปะหลังมีผลิตผลต่อไร่ต่ำมากคือ ประมาณ 3 ตันต่อไร่ ควรเพิ่มเป็น 7-15 ตันต่อไร่
“จีนเพาะปลูกสินค้าพวกนี้ไม่ได้เพราะภูมิอากาศไม่อำนวย ไทยเราจึงมีจุดเด่นด้านสินค้า ไทยต้องรีบทำโรงงานแปรรูปสินค้าให้เป็นกึ่งสำเร็จรูปแล้วส่งไปจีน ชิงแต้มเวียดนาม มาเลย์ และอินโดนีเซีย”
นอกจากนี้ ขอแนะนำว่าผู้ประกอบการไทย หากต้องการทำธุรกิจกับจีน ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มีอนาคตไกล เพราะคนจีนมีจำนวนมาก ถ้าชวนเขามาเที่ยวเมืองไทย แค่ปีละ 5 แสนคน ก็ทำรายได้มหาศาลให้กับเมืองไทยแล้ว
R&Dน้อย-ไทยไม่พร้อมแข่งเทคโนฯ
ส่วนด้านเทคโนโลยี ไทยไม่เหนือกว่าจีน ทุนไทยก็น้อยกว่าจีน การจะไปแข่งด้านเทคโนโลยีคงเป็นไปได้ยาก เพราะไทยเองก็ต้องซื้อเทคโนโลยีจากต่างประเทศ จีนแทนที่จะซื้อไทย เขาก็ไปซื้อแหล่งผลิต และมีการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองขึ้นมา อีกทั้งในการผลิต เนื่องจากมีทุนสูง จีนก็ผลิตจำนวนมาก ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำ ไทยจึงไม่สามารถจะไปแข่งกับจีนโดยตรงได้ แต่คำถามก็คือว่าทำอย่างไร ไทยถึงจะอยู่ตรงกลางได้ แบบลอยตัว ที่สำคัญก็คือต้องเอาจีนมาลงทุนสินค้าที่เมืองไทย ส่วนไทยเราเองก็ต้องส่งสินค้ากึ่งสำเร็จรูปไปขายให้มากขึ้น
“ปัญหาของบ้านเรา คือทุนวิจัย R&D มีน้อย บริษัทใหญ่ ๆ ก็ไม่เน้นด้าน R&D เช่น ปูนซีเมนต์ ปตท. เมื่อทุนน้อย เทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็ไม่เกิด”
อันตราย!จีนตั้งบริษัทส่งออกสินค้าไทย
นอกจากนี้ จากการที่ EXIM BANK มีบทบาทในการปล่อยกู้ให้กับบริษัทต่าง ๆ ก็เห็นอันตราย เพราะในการส่งสินค้าวัตถุดิบไทยไปจีน แทนที่จะบริษัทไทยเป็นผู้ส่งออก แต่กลับเป็นคนจีนมาตั้งบริษัทในไทยแล้วส่งออกไปจีน และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จุดนี้จะทำให้ไทยเสียโอกาส ตรงนี้ต้องเร่ง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|