เศรษฐกิจดิ่งดันบาร์เทอร์คาร์ดบูม


ผู้จัดการรายวัน(22 มิถุนายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

บาร์เทอร์คาร์ดสบช่องเศรษฐกิจชะลอ เดินหน้ารุกธุรกิจแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในรอบ 8 ปี พร้อมเปิดตัวแคมเปญใหม่ “บาร์เทอร์คาร์ด จั๊ม สตาร์ท” หวังเจาะธุรกิจขนาดกลางและย่อม พัฒนาระบบใหม่สอดรับการค้าข้ามพรมแดน ตั้งเป้าสมาชิกเพิ่มปีละ 700 รายและยอดมูลค่าการแลกเปลี่ยนทางการค้าสิ้นปีกว่า 1 พันล้านเทรดบาท

นายเกรแฮม เบรน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาร์เทอร์คาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจแลกซื้อ–ขายสินค้าและบริการต่างๆ เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯเปิดดำเนินการในไทยตั้งแต่ปี 2541 ปัจจุบันพบว่าบริการบาร์เทอร์คาร์ดได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากจากสมาชิกหรือบริษัทที่ต้องการหาวิธีลดรายจ่ายหรือบริหารจัดการต้นทุนภายในองค์กร ยิ่งในสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ถดถอยและมีค่าครองชีพสูงบริการบาร์เทอร์คาร์ดยิ่งมีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯมีอัตราการเติบโตปีละกว่า 23-25% และมียอดการแลกซื้อ-ขายมากกว่า 45 ล้านบาทต่อเดือน โดยบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายการสร้างมูลค่าการแลกเปลี่ยนทางการค้าภายในปีนี้ที่ 1,000 ล้านเทรดบาท

“บาร์เทอร์คาร์ดเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถวัดสภาพเศรษฐกิจได้ ซึ่งหากเศรษฐกิจไม่ดีเงินหมุนเวียนในระบบของลูกค้าก็จะมีน้อย เพราะลูกค้าไม่อยากใช้จ่ายเงินสด และหันมาใช้จ่ายแบบบาร์เทอร์คาร์ดมากขึ้น ตรงนี้สามารถช่วยลดต้นทุนให้ได้ 15-20% แต่หากภาวะเศรษฐกิจดีลูกค้าก็จะยิ่งเข้ามาในธุรกิจนี้กันมากขึ้น”

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทฯเตรียมรุกทำตลาดมากขึ้นในรอบ 8 ปี ภายใต้ 2 แนวทางหลัก ได้แก่ “นโยบาย โอกาสทองทางธุรกิจ ด้วยระบบบาร์เทอร์คาร์ด” และ “นโยบายการเก็บรักษาเงินสดในมือคุณ” โดยจะเน้นการทำตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก

พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้ทุ่มงบประมาณกว่า 1,200,000 เทรดบาท จัดแคมเปญ “บาร์เทอร์คาร์ด จั๊ม สตาร์ท” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายธุรกิจขนาดใหญ่ กลาง และเล็กมีความเข้าใจและรู้จักวิธีการใช้บาร์เทอร์คาร์ด เพื่อประโยชน์ด้านการค้า , การเพิ่มสภาพคล่อง และการประหยัดเงินสดในมือ โดยแคมเปญนี้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจสร้างสรรค์ไอเดียชิงเงินรางวัล 1 แสนเทรดบาท เริ่มตั้งแต่ 15 มิถุนายน - 15 กันยายน 2549

พัฒนาระบบสอดรับการค้าข้ามพรมแดน

นอกจากนี้บาร์เทอร์คาร์ดยังได้พัฒนาระบบ “โกลบอล บาร์เทอร์ ซิสเต็ม” ซึ่งป็นแนวคิดทางการค้าแบบแลกซื้อ-ขายสินค้าและบริการที่สามารถปรับใช้ได้ทุกสถานการณ์ โดยสามารถใช้ซื้อขายกับกลุ่มสมาชิกจากทั่วโลกได้ รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ เช่น ระบบออนไลน์ 24 ชม., การซื้อขายผ่านระบบอิเล็กโทรนิกส์ (ETT), ระบบเสียงโต้ตอบ (IVR) เป็นต้น

“แนวโน้มระบบโกลบอล บาร์เทอร์ ซิสเต็มกำลังได้รับความนิยม อาทิ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในระดับนานาชาติ และการบริการด้านการท่องเที่ยวในต่างประเทศ เป็นต้น”

ขณะนี้บริษัทฯมีฐานสมาชิกในหลายธุรกิจกว่า 2,000 ราย อาทิ โรงแรม,สปา,ร้านทำผม, เอนเตอร์เทนเมนต์,ธุรกิจเช่ารถ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีสมาชิกใหม่เข้ามา 60-70 ราย หรือคิดเป็นปีละ 700 ราย

สำหรับเงื่อนไขของสมาชิกที่จะสมัครบาร์เทอร์คาร์ดได้จะต้องมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยจะเสียค่าสมัครเพียง 1 ครั้งและใช้ได้ตลอดชีพ ซึ่งแพคเกจสมาชิกจะมี 3 แบบ ได้แก่ เสียค่าสมัคร 26,000 บาท มีสัดส่วนลูกค้า 60-70% , 34,000 บาท มีสัดส่วน 20% และ60,000บาทมี10% โดยในส่วนของบริษัทฯจะรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมจากการซื้อขาย 5.5%

ปัจจุบันบาร์เทอร์คาร์ดในไทยมีสาขาอยู่หลายแห่ง ได้แก่ ธนบุรี,ทองหล่อ, บางนา,ลาดพร้าว,พัทยา และภูเก็ต ขณะที่ทั่วโลกมีสำนักงานกว่า 160 แห่ง ใน 17-18 ประเทศ โดยมีสมาชิกกว่า 100,000 ธุรกิจ และมีมูลค่าการแลกเปลี่ยนรวมกันมากกว่า 30 พันล้านบาทต่อปี โดยมูลค่าการแลกเปลี่ยน และจำนวนสมาชิกมีอัตราการเติบโตปีละ15%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.