KTC เจอพิษดอกเบี้ยขาขึ้นมาร์จิ้นวูบ


ผู้จัดการรายวัน(21 มิถุนายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

KTC โอดมาร์จิ้นลดฮวบ ต้นทุนทางการเงินพุ่งจาก 2% เป็น 6% จากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ถูกจำกัดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ 18% สั่งรัดเข็มขัดตัดงบการตลาดไปกว่า 100 ล้าน และลดคอมมิสชั่นเหลือ 500 บาทจาก 1,000 บาท แต่อัตราการเติบโตทางธุรกิจยังไปได้ และยังมุ่งขยายฐานลูกค้าอย่างระมัดระวังต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ดอกเบี้ยของบัตรเครดิตยังกำหนดเพดานเดิมอยู่ที่ 18% นั้น ได้ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินปรับเพิ่มเป็น 6% จากเดิมอยู่ที่ 2% ทำให้ต้องเพิ่มบริษัทมีการบริหารต้นทุนทางการเงินที่รัดกุมมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานบุคคลกรในองค์กรมากขึ้น และคาดว่าจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะทำให้การทำกำไรลดลงด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันบริษัทก็ได้ลดงบการตลาดไปกว่า 100 ล้านบาท และลดค่าคอมมิสชั่นลงเหลือ 500 บาท จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าบาท

“ต้นทุนบริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตั้งแต่ทางการกำหนดให้คิดดอกเบี้ย 18% บริษัทก็มีต้นทุน 2% แต่ปัจจุปันนี้ต้นทุนเพิ่มเป็น 6% ทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นลดลงอย่างมากก็เหมือนกับฟ้าปิด แต่บริษัทก็คงให้บริการต่อไป และเพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ หากอนาคตฟ้าเปิดเมื่อไร บริษัทก็เป็นรายๆ แรกที่ยังคงเป็นผู้นำตลาดอยู่ไม่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่" นายนิวิตต์กล่าว

อย่างไรก็ตามในส่วนของการเติบโตของธุรกิจยังเติบโตได้อยู่ ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาสามารถเพิ่มฐานลูกค้าประมาณ 180,000 ราย หรือได้เท่ากับปี 2548 ทั้งปี ดังนั้นคาดว่าทั้งปีนี้จะเพิ่มลูกค้าใหม่กว่า 300,000 ราย ทั้งนี้เป็นผลมากจาการที่บริษัทได้ให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้ามากกว่าบริษัทอื่นๆ แต่บริษัทเองก็มีความระมัดระวังในการอนุมัติมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) โดยคาดว่าทั้งปี NPL ของบัตรเครดิตน่าจะอยู่ที่ 3% ส่วนสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 8-9 % และสัดส่วนการอนุมัติบัตรเครดิตอยู่ที่ 45–50 % ส่วนลูกค้าสินเชื่อบุคคลการอนุมัติ 30%

นายนิวัตต์กล่าวว่า ยอดการค้างชำระของลูกค้าในขณะนี้นั้นปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่เป็นสัญญาณที่น่ากลัว เพราะปัจจุบันปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจลดลงเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่กว่า 70% ของลูกค้ามีการชำระเต็มวงเงิน ส่วนการแข็งขันครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ ออกบัตรร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่ และในปลายปีจะออกบัตรร่วมกับบริษัท เจซีบี ซึ่งเป็นบริษัทบัตรเครดิตแห่งใหญ่ของญี่ปุ่น ตั้งเป้าว่าหลังจากเปิดตัวน่าจะขยายฐานบัตรได้ 1 ล้านบัตร ภายใน 1 ปี


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.