ความหมายของ "ริชาร์ด ชาง"นายคนแรกของวีซ่ากรุงเทพฯ


นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2538)



กลับสู่หน้าหลัก

หนุ่มใหญ่ชาวไต้หวันวัยสี่สิบต้นๆ ริชาร์ด เค. ชาง ผู้สามารถพูดภาษาไทยคละเคล้าภาษาอังกฤษ ผนวกกับสำเนียงชาวจีนแมนดาริน เพิ่งจะร่วมงานกับวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เพียง 10 เดือน โดยประจำที่สิงคโปร์เป็นหลัก แต่มีภารกิจที่ต้องดูแลรับผิดชอบในฐานะผู้จัดการภูมิภาคในสิงคโปร์ สำนักงานในประเทศไทย และตลาดอินโดจีน

ใครจะเชื่อว่าวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ยักษ์ใหญ่ด้านระบบการชำระเงินเพื่อผู้บริโภคที่มีธนาคาร 22,000 แห่ง ใน 227 ประเทศเป็นเครือข่ายสมาชิกทั่วโลก มีร้านค้ารับบัตรวีซ่าถึง 12 ล้านแห่ง เพิ่งจะเปิดสำนักงานสาขาที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก หลังจากทิ้งเวลาเนิ่นนานให้คู่แข่งอย่างอเมริกาเอ็กซ์เพรสหรือเอเม็กซ์ทำไปก่อน ทั้งๆ ที่วีซ่าทำมาหากินร่วมกับแบงก์ไทยเทศ 14 แบงก์ เช่น กสิกรไทย มานานถึง 16 ปี นับตั้งแต่บัตรวีซ่าใบแรกเกิดขึ้นในปี 2522 และใช้กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และบริการรุกตลาดไทยสำเร็จ จนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดบัตรเครดิตระหว่างประเทศถึง 60%

"การจัดตั้งสำนักงานในกรุงเทพฯ นี้ถือเป็นพันธกรณีที่มุ่งสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดและธนาคารสมาชิกในไทย พร้อมทั้งพัฒนาระบบการชำระเงินเพื่อผู้บริโภคไทยให้ดีขึ้น เพราะตลาดไทยโตเร็วมาก กว่า 30% ในปี 2536 ที่ผ่านมา มียอดชำระเงินผ่านบัตรไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 36,000 ล้านบาท) จากจำนวนผู้ถือบัตรถึง 640,000 ราย ถือว่าเป็นตลาดใหญ่ และโตเร็วที่สุดในโลก" ลินด์เซย์ ซี.ไพน์ ประธานประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกซึ่งมีฐานบัญชาการใหญ่ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่นเล่าให้ฟังถึงไทยที่ก้าวขึ้นมาสู่การเป็นตลาดระดับพันล้านเหรียญสหรัฐอีกแห่งหนึ่ง และไทยจะเป็นประตูสู่อินโดจีน โดยเฉพาะเวียดนามในอนาคตมีศักยภาพเติบโต

การแข่งขันเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ ทำให้แบงก์กสิกรไทยซึ่งมีลูกค้ามากที่สุดกับแบงก์ทหารไทยจำเป็นต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยอาศัยโนว์ฮาวและเทคโนโลยีของวีซ่าที่เรียกว่า 'ระบบอินเตอร์ลิงค์' ที่คุยว่าใช้รหัสลับ (พินเบส) ที่ปลอดภัยสูงสุดในการทำธุรกรรมการเงินในยุคโลกาภิวัตน์มาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์รีเลชั่นการ์ดบัตรเดียวใช้คุ้ม เป็นทั้ง "บัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มที่สามารถหักบัญชี ณ จุดขาย (พีโอเอส)" ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการซื้อ

ระบบอินเตอร์ลิงค์เป็นระบบของบัตรวีซ่าเดบิตระบบเดียวที่ออนไลน์เชื่อมเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ตามมาตรฐานพีไอเอ็น 100% สามารถตรวจสอบรหัสลับก่อนทำรายการ ณ จุดขาย แต่แบงก์จะต้องลงทุนสูงมากที่จะติดตั้งเครื่องเทอร์มินอลเอง เช่นเดียวกับสมัยก่อนที่แต่ละแบงก์ต้องลงทุนตู้เอทีเอ็ม แต่ภายหลังที่มีการทำเอทีเอ็มพูลก็สามารถลดค่าใช้จ่ายแต่เพิ่มจุดบริการได้ และเป็นที่คาดหวังว่าถ้าแบงก์กสิกรไทยทำตลาดสำเร็จ อาจจะมีแบงก์อื่นๆ ที่เหลือร่วมแชร์ค่าใช้จ่ายด้วย โดยวันแรกที่เปิดใช้กสิกรไทยตั้งเป้าว่าจะมีร้านค้าไม่ต่ำกว่า 1,000 แห่งให้บริการ จากจำนวนร้านค้าปัจจุบันที่รับบัตรวีซ่าในไทยรวม 65,000 แห่ง

"ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในเอเชีย-แปซิฟิกที่ได้ใช้ระบบอินเตอร์ลิงค์ เพราะมีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ใหญ่มาก ผมเคยอยู่เมืองไทย รู้จักวัฒนธรรมไทย คนไทยชอบเป็นที่หนึ่ง ในอีกหกเดือนข้างหน้าหรือเร็วกว่านั้นเราจะได้เห็น" ชางเล่าให้ฟังหลังจากที่เพิ่งอยู่ไทยได้ 3 วันเพื่อแถลงข่าวและพิธีการเปิดสำนักงานวีซ่าในกรุงเทพฯ โดยตลอดเวลาที่อยู่กรุงเทพฯ นาฬิกาเรือนงามบนข้อมือเขายังคงเป็นเวลาในประเทศสิงคโปร์

ความเหมาะสมที่วีซ่าเลือกริชาร์ด ชาง เข้ามาร่วมงานด้วย เพราะเมื่อครั้งวัยเยาว์ ตั้งแต่อายุ 13 ชางเคยอยู่เมืองไทยและเมื่อเรียนจบไฮสกูลจากโรงเรียนนานาชาติที่กรุงเทพฯ ก็บินไปต่อปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจด้านสถิติและวิจัย จากมหาวิทยาลัยเท็กศัสที่ออสติน ชางทำงานกับบริษัทแทนเดม ยักษ์ใหญ่ธุรกิจคอมพิวเตอร์ถึง 18 ปี มีประสบการณ์ช่ำชองในตลาดสหรัฐฯ ตระเวนไปอยู่หลายเมือง เช่น เท็กซัส แมสซาชูเซตต์ โอกลาโฮมา จนกระทั่งปีที่แล้วชางจึงเปลี่ยนเส้นทางชีวิตมาทำงานกับวีซ่าและประจำอยู่สิงคโปร์

ในฐานะผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ริชาร์ด ชาง ตั้งเป้าหมายรุกให้ตลาดวีซ่าในไทยขยายส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่ครองอยู่ 60% โดยทีมงานคนไทยที่มาจากแบงก์กสิกรไทยและบริษัทฟิลิปส์ ดิจิตอล จะสามารถให้บริการความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อประสานงานระหว่างสมาชิกลูกค้าที่เป็นแบงก์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้บัตรวีซ่ามากขึ้นเพราะยิ่งผู้ถือบัตรวีซ่ารุดไปซื้อสินค้าบริการมากเท่าใด วีซ่าก็ยิ่งจะได้รับ
ค่าธรรมเนียมจากปริมาณทรานแซกชั่นมากขึ้นเท่านั้น

แต่ผู้ถือบัตวีซ่าทั่วไปอย่าเข้าใจผิด โทรไปถามปัญหาข้องใจส่วนตัวกับคนในสำนักงานวีซ่าที่อาคารสินธรเชียว เพราะที่นี่เขาไม่รู้ มันเป็นเรื่องความรับผิดชอบของแต่ละแบงก์เอง ฉะนั้นวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนลจึงทำหน้าที่เป็นองค์กรคล้ายๆ บริษัทเอทีเอ็มพูลบ้านเรา ที่คอยลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีและเก็บค่าต๋งจากสมาชิกที่เป็นแบงก์เท่านั้น

ที่สำคัญเวลาไปตกทุกข์ได้ยากเกี่ยวกับบัตรหายในต่างประเทศ อย่ามัวเสียเวลาค้นหาเบอร์โทรศัพท์วีซ่าอินเตอร์เนชั่นแนลในสมุดโทรศัพท์หน้าเหลืองเด็ดขาด เพราะมันไม่เคยมี นี่คือคำเตือนสุดท้ายกันหน้าแตกจากริชาร์ด ชาง...จะบอกให้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.