ช่วงเดือนที่แล้ว บริษัทแกรมมี่ และกรุงเทพโทรทัศน์ (ช่อง 7 สี) ได้เข้าซื้อหุ้นไอบีซีจากชินวัตรประมาณ
18% และจากนอมินิของชินวัตรอีกประมาณ 15% หลังจากบริษัททั้งสองได้เสนอแผนการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ต่อก.ล.ต.ในอีก
2 เดือนข้างหน้า
จากข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษาชินวัตรระบุว่าการเสนอขายหุ้นไอบีซีจำนวนประมาณ
33% (จำนวนประมาณ 22 ล้านหุ้น) ครั้งนี้จะมีมูลค่าประมาณ 1,474 ล้านบาทหรือตกประมาณหุ้นละ
67 บาท
แกรมมี่ และช่อง 7 สีจะเข้าลงทุนซื้อหุ้นกันคนละส่วนในไอบีซี คือ ฝ่ายละกว่า
700 ล้านบาท เงินลงทุนที่สูงเช่นนี้ กล่าวสำหรับช่อง 7 สี ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมทีวีมากว่า
25 ปี และเป็นบริษัท "ร่ำรวยเงินสด" คงไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับแกรมมี่ที่เพิ่งมีอายุเพียง
10 ปี ต้องถือว่าเป็นการลงทุนที่สูงที่สุดของบริษัท
ไอบีซีเป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจข่าวสารและบันเทิงโดยผ่านข่ายดาวเทียมไทยคม
ดำเนินธุรกิจมากกว่า 5 ปีแล้ว ในทางเปิดเผยแม้ไอบีซีจะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ
แต่ก็ยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริงของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ในขณะนี้ ได้แต่อนุมานคาดเดาเอาเองว่าไม่น่าจะต่ำกว่า
150,000 รายและไม่น่าจะเกิน 200,000 ราย
การที่แกรมมี่ ช่อง 7ส ีและชินวัตรอยู่ร่วมกันในไอบีซีโดยผ่านการซื้อขายหุ้นถือว่าเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมทีวีของบ้านเรา
ที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งเราเรียกว่าเป็นยุทธศาสตร์การสร้างพันธมิตรของทั้ง
3 ราย
ประเด็นที่น่าสนใจต่อปรากฏการณ์ข่าวนี้ก็คือ สิ่งนี้น่าจะเป็นสัญญาณที่กำลังบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีเป้าหมายเพื่อยึดกุมจำนวนผู้ชมในตลาดเมืองไทยได้เกิดขึ้นแล้ว
ขณะเดียวกันธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมทีวี ก็กำลังเผชิญหน้ากับตลาดแข่งขันที่เปิดกว้างขึ้นจากความก้าวหน้าเทคโนโลยีข่ายสื่อสาร
และการล่มสลายของระบบผูกขาดในการเช่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์รายการทีวี
แล้วเช่นนี้ ความหมายของการสร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรมทีวีโดยผ่านข่ายดาวเทียมคืออะไร
?
จากการแสวงหาข้อเท็จจริงของผม พบว่าพันธมิตรทั้ง 3 คือชินวัตร แกรมมี่
และช่อง 7 สี ต่างมีจุดอ่อนและจุดแข็งในการทำธุรกิจนี้ แหล่งข่าวของผมคนหนึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมหนักเคยเล่าให้ผมฟังว่า
การแข่งขันอุตสาหกรรมยุคใหม่ต้องสามารถใช้ต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และมีความสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
ยุทธศาสตร์การบรรลุถึงสิ่งนี้ มีได้หลายหนทาง แต่ที่ให้ผลที่คุ้มค่ารวดเร็ว
และประหยัด มีหนทางเดียวคือ การสร้างพลังผนึกกับพันธมิตรที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
ชินวัตรเป็นเจ้าของเน็ตเวิร์กดาวเทียมไทยคมในฐานะผู้ลงทุน แต่ชินวัตรไม่มีสินทรัพย์
ในฐานะเจ้าของรายการข่าว และบันเทิงใดๆ ต่างจากช่อง 7 สี ที่ 25 ปีที่ผ่านมา
ได้ลงทุนผลิตข่าวสาร ภาพยนตร์ สารคดี และรายการบันเทิงที่หลากหลายจนปัจจุบันถือว่าเป็นเจ้าของห้องสมุดรายการบันเทิงและสารคดีภาษาไทยที่ใหญ่ที่สุด
ช่อง 7 สีกำลังจะหมดสัญญาสัมปทานในการดำเนินงานทีวีช่อง 7 ต้นปีหน้า การประมูลครั้งใหม่ช่อง
7 สีจะเข้ามาร่วมประมูลใหม่ และคงจะได้สัมปทานต่อ
ส่วนแกรมมี่เป็นเจ้าของห้องสมุดเพลงไทย และจำนวนนักร้อง ที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จที่ใหญ๋ที่สุดของประเทศ
สินทรัพย์ที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ เมื่อนำมารวมกันภายใต้ยุทธศาสตร์ความเป็นพันธมิตร
ทำให้ชินวัตร แกรมมี่ และช่อง 7 สี สามารถใช้เป็นจุดในการแข่งขันช่วงชิงคนดูด้วยรายการหรือผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
ผมมองว่าความหมายของพันธมิตรที่เกิดขึ้นในไอบีซีไม่มีข้อสงสัยเลยว่า จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านรายการสำหรับภาคภาษาไทยให้ไอบีซี
และขณะเดียวกันมองในแง่ภาพรวมแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในไอบีซี กำลังเป็นบรรทัดฐานใหม่สำหรับการแสวงหาคำตอบเพื่อความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมเคเบิลทีวีในอนาคตอันใกล้