|
เอกชน-คนซื้อบ้านจวกรัฐสร้างภาพ
ผู้จัดการรายวัน(15 มิถุนายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ธอส.ใจป้ำยอดลดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีแรกถูกกว่าเกณฑ์ปกติของแบงก์ พ่วงลดเงินงวดในปีแรก พร้อมรอดูใจท่าทีเอกชนช่วยซับพอร์ตอีกแรง ด้านนายกสมาคมอสังหาฯไทยเปรยประเด็นหลักต้องปล่อยไปตามกลไกตลาดที่แท้จริง และถูกอย่างต้องรอเวลาในการปรับตัว ส่วนมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาฯของสมาคมฯยังไม่คืบ
วานนี้ (14 มิ.ย. 49) สภาที่อยู่อาศัยได้จัดประชุมระหว่างสมาชิกเพื่อหารือในวาระต่างๆ ซึ่งประเด็นหนึ่งที่ได้หยิบยกขึ้นมาพูดในที่ประชุมคือ การหารือในเรื่องที่รัฐบาลให้ทั้ง 7 สมาคม ที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ,สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย, สมาคมอาคารชุดไทย, สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน, สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์, สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างในพระบรมราชูปถัมภ์ และสภาที่อยู่อาศัย ได้ประชุมเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อหาแนวทางช่วยสร้างความมั่นใจของผู้ซื้อบ้าน หลังจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยในครั้งนั้น มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้มอบหมายและสั่งการ
แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่า สิ่งที่เอกชนต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือในขณะนี้คือ การช่วยเหลือในเรื่องของสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือเงินงวดผ่อนชำระ ซึ่งที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยได้ปรับตัวขึ้นมา ส่งผลให้เงินงวดปรับตามขึ้นไปด้วย ประกอบกับค่าใช้จ่ายภาคประชาชนยังเพิ่มจากราคาสินค้าที่ปรับขึ้น ซึ่งปัจจัยหลักเกิดจากต้นทุนของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้รับข้อเสนอที่จะเข้ามาให้การช่วยเหลือ โดยได้เสนอที่จะให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อปกติในช่วงปีแรก และหลังจากนั้นถึงจะเข้าเกณฑ์ดอกเบี้ยปกติของธอส. นอกจากนี้ยังจะช่วยลดเงินงวดผ่อนชำระในช่วงปีแรกเช่นเดียวกัน ส่วนดอกเบี้ยจะมีอัตราเท่าใดและเงินงวดรายปีที่จะให้ลูกค้าจ่ายเป็นเท่าใดนั้น ยังไม่สามารถระบุได้
“ วานนี้กรรมการผู้จัดการ ธอส.ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจากติดภารกิจที่ต่างประเทศ ซึ่งได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม โดยทางธอส.ให้เกณฑ์คราวๆมา ซึ่งทางผู้ประกอบการเองจะต้องช่วยธอส.ด้วย เพราะถือว่าทางธอส.ได้ถอยจนติดกำแพงแล้ว ถ้าผู้ประกอบการยอมเข้ามาช่วยบางส่วนก็จะดีมาก แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าผู้ประกอบการจะช่วยมาอย่างไร และอีกอย่างทางคุณขรรค์ ประจวบเหมาะไม่อยู่ จึงยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และจะมีการประชุมในครั้งต่อไป แต่ยังไม่กำหนดวัน "แหล่งข่าวกล่าว
นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ เบื้องต้นยังไม่มีการหารือร่วมกับสมาชิกในสมาคมฯถึงการหยิบยกและกำหนดว่าปัญหาเรื่องใดเป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากต้องรอคอยเวลาและประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับปัญหาใดเป็นปัญหาใหญ่ที่จะนำมาแก้ไขเป็นอันดับแรก ซึ่งขณะนี้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกการตลาดทำงานด้วยตัวของมันเอง เพื่อให้มีการปรับตัวของตลาดที่สอดรับกับสภาพความเป็นจริง ส่วนสมาชิกและผู้ประกอบการในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ต้องพึ่งพาตนเองก่อนที่จะหันไปพึ่งรัฐบาล เพื่อให้เกิดการปรับตัวกันในทุกภาคส่วนของธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา มีกระแสเกี่ยวกับข้อเสนอของทางสมาคมฯออกมาบ้าง แต่ส่วนนี้ยังไม่ใช่บรรทัดฐานของข้อสรุปเพื่อกำหนดเป็นมาตราการในขณะนี้ โดยมีทั้งประเด็นที่ประธานสภาที่อยู่อาศัย ได้ระบุถึงเรื่องการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินว่าเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากธนาคาพาณิชย์กังวลถึงปัญหาสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ที่จะตามมา เหมือนกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 จึงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จนทำให้จำนวนลูกค้าที่กู้ไม่ผ่านเพิ่มสูงอยู่ขึ้นเป็น 20% จากเดิมที่กู้ไม่ผ่านประมาณ 5-10% ในขณะที่ผู้ประกอบการยืนยันว่า สถานการณ์ในขณะนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับในช่วงปี 2540
ทั้งนี้ เรื่องการปล่อยสินเชื่อ จะเป็นเรื่องหลักที่ผู้ประกอบการจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณา โดยจะขอให้รัฐบาลสนับสนุนวงเงินกู้ผ่านธนาคารรัฐ เพื่อรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยคงที่ในระยะเวลาอย่างน้อย 3 ปี และหาทางให้สถาบันการเงินผ่อนคลายเงื่อนไขการกู้เข้าสู่สภาพปกติ และการปลดลูกค้าที่เคยมีปัญหาหนี้ แต่ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้วออกจากระบบเครดิตบูโร เพราะตอนนี้ข้อมูลของเครดิตบูโรยังไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ในขณะที่นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ได้เสนอให้ใช้ระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมโอนแบบเหมาจ่ายสำหรับบ้านราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ในอัตรา 1,000 บาท ต่อการซื้อขาย 1 รายการจากที่เสียค่าธรรมเนียมอยู่ 2% ของราคาประเมิน ซึ่งทางสมาคมรับสร้างบ้านได้เสนอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ให้กับธุรกิจรับสร้างบ้าน และให้การสนับสนุนด้านภาษีโดยให้ประชาชนที่สร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านสามารถลดหย่อนภาษีได้ และช่วยสนับสนุนอัตราดอกเบี้ยแก่ประชาชนกู้สร้างบ้าน อย่างไรก็ตาม บางสมาคมฯได้เสนอถึงแนวทางการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เพื่อเป็นการกระตุ้นความสามารถในการซื้อของลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อบ้าน
แหล่งข่าวในวงการอสังหาฯตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นโครงการของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับรากหญ้าแล้ว ไม่ว่าธนาคารชุมชน กองทุนหมู่บ้าน เป็นต้น เชื่อว่ารัฐบาลคงมีความกระตือรืนร้นมากกว่าที่เป็นอยู่ เห็นได้จากก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้เตรียมงบในการสนับสนุนโครงการรากหญ้าของรัฐอย่างชัดเจน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|