|

เชนต่างชาติบุก!...ยึดธุรกิจโรงแรมทุกระดับ ดาว
ผู้จัดการรายสัปดาห์(12 มิถุนายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะผันผวนรวมทั้งราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอาจไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจโรงแรม ยิ่งนับวันถอยหลังการเปิดให้บริการของสนามบินสุวรรณภูมิ....เชื่อได้ว่าการการเดินทางทางอากาศต้องเพิ่มขึ้นส่งผลให้การท่องเที่ยวในแถบเอเชียเติบโตสูงตาม
ในปี 2548 การเดินทางในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ซึ่งก่อนหน้านั้นในปี 2547 มีอัตราการเติบโตร้อยละ 27 ขณะที่การเดินทางของตลาดจีนกับอินเดียอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น จึงไม่น่าสงสัยเลยว่าในอนาคตอันใกล้นั้นการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะเป็นส่วนสำคัญอย่างมากของการเติบโตโดยรวมของทั่วโลก
เมื่อมีการเดินทางกันมากขึ้นกลุ่มธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดน่าจะหนีไม่พ้นธุรกิจโรงแรม... การปรับตัวเพื่อรองรับกระแสการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเริ่มมีกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเชนโรงแรมไทยอย่างเครือดุสิต ธานีทีมีทั้งเครือรอยัล ปริ๊นเซทอยู่แล้ว ภายช่วงปีที่ผ่านมากลับกระโดดลงมาเล่นตลาดโรงแรมชั้นประหยัดเปิด “ดีทู”นำร่องเพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรหวังโกยลูกค้าให้มากที่สุดเช่นกัน
ขณะที่เชนโรงแรมจากต่างชาติที่รุกอัดดีกรีการแข่งขันเพิ่มขึ้นปรับกลยุทธ์ใหม่หวังสู้ศึกธุรกิจโรงแรมไทยอย่าง “แอคคอร์”ก็ทวีความรุนแรงไม่แพ้กัน
ล่าสุดช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 อัตราการเข้าพักโรงแรมที่เชนแอคคอร์รับบริหารอย่างเดียวกว่า 15 แห่งในประเทศไทย ดูจะสวนกระแสเศรษฐกิจเพราะยอดพุ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 8 โดยเฉพาะที่ภูเก็ตมีอัตราการเข้าพักถึง 37% ทำให้เชนแอคคอร์ได้ใจประกาศจุดยืนภายในอีก 2 ปีข้างหน้าคือปี 2550 จะมีโรงแรมในเครือข่ายสูงถึง 40 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันแอคคอร์มีโรงแรมในเครือที่รับบริหารสำหรับประเทศไทยอยู่ในมือถึง 25 แห่ง และกำลังจะเปิดให้บริการใหม่เพิ่มอีกจำนวน 3 แห่ง คือในเมืองพัทยา,ชุมพร และกรุงเทพฯ
สอดคล้องกับคำพูดของ มร.ไมเคิล ไอเซนเบิร์ก กรรมการผู้จัดการ แอคคอร์ เอเชีย แปซิฟิก ที่บอกว่า จะมีการขยายแบรนด์ในทุกระดับดาว ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ โซฟิเทล โรงแรมระดับ 5 ดาว,แกรนด์ เมอร์เคียว 4 ดาวครึ่ง,โนโวเทล 4 ดาว,เมอร์เคียว 3 ดาวครึ่ง และอีบิส 3 ดาว
จึงไม่แปลกที่กลุ่มเชนแอคคอร์จะเพิ่มเครือข่ายมากกว่า 1 เท่าตัวใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น....
เปิดตัวแบรนด์ใหม่สไตล์รีสอร์ต
การบริหารโรงแรมใหม่ในสำหรับปีนี้ มร.ไมเคิล กล่าวว่า มีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “ออลซีซั่นส์” เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวในรูปแบบสไตล์รีสอร์ท และถือเป็นการเข้ามาครั้งแรกของแบรนด์นี้สำหรับประเทศไทย และเป็นแห่งที่สองในแถบภูมิภาคเอเชีย
“คาดว่าจะเจาะกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวระดับกลางเช่นเดียวกันอีบิส”มร.ไมเคิล กล่าว
กลยุทธ์สำคัญของแบรนด์ ออล ซีซั่นส์ นับว่าเป็นแบรนด์ที่ 6 ของกลุ่มแอคคอร์ที่ถูกส่งมาวางตำแหน่งทางการตลาดเดียวกับอีบีส คือระดับ 3 ดาวแต่จะแตกต่างที่โลเคชั่นของโรงแรม โดยอิบิสจะเน้นกลุ่มโรงแรมในเมือง และมีราคาประหยัด
ขณะที่ ออล ซี ซั่นส์จะถูกวางตำแหน่งทางการตลาดเป็น โรงแรมสไตล์รีสอร์ท ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยจะเน้นไปที่โลเคชั่นหัวเมืองท่องเที่ยวหลักๆ อย่างเช่น พัทยา ที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆนี้
“ด้วยศักยภาพที่มีเครือข่ายบริหารโรงแรมไปทั่วโลก โดยเฉพาะแถบภูมิภาคเอเชีย ทำให้ธุรกิจของแอคคอร์ในประเทศไทยกว่า 70%มาจากนักเดินทางในทวีปเอเชียด้วยกัน ดังนั้นแบรนด์ ออล ซีซั่นส์น่าจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ประกอบการคนไทยที่ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารโรงแรมและรีสอร์ทได้เช่นกัน”มร.ไมเคิล กล่าว
จากตัวเลขการเดินทางในแถบเอเชียที่เติบโตสูงขนาดนี้ น่าจะส่งผลให้การเติบโตของธุรกิจโรงแรมอิบิสราคาประหยัด ออลซีซั่น เมอร์เคียวและโนโวเทลจะมีอัตราเติบโตรวดเร็วกว่าแบรนด์โซฟิเทล ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเดินทางที่มาจากประเทศห่างไกล อาทิ ยุโรป อเมริกา
แผนขยายเครือข่ายแถบเอเชีย
การเปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิที่จะเป็นศูนย์กลางการจราจรทางอากาศของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนามและจีนตอนใต้...การเลือกที่จะเปิดให้บริการโรงแรมในสนามบินจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ถูกเชนแอคคอร์วางยุทธศาสตร์ไว้ โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต คือโรงแรมแห่งที่ 2 ในจำนวนโรงแรมโนโวเทลทั้ง 3 แห่งที่เปิดให้บริการภายในบริเวณสนามบิน
“แอคคอร์เปิดให้บริการโรงแรมโนโวเทล ซิตี้เกท ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติฮ่องกงเพียง 5 นาท นอกจากนี้เตรียมตัวเปิดโรงแรม บันยัน กวางโจว ในเดือนกันยายนศกนี้ โรงแรมทั้ง 3 แห่งมีความสำคัญและเป็นโรงแรมแฟลกชิพของแอคคอร์”มร.ไมเคิล กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องมีโรงแรมในบริเวณสนามบินให้ครอบคลุมภูมิภาค
การเปิดให้บริการของสนามกอล์ฟโภคีธรา คันทรี่ กลับ นครวัต เป็นเสมือนหนึ่งการปรับโฉมของการเล่นกอล์ฟท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ถึงแม้ว่าสนามกอล์ฟจะตั้งอยู่ในประเทศที่การเมืองผันผวนอยู่ตลอดเวลาอย่างกัมพูชาก็ตาม แต่การบริหารจัดการหรือมุมมองทางการตลาดที่เชนแอคคอร์วางไว้กลับไม่เป็นเช่นนั้น ศักยภาพและตลาดการเล่นกอล์ฟท่องเที่ยวที่มีอยู่ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทย เกาหลี ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
มร.ไมเคิล บอกว่า โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีอสอร์ทก็ประสบความสำเร็จมาแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากกรที่มีสนามกอล์ฟที่ดีหลายแห่ง เช่นเดียวกับเมืองพัทยาที่เติบโตเพราะส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนกอล์ฟ
“ในภูมิภาคนี้แอคคอร์มีรีสอร์ทหลายแห่งที่ให้บริการสนามกอล์ฟด้วย และโภคีธรา คันทรี่ คลับก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่จะใช้มาตรฐานโซฟิเทลเข้าไปบริหารจัดการ และคาดว่าการทำตลาดคงไม่ยากนักเพราะมีนักเดินทางเข้าประเทศกัมพูชาประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 7 แสนคน”มร.ไมเคิลกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|