"สื่อโฆษณา" ดูจะเป็นสิ่งที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้นทุกวัน
โดยเฉพาะในถนนที่มีการจราจรคับคั่งนั้น สื่อโฆษณาที่เป็นป้ายบิลบิร์ด หรือป้ายคัดเอาท์
ต่าง ๆ นั้น ดูจะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะเจนตาเรามาทุกยุคทุกสมัย แม้ว่าจะมีความนิยมตกต่ำลงไปบ้างในช่วงก่อนหน้านี้
เนื่องจากถูกระแสกระหน่ำจากสื่อรูปแบบอื่น ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์
ที่เอาส่วนแบ่งโฆษณาไปแล้วเกือบ 100% เพิ่งจะมีสักปีหนึ่งที่ผ่านมานี้เท่านั้น
ที่สื่อโฆษณากลางแจ้งบนถนนได้กลับมาลืมตาอ้าปากขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ทั้งจากผลที่โรงการทางด่วนขั้นที่
2 ได้สำเร็จลง รวมถึงการที่เจ้าของสินค้าหวังจะหาสื่อโฆษณารูปแบบแปลกใหม่ มานำเสนอเพื่อชักจูงผู้บริโภค
ในช่วงนี้หากขับรถผ่านถนนรามคำแหง ช่วงสี่แยกตัดถนนพระราม *9 จะพบเห็นสื่อโฆษณาที่ไม่ว่าผู้ใดก็อดจะเหลียวตามาดูไม่ได้
นั่นเป็นสื่อโฆษณาจอภาพ ( Vision Board) ทั้งที่เป็นแบบ LCD ( Liqid Crystal
Display ) และที่เป็น LED ( Liquid Emitting Diode) ของบริษัททรี มีเดีย
จำกัด ซึ่งถือเป็นการนำนวัตกรรมชิ้นล่าสุดในวงการมาใช้ในการโฆษณากลางแจ้ง
ในปัจจุบันถือได้ว่า ขอ LCD เป็นผลสำเร็จจกาการพัฒนาจอภาพอิเล้คทรอนิกส์ที่ใช้หลักการทำงานของผลึกเหลวทำให้ภาพเคลื่อนไหว
ให้มีความสมจริงที่สุด เช่นเดียวกับการดูภาพจากจอโทรทัศน์แต่เนื่องจากจอ
LCD นี้ถือเป็นวิวัฒนาการยุคต้น จึงนิยมที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กบการสื่อสารด้านตัวหนังสือ
หรือตัวเลขเสียมากกว่า ซึ่งหากจะต้องเอาเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับภาพยนต์ วิดีโอ
และการถ่ายทอดสดสัญญานผ่านดาวเทียมนั้นเขาก็มักอาศัยเทคโนดลยีใหม่ ๆ ซึ่งเพิ่งจะพัฒนาขึ้นมา
นั่นก็คือ จอแบบ LED ซึ่งเป็นสื่อโฆษณาอีเลคทรอนิกส์ ที่ใช้หลักของการเปล่งแสงด้วยหลอดไฟเเล็ก
ๆ ใน 1 จุด มากว่า 3 แสนดวง ซึ่งจอ LED นี้จะประกอบด้วยสีหลัก 2 สี คือแดง
และเขียว ซึ่งสามารถผสมให้เป็นสีอื่น ๆ ได้ 256 เฉดสี
สวัสดิ์ เก่งชน ผู้จัดการทั่วไป ทรีมีเดีย กล่าวถึงแผนงานที่จะผลักดันให้สื่อโฆษณารูปแบบใหม่นี้ให้เป็นที่นิยมมากขึ้นว่า
จาการสำรวจยุทธศาสตร์ทั่วทั้งกรุงเทพฯ เพื่อที่จะค้นหาจุดที่เหมาะสมในการเปิดตัวจอโฆษณานี้แล้ว
ก็พบว่าจุดที่สี่แยกรามคำแหงตัดกับพระราม 9 นี้ถือว่าเป้นจุดที่ดีที่สุด
เนื่องจากเป็นจุดที่มีการจราจรอย่างหนาแน่นเกือบทั้งวัน โดยในช่วงเวลาเร่วด้วน
นั้นจะมีปริมาณยวดยานพาหนะผ่านจุดนี้มากสุดถึง 8,000 คันต่อชั่วโมง
เนื่องจากหลักการสำคัญของจอโฆษณากลางแจ้งที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ จะต้องอยู่ในทำเลที่มีรถหนาแน่นเป็นพิเศษ
แต่ไม่ถึงติดขัดมากเกินไป ดังนั้นหลังจากได้มีกรคัดเลือกสี่แยก ซึ่งจะสามารถเปิดตัวให้ฮือฮาในสื่อโฆษณาแบบใหม่นี้อยู่เป็นเวลานาน
ก็ได้สี่แยกพระราม 9 ตัดใหม่ มาเป็นจุดแรกในการเปิดตัว
สำหรับรูปแบบของการนำเสนอผ่านจอ Vision Board นี้ จะแบ่งเป็น 2 ฝั่งคือ
ฝั่งขวา จะเป็นการเสนอสาระบันเทิงพร้อมข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็นโฆษณาที่ส่งตรงถึงกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นการย้ำเตือนในผลิตภัณฑ์
และเป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดีต่อสินค้า
โดยทีผ่านมาการนำเสนอโฆษณาผ่านสื่อกลางแจ้ง เช่นบอร์ดอื่น ๆ ที่มีกันอยู่ตามมุมเมืองต่าง
ๆ นั้น จะไม่มีแรงดึงดูดให้ผู้คนที่ผ่านไปมาสนใจมากนัก ทั้งในเทคโนโลยีที่ยังไม่นำสมัย
รวมถึงข่าวสารที่นำเสนอก็ไม่ค่อยเร้าใจเท่าที่ควร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทางทรีมีเดีย
ก็ได้เก็บไว้เป็นจุดที่จะต้องแก้ไขสำหรับ Vision Board ของตนเอง
โดยในส่วนของสาระบันเทิงนั้น นอกจากข่าวสารซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข่าวบริการสาธารณะแล้ว
ต่อไปก็จะมีข่าวสั้น หรือแจ้งอุบัติภัย ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ๆ ให้กับผู้ผ่านไปมาได้รับทราบ
ทางด้านบันเทิงก็เป็นอีกจุดที่รีมีเดีย ได้เสริมขึ้นมาแทนที่ จะสรรหารายการบันเทิงสั้น
ๆ เช่นการ์ตูน โฮมวิดีโอ หรือ รายการรูปแบบอื่น ที่ไม่ต้องอาศัยเวลาในการดูเป็นเวลานาน
ๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดของผู้ขับรถผ่านแถบนั้น
โฆษณาก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ใขให้มีความกระชับในการนำเสนอมากขึ้น
และพยายามเสนอช่องทางให้ในการโฆษณา โดยขณะนี้ทางทรีมีเดียได้มีการเจราจากับบริษัทที่มีสินค้าขายตรง
(Direct Marketing) ประมาณ 2-3 บริษัท ที่จะร่วมมือกันจัด Campaign ส่งเสริมการขายร่วมกัน
เช่นเดียวกับรายการ shop sale ซึ่งมีการจัดในโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ
นอกจากนั้น การนำเสนอโฆษณาแต่ละช่วง ก็ได้มีการปรับปรุงให้ไม่มีการยิงโฆษณา
สินค้าแต่ละตัว ให้บ่อยครั้ง จนเกินไป เพื่อไม่ให้ผู้ชมเกิดเบื่อหน่าย และในช่วงต้นทางทรีมีเดีย
ก็ได้มีการลดอัตราค่าโฆษณาโดยจ่ายเพียง 180,000 แต่สามารถยิงโฆษณา 30 วินาที
ได้ถึง 30 สปอต/วัน หรือ 900 สปอต/ เดือน
ในอีกจุดหนึ่งที่จะต้องมีการปรับปรุงอย่างแน่นอน แต่จะต้องเป็นในช่วงต่อไป
เมื่อกิจการของ Vision Board ไปถึง จุดคุ้มทุนที่ได้ตั้งไว้แล้ว นั่นคือการพัฒนาการส่งข่าวสารหรือโฆษณาไปออกอากาศที่บอร์ดซึ่งปัจจุบันยังต้องอาศัยพนักงานคอยควบคุมอยู่ที่บอร์ดแห่งนั้น
" ตอนนี้เราต้องจ้างพนักงานกะละ 2 คน แบ่งเป็น 2 กะ ให้อยู่ในห้องควบคุมข้างใต้บอร์ด
โดยดูแลตั้งแต่ตีห้าจนถึงตีหนึ่งของอีกวัน ซึ่งยังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างเก่าอยู่
ซึ่งต่อไปเมื่อธุรกิจตัวนี้มีการเติบโตไปได้ตามเป้าที่วางไว้แล้ว เราก็จะพัฒนาให้เป็นการยิงสัญญานจากศูนย์บัญชาการที่อาคารวานิช2
ให้ไปออกอากาศในแต่ละจุดแทน"
สวัสดิ์คาดการณ์ว่า ในช่วงต่อไปจะมี Vision Board แห่งใหม่ตามมุมเมืองที่หนาแน่นอีกหลายจุด
โดยในขณะนี้ได้เล็งไปที่ฝั่งธนบุนรี เนื่องจากในกรุงเทพฯ ย่านมุมเมือง ต่าง
ๆ ได้มีการจับจองไว้เกือบหมดแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ก็มีราคาค่าเช่าค่อนข้างสูง
ขณะที่ฝั่งธนยังมีอีกหลายจุดที่ยังมีศักยภาพพอจะขึ้นได้ และมีอัตราค่าเช่าที่ถูกกว่าด้วย
นอกจาก vision Board จะเป็นจุดขายหนึ่งของทรีมีเดีย ทีถือว่า เป็นผู้นำและทำตลาดอย่างจริงจังผู้เดียวในขณะนี้
จุดขายที่ทรีมีเดียมองไว้ว่า จะนำ Bision Baord เข้าไปเสริมเพื่อให้มีช่องว่างทางการตลาดมากขึ้น
ก็เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นการติดตั้งจอภาพ Video Wall ภายในศูนย์การค้าอีกอย่างน้อย
2 แห่ง เช่น ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ในราวต้นปีหน้า และตระเตรียมการจะเข้าไปกระจายสื่อโฆษณาในซุปเปอร์มาร์เก็ต
รวมถึงการจับมือกับซุปเปอร์อีกหลายแห่งในปีหน้าด้วย
การเติบโตของสื่อโฆษณากลางแจ้งอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยอัตรา 40% ในปีนี้ตามการคาดการณ์
ส่งผลให้มีความหวังเป้นอย่างมากว่า จะทำให้อัตราการเติบโตของทรีมีเดีย ในปีนี้
จะขึ้นไปอีกอย่างน้อย 15-20% อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นนี้
เป็นธรรมดาอยุ่เองที่การแข่งขันในแวดวงสื่อโฆษณากลางแจ้งย่อมพุ่งสูงตามไปด้วย
ในขณะนี้ได้มีผุ้ประกาศตัวอย่างอย่างน้อย 2 ราย แล้วที่จะเข้ามาแย่งชิงในตัวสื่อโฆษณาจากทรีมีเดียแล้ว
เช่น บริษัท พีเจ แอดเวอร์ไทซิ่ง ซึ่งจะสร้างสื่อที่สี่แยกอโศก และจะเปิดตัวเร็ว
ๆ นี้ ทั้งนี้ผู้ที่อยู่ได้ก็จะต้องมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้อหลังที่มีสายป่านเพียงพอ
ซึ่งด้วยแรงสนับสนุนจากบริษัทแม่ คือบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นท์ หรือสถานีโทรทัศน์ช่อง
3 คงเป็นหลักประกันรับรองสายป่านี่จะทอทาบไปให้ทรีมีเดียไต่ขึ้นไปแข่งกับผู้เจนจบในวงการได้อย่างเต็มที่
โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง