|
ราคาหุ้น MPTรูดต่อเนื่องปิดลดลง1.02 บ.หลังผู้ถือหุ้นใหญ่แจงQ2กลุ่มฯจะขาดทุน
ผู้จัดการรายวัน(8 มิถุนายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
หุ้น MPT รูดต่อเนื่อง ปิดตลาดลดลง 1.02 บาท และเป็นหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุดอันดับ 3 ของตลาด ผลจาก MIL ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MPT แจงกำไรของกลุ่มบริษัทอาจต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากงานส่วนดาต้า สโตเรจ ของกลุ่มบริษัท ฯ มีสินค้าที่สิ้นสุดสายการผลิต เร็วกว่าที่คาดไว้ และเร่งเพิ่มผลิตสินค้าใหม่ ๆ ไม่ได้ทันตามเป้า และออร์เดอร์สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีหัวอ่านเพียงหัวเดียว จะส่งผลให้รายได้คาดว่าจะลดลงของบริษัท จะฉุดให้ผลการดำเนินงานทั้งกลุ่มบริษัทขาดทุน
ราคาหุ้น บริษัทแมกเนคอมพ์ พรีซิชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (MPT ) รูดหนักตั้งแต่เปิดตลาด หลังจากผู้ถือหุ้นใหญ่ " แมกเนคอมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล" แจ้งว่าการคาดการณ์รายได้ลดส่งผลให้กลุ่มบริษัทขาดทุนในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ราคา 3.38 บาท ขณะที่วันก่อนปิดที่ 3.52 บาท และราคารูดต่อเนื่องปิดตลาดช่วงเช้าที่ 2.50 บาท ลดลง 1.02 บาท คิดเป็น 28.98% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 184.45 ล้านบาท ขณะที่ช่วงบ่ายราคาหุ้นขยับเล็กน้อย โดยลดลงอีกมาอยู่ที่ 2.48 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 198.97 ล้านบาทและปิดตลาดที่ราคา 2.48 บาท ลดลง1.04 บาท คิดเป็นลดลง 29.55 % มูลค่าซื้อขายรวม 200.46 ล้านบาท และเป็นหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุดอันดับ 3 ของตลาดวานนี้
นายอัลเบิร์ท ออง กิม กวน กรรมการ บริษัท แมกเนคอมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัทแมกเนคอมพ์ พรีซิชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (MPT ) ได้มีประกาศตามกฎข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ที่ให้แจ้งข้อมูล ซึ่งอาจมีผลต่อราคาหรือมูลค่าของหลักทรัพย์ของบริษัท ฯจดทะเบียนในวันที่ 6 มิถุนายน 2549 โดยมีเนื้อความดังนี้
"เตือนเรื่องกำไรของบริษัท แมกเนคอมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด คณะกรรมการของบริษัท แมกเนคอมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (กลุ่มบริษัท ฯ) ขอประกาศภาพรวมของผลการดำเนินงานไตรมาสสองสิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ของกลุ่มบริษัท ฯ มีความ เป็นไปได้ว่าจะตํ่ากว่าประมาณการ เนื่องจากบริษัทแมกเนคอมพ์ พรีซิชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)ในส่วนงานดาต้า สโตเรจ ของกลุ่มบริษัท ฯ มีสินค้าที่สิ้นสุดสายการผลิต (End of Life of Product) เร็วกว่าที่คาดไว้ และการเร่งเพิ่มการผลิตสินค้าใหม่ๆ ไม่ได้ทันตามเป้า ประกอบกับ คำสั่งสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีหัวอ่านเพียงหัวเดียว
ผลประกอบการของ บริษัทแมกเนคอมพ์ พรีซิชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ คิดเป็น 61% ของรายได้ของกลุ่มบริษัท ฯ สำหรับผลประกอบการสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2548 ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท แมนส์ฟิลด์ ส่วนการผลิตชิ้นส่วนอิเลคโทรนิกส์ของ กลุ่มบริษัท ฯ ยังสามารถดำเนินการตามที่ได้ประกาศคาดการณ์ไว้ในผลประกอบการไตรมาสแรก 2549
รายได้ที่คาดว่าจะลดลงของ บริษัทแมกเนคอมพ์ พรีซิชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) จะมีผลทำให้ทั้ง บริษัทแมกเนคอมพ์ พรีซิชั่น เทคโนโลยี จำกัด และกลุ่มบริษัท ฯ ขาดทุน ในไตรมาสสอง ปี 2006 นี้
คณะกรรมการบริษัท ฯจะประกาศผลประกอบการสำหรับไตรมาสสอง 2006 และการคาดการณ์สำหรับครึ่งปีหลัง ในวันที่ 14 สิงหาคม 2549 โดยคำสั่งของคณะกรรมการนายยอง ค๊อค ฮอน"
บริษัท ฯ ขอชี้แจงว่า ประกาศดังกล่าวเป็นเพียงการเตือนนักลงทุนตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ในเรื่องภาพรวมของการดำเนินงานที่อาจมีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เท่านั้น บริษัท ฯจึงขอแจ้งมายังตลาดหลักทรัพย์ ฯ ถึงประกาศดังกล่าว
ซึ่งบริษัท ฯเห็นว่านักลงทุนในประเทศไทยควรจะได้รับข้อมูลที่เท่าเทียมกันกับนักลงทุนในประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ตามข้อบังคับการให้สารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ ฯ บริษัท ฯ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าผลประกอบการของบริษัท ฯ จะเป็นไปตามประกาศดังกล่าวข้างต้นหรือไม่
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง แนะนำถือ MPT โดยรอจังหวะเข้าซื้อหลังมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง อันเป็นผลจากการ บริษัท แมกเนคอมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ MPT แจ้งว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2ปี 49 ของกลุ่มบริษัท ฯ มีความเป็นไปได้ว่าจะตํ่ากว่าประมาณการ เนื่องจาก MPT มีสินค้าที่สิ้นสุดสายการผลิต (End of Life of Product) เร็วกว่าที่คาดไว้ และการเร่งเพิ่มการผลิตสินค้าใหม่ ๆ ไม่ได้ทันตามเป้า ประกอบกับคำสั่งสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีหัวอ่านเพียงหัวเดียว
กิมเอ็งมีโอกาสปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลง เพื่อสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอในไตรมาส 2/49 รวมถึงต้นทุนการขยายกำลังคนและกำลังการผลิตตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาด้วย อย่างไรก็ดี กิมเอ็งคาดว่าผลกำไรของบริษัทจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังของปีนี้ และเติบโตขึ้นอีกในปีหน้าเนื่องจากโอกาสการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นจาก Seagate หลังรวม Maxtor เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้น จึงคงคำแนะนำ " ถือ " โดยรอจังหวะเข้าซื้อหลังมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|