สวัสดิ์+STANLEY HO "วันนี้ที่เขายืดอกได้"


นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2532)



กลับสู่หน้าหลัก

ประยูร จินดาประดิษฐ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่แบงก์ทหารไทยเคยถามคนใกล้ชิดสวัสดิ์ว่า เขาจบอะไรมาถึงได้พูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว เมื่อรู้คำตอบว่าสวัสดิ์จบแค่ ม.6 จากสาธรวิทยาก็ประหลาดใจในความสามารถของสวัสดิ์

สวัสดิ์เวลาพูดไทยจะโผงผางมาก เป็นคนหยิ่งในตัวเอง ผมหงอก ขาว ทั้งที่มีอายุเพียง 48 ปีเท่านั้น ว่ากันว่าตอนที่เขาแยกตัวออกจากพี่ชาย เขาต้องมีภาระหนี้สินติดตัวมามาก แต่ความที่เป็นคนจริงจัง นักสู้ และปรับความคิดในการทำธุรกิจให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลกอยู่เสมอ ทำให้เขาสามารถฟันฝ่าภาระหนี้สิน และสร้างธุรกิจให้เติบใหญ่ มีฐานะเครดิตที่บุกแบงก์พร้อมที่จะวิ่งเข้าหา เพียงเขาใช้ชื่อตัวเองเป็นผู้ใช้วงเงินเท่านั้น

ข้างโต๊ะทำงานของสวัสดิ์จะมีลูกโลกใบเล็กๆ ที่เขาใช้เพื่อจินตนาการกระตุ้นความทะเยอทะยานว่า สักวันหนึ่งจะก้าวเป็นนักธุรกิจระดับอินเตอร์ให้ได้

วันนี้...หน่อการสร้างเครดิตเพื่อก้าวสู่นักธุรกิจระดับอินเตอร์ได้ปรากฏขึ้นมาบ้างแล้ว เมื่อเขาและลูกทีมบริษัทเหมราชพัฒนาที่ดินได้มีโอกาสพบปะกับ SIR STANLEY HO เจ้าพ่อธุรกิจบ่อนกาสิโนที่ยิ่งใหญ่ของมาเก๊า BISBOA และอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อเชิญชวนให้กลุ่มธุรกิจของ STANLEY HO มาลงทุนสร้างอุตสาหกรรมที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช

"จองชัย เที่ยงธรรมรู้จักกับ SIR STANLEY HO ดี เป็นคนชักนำให้รู้จักกับสวัสดิ์ แหล่งข่าวเล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟังถึงที่มาของการติดต่อกัน

กลุ่มพัฒนาของ STANLEY HO ที่สนใจมาลงทุนในนิคมเหมราชของสวัสดิ์คือ บริษัท STARLIGHT สวัสดิ์เล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟังว่า เนื่องจากยังไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมการทำธุรกิจอุตสาหกรรมในไทยดี ทางกลุ่มของ STANLEY HO จึงเสนอให้เขาเข้าไปถือหุ้นในโครงการลงทุนที่นิคมเหมราชด้วยจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันทางสวัสดิ์ก็ต้องเปิดทางให้กลุ่ม STANLEY HO เข้ามาถือหุ้นในโครงการลงทุนที่นิคมด้วย

บริษัทนิคมอุตสาหกรรมที่สวัสดิ์ลงทุนเวลานี้มี 2 แห่งคือ เหมราช ที่บ่อวิน ชลบุรี ขนาด 3,000 ไร่ และนิคมอุตสาหกรรมตะวันออก (มาบตาพุต) ขนาด 2,000 ไร่

"เฉพาะที่เหมราชเขาลงทุนด้านที่ดินไปแล้ว 600 ล้านบาท ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอด้วย" สวัสดิ์กล่าวกับ "ผู้จัดการ"

เงินจำนวนมากมายในการลงทุนด้านที่ดินเป็นสิ่งที่สวัสดิ์ฉลาดพอที่จะไม่ทำคนเดียว เขาใช้คอนเนคชั่นของถาวร อนันต์คูศรี หนึ่งในกรรมการกลุ่มนครไทยสตีลเวอร์คของเขาไปดึงธงชัย และทวี สิริวัฒนภักดี (ศรีสมบูรณานนท์ - เดิม) น้องชาย เจริญ สิริวัฒนภักดี มาร่วมลงทุนด้วยในสัดส่วน 35%

เมื่อสวัสดิ์ได้ธงชัยและทวีมาร่วมทุนในโครงการนิคมอุตสาหกรรมด้วย วันนี้ของสวัสดิ์จึงติดปีกบินไปแล้ว

พูดไปก็เหมือนนิยายชีวิตของสวัสดิ์ ปลุกผีลุก ปลุกผีนั่งอยู่กับธุรกิจผลิตเหล็กเส้นมาตั้งแต่อายุ 16 ขวบ ผ่านร้อนผ่านหนาวในธุรกิจมาแล้วแสนสาหัส ขนาดแบงเกอร์ชั้นนำบางคนสบประมาทเขามาแล้วตอนเสนอโครงการเหล็กสมบูรณ์เมื่อหลายปีก่อน "เครดิตของสวัสดิ์มันติดลบ เอามือลบลงไป มันไม่มีอะไรติดมือขึ้นมาเลย" เป็นถ้อยคำที่สวัสดิ์จำได้ติดหูถึงทุกวันนี้

แต่เวลานี้ เขากำลังทำโครงการเหล็กเส้นเตาหลอมบนที่ดินนิคมเหมราชกำลังทำโครงการท่าเรือศรีราชาฮาร์เบอร์ขนาด 70 ไร่ที่หาดผาแดง โครงการนิคมอุตสาหกรรมท่าเรือ เหล็กเส้นเตาหลอมต้องการเงินลงทุนอีกหลายพันบ้านบาท โดยมีธงชัยและทวี สิริวัฒนภักดีอยู่เคียงข้างในฐานะนักลงทุน มีวัฒนา สุทธิพินิจธรรม อดีตนายแบงก์นครหลวงไทยยุควิสิษฐ์ ตันสัจจาเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่นั่งเป็น PROJECT DIRECTOR โครงการนิคมอุตสาหกรรม

องค์ประกอบความแข็งแรงในการสร้าง CAPITAL BASE ของสวัสดิ์เขาถือว่าวันนี้มั่นคงและแน่นหนาแล้ว ด้านบริหารเขาได้คนหนุ่มหัวไวอย่งวัฒนาที่สังคมเคยฝังเขาทั้งเป็นมาแล้ว แต่สวัสดิ์ดึงเขาขึ้นมาใหม่นั่งข้างๆ เขา คอยปั้นและควบคุมโครงการ

พรุ่งนี้ของสวัสดิ์จะก้าวเป็นนักธุรกิจอินเตอร์สู้กับคนทั้งโลกได้หรือไม่ ยังไม่รู้ แต่เวลานี้ธุรกิจของเขาที่ฮ่องกงก็มีแล้ว "มันเป็นธุรกิจซื้อขายตราสารการเงินน่ะ" สวัสดิ์กระซิบบอก "ผู้จัดการ"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.