“โตวชิรกุล”ญาติสวนสยามคืนสังเวียนปั้นแบรนด์“สิริยาฯ”เน้นโซนรามอินทรา


ผู้จัดการรายวัน(7 มิถุนายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ตระกลู“โตวชิรกลุ” หุ้นส่วนกลุ่มอมรพันธ์ กรุ๊ป เจ้าของโครงการสวนสยามของไทย เร่งปั้นแบรนด์ “สิริยาฯ”หลังแยกตัวแตกบริษัทย่อยพัฒนาบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ ล่าสุดเปิดตัว2 โครงการบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ มูลค่ารวมกว่า 465ล้านบาท ย่านรามอินทรา จงปรับกลยุทธ์ใหม่ผลิตบ้านพร้อมอยู่ลดต้นทุนก่อสร้าง พร้อมเตรียมผุดเพิ่มอีกโครงการหากเจรจาซื้อที่ดินเพิ่มอีก 20 ไร่สำเร็จ

นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทสิริยา โฮม แลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์อีก 2 โครงการ หลังจากที่บริษัทสิริยาฯ หยุดการพัฒนาโครงการไประยะหนึ่งเนื่องจากประสบกับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ โดยโครงการที่บริษัทเปิดขายในปี47-48 ที่ผ่านมา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับกลางบน ราคา 5.4-10.5 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “สิริยา” ซึ่งขณะนี้สามารถปิดการขายโครงการไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการ ใหม่ที่จะมีการเปิดตัวในปีนี้ มี2 โครงการคือโครงการบ้านเดี่ยว สิริยาโฮม และโครงการทาวน์เฮาส์ สิริยาทาวน์

โดยทั้ง2 โครงการจะตั้งอยู่ในทำเล ย่านเรียบถนนรามอินทรา ใกล้กับสวนสยาม สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวจะมีระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 4.4 - 7 ล้านบาท จำนวน 55 ยูนิต มีพื้นที่ในการพัฒนาโครงการรวม 14 ไร่ มูลค่าขาย 300 กว่าล้านบาท ขณะนี้มียอดจองซื้อแล้ว 8 ยูนิต หรือประมาณ 15% ส่วนโครงการทาวน์เฮาส์ จะแยกออกจากโครงการพัฒนาบ้านเดี่ยวอย่างชัดเจน โดยมีพื้นที่ในการพัฒนาโครงการ 5 ไร่เศษ และจะมีการพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์จำนวน 62 ยูนิต ระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 2.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 165 ล้านบาท

นอกจากการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้ง2 โครงการดังกล่าวแล้ว บริษัทยังมีแผนในการพัฒนาโครงการใหม่อีก 1 แห่ง โดยขณะนี้อยู่ในช่วงการเจรจาซื้อที่ดินเพิ่มอีก 20 ไร่ ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นของเพื่อนๆ ตั้งอยู่ติดกับที่ดินของตระกูล“โตวชิรกุล” ในย่านถนนรามอินทรา ใกล้กับโครงการของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โดยที่ดินของตระกลูโตวชิรกุลเองก็มีอยู่เดิม 20 ไร่ และหากสามารถตกลงราคาซื้อขายได้จะทำให้มีแลนด์แบงก์สำหรับพัฒนาประมาณ 40 ไร่ ซึ่งทำเลดังกล่าวมีศักยภาพเหมาะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาท และหากจะพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ ก็สามารถพัฒนาขายในระดับราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาทได้

ด้านนางสาวอารยา โตวชิรกุล กรรมการผู้จัดการร่วม กล่าวว่าจากการศึกษาและสำรวจพฤติกรรม พบว่า ตลาดบ้านเดี่ยวที่ระดับราคา3-5 ล้านบาทและทาวน์เฮาส์ระดับ 2.5 ล้านบาท เป็นที่ต้องการของลูกค้าในพื้นที่อย่างมาก และเพื่อรองรับความต้องการ บริษัทจึงแบ่งพัฒนาโครงการออกเป็น 2 ส่วน หวังสร้างทางเลือกให้แก่ลูกค้า

นอกจากนี้ เพื่อให้สร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มลูกค้า และเป็นการควบคุมต้นทุนในการก่อสร้าง บริษัท จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาสินค้าใหม่ โดยหันมาพัฒนาในรูปแบบบ้านพร้อมอยู่ หรือสร้างเกือบเสร็จก่อนขาย ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนฟังค์ชั่นเล็กน้อยในการตกแต่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น ขณะเดียวกันเพื่อไม่ให้เกิดการล่าช้าในการก่อสร้างจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการตกแต่ของลูกค้า บริษัทก็ได้นำรูปแบบการก่อสร้างบ้านพร้อมอยู่เข้ามาใช้ด้วย

“ปัญหาเรื่องดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับวัสดุราคาแพงขึ้นจากการขึ้นราคาน้ำมัน ทำให้ต้องเร่งระยะเวลาในการก่อสร้างให้เร็วขึ้น เพื่อหนีต้นทุนดอกเบี้ย ขณะเดียวกันจะแบ่งเฟสของบ้านสั่งสร้างเพื่อควบต้นทุนทางด้านวัสดุก่อสร้าง ” นางสาวอารยา กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายยามรักษาระดับกำไรเบื้องต้นไว้ที่ระดับ30% แม้ว่าระดับราคาวัสดุก่อสร้างจะมีการขยายตัวขึ้นสูง ซึ่งเรื่องดังกล่าวบริษัทมีประสบการณ์แล้วในช่วงปลายปี48 ที่ผ่านมา โดยหลังจากที่มีการปรับขึ้นราคาสินค้า บริษัทต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงเรื่องการขอปรับราคาขึ้นไป 20-30% ตามต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้นจริง ส่วนในปีนี้ บริษัทได้มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างล่วงหน้ากับบริษัทรับเหมาไว้แล้ว หากาคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้น จะไม่ส่งผลกับต้นทุนก่อสร้างมากนัก

นางอภิญญา วิศวพลานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ในช่วงแรกของการเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการนี้ บริษัทจะจัดโปรโมชันพิเศษ มอบส่วนลดสูงสุด 10% สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านในโครงการบ้านเดี่ยว 10 ยูนิตแรก โดยจะสามารถซื้อบ้านในราคา 3.99ล้านบาท จากระดับราคาปกติ 4.4 ล้านบาท และทุกๆ 3 เดือน บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.