|
"ไอเอ็นจี"จ่อคิวลุยตลาดหุ้นไทยออกกองทุนผสมมูลค่า5พันล้าน
ผู้จัดการรายวัน(5 มิถุนายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
บลจ.ไอเอ็นจีจ่อคิวลุยตลาดหุ้นไทย ล่าสุด ก.ล.ต. ไฟเขียว จัดตั้ง "กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทยแวลูพลัส" กองทุนผสมมูลค่า 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูงและมีศักยภาพดี และมีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า 2% เมื่อเทียบกับขนาดของตลาดหลักทรัพย์รวม พร้อมกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ-เอกชน ช่วยดันผลตอบแทนอีกทาง
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติให้บลจ.ไอเอ็นจี สามารถจัดตั้งกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่มีนโยบายลงทุนผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยกองทุนดังกล่าวมีจำนวนมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท
สำหรับนโยบายการลงทุนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ระบุในหนังสือชี้ชวนว่า เป็นกองทุนผสมที่มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้หรือตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน สำหรับแต่ละประเภทในสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึง 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน โดยในส่วนของการลงทุนในตราสารทุนนั้น กองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า 2%เมื่อเทียบกับขนาดของตลาดหลักทรัพย์รวม หรือบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูงและมีศักยภาพดีเป็นหลัก รวมทั้งการลงทุนในบริษัทที่อยู่ระหว่างดำเนินการขอเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ของทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หรือภาคเอกชน รวมถึงเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ด้วย อย่างไรก็ตาม โดยหลักแล้ว กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนมากกว่า แต่ผู้จัดการกองทุนอาจจะมีการปรับลดสัดส่งวนการลงทุนมาลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น รวมทั้งอาจจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายในต่างประเทศตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานก.ล.ต. กำหนด ทั้งนี้ ตามความเหมาะสมต่อสภาวะเศรษฐกิจและสภาวะของตลาดด้วย
นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง หรือหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีการอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ
รายงานข่าวกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทจัดการกองทุนให้ความสนใจจัดตั้งกองทุนประเภทกองผสมซึ่งจะมีสัดส่วนการลงทุนทั้งในตราสารหนี้และในตราสารทุนมากขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน ยังไม่เอื้อต่อการลงทุนในกองทุนประเภทกองทุนหุ้นอย่างเดียว ส่งผลให้บริษัทจัดการกองทุนต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการจัดตั้งกองทุนผสมที่มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้เข้ามา เพื่อให้กองทุนมีกำไรจากการลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ตามภาวะตลาด ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ กองทุนยังสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนในสอดคล้องกับภาวะการลงทุนในตลาดได้ เช่น หากการลงทุนในตลาดหุ้นเอื้ออำนวย กองทุนอาจจะให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นมากขึ้น แต่หากดัชนีหุ้นผันผวนก็สามารถโยกเงินลงทุนในตราสารหนี้แทนได้ ซึ่งจะเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นแต่ยังกลัวความเสี่ยงจากปัจจัยลบต่างๆ อยู่
รายงานข่าวกล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีบริษัทจัดการกองทุนที่เปิดขายกองทุนผสมไปแล้วจำนวน 2 กองทุน ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยมิกซ์-โฟกัส มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ที่บริหารจัดการกองทุนโดยบลจ.บีที ซึ่งเปิดขายหน่วยลงทุนไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยหลังจากปิดไอพีโอสามารถระดมทุนได้ประมาณ 197.115 ล้านบาท
สำหรับกองทุนเปิดไทยมิกซ์-โฟกัส มีนโยบายการลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ตามจังหวะที่เหมาะสม โดยในระยะแรกกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝาก ซึ่งจะให้ผลตอบแทนดีในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ภายหลังจากที่สถานการณ์ทางการเมือง รวมทั้งภาวะตลาดหุ้นมีเสถียรภาพแล้ว กองทุนจะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้น
ส่วนอีกหนึ่งกองทุนที่เปิดขายไปแล้วเช่นกัน คือ กองทุนเปิดทิสโก้ เพิ่มผล 6 ของบลจ. ทิสโก้ ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมแบบกำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุนไม่เกินร้อยละ 20 ส่วนที่เหลือจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้โดยจะเป็นตราสารที่เป็นพันธบัรรัฐบาลอายุประมาณ 2 ปี 4 เดือนเป็นหลัก โดยหลังจากเปิดขายในช่วงไอพีโอไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเช่นกัน สามารถระดมทุนได้ประมาณ 52 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมด 1,000 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|