ชาญชัย จารุวัสตร์ ยกเครื่องสามารถเทเลคอม


นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2538)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อต้นปี 2537 สามารถเทเลคอม สร้างความฮือฮาโดย การเข้าไปถือหุ้นในบริษัท ยีเอสเอส อาร์เรย์ เทคโนโลยี จำกัด คนในวงการต่างมองว่า เป็นก้าวจังหวะใหม่ของสามารถฯที่จะขยายเข้า สู่ความเป็นผู้ผลิตที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงมากขึ้น

ปลายปีธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการหนุ่มแห่งค่ายสามารถฯ ได้สร้างธุรกิจใหม่ให้กับเครือข่ายของเขาโดยการโดดเข้ามาเล่นธุรกิจเคเบิ้ลทีวีผ่านดาวเทียม โดยจับมือร่วมกับ บีเอสเอ็น และเอชบีโอ. สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าจานดาวเทียม ซึ่ง ณวันนี้เป็นเวลากว่า 3 เดือนมาแล้ว ว่ากันว่าธุรกิจเคเบิ้ลทีวีของสามารถฯไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเท่าที่ควรตามที่ได้ตั้งความหวังเอาไว้

อย่างไรก็ตามในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของสามารถฯ ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาดูเหมือนกับไม่ได้สร้างความแปลงเปลี่ยนให้เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ว่ากันว่าที่สามารถฯ ประสบปัญหาอยู่เช่นนี้เพราะระบบการบริหารงานไม่เป็นสากล ชื่อเสียงเกี่ยวกับการบริหารงานของสามารถฯ เป็ฯที่รู้จักกันดีว่ายังรักษษความเป็นธุรกิจครอบครัวอยู่เช่นเดิม แม้จะขายสินค้าไฮเทคโนโลยีเช่นใดก็ตามภาพของระบบเก่านี้ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องการทำงาน สมองไหลไม่มีที่สิ้นสุดข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยกับพนักงานมือดีของสามารถฯ ลาออกปรากฏอยู่บ่อยครั้ง

นี่คือปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขผู้บริหารระดับสูงของสามารถฯรวมทั้งผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ย่อมรู้ดีและกำลังหาทางสางปัญหานี้

กลางเดือนธันวาคม 37 ซึ่งเป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นของสามารถฯ ได้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ถือหุ้นและวงการโทรคมนาคม นั่นคือการแนะนำตัวผู้บริหารคนใหม่เป็ฯที่รู้จักกันดีของวงการ และมีประสบการณ์ด้านการบริหารเป็นอย่างดี เสียงปรบมือเกรียวกราวดังขึ้นพร้อมกับคำประกาศชื่อผู้มาใหม่ จากองค์กรที่การันตีความเป็นมืออาชีพของเขาได้

ชาญชัย จารุวัสตร์ ลูกหม้อเก่าไอบีเอ็ม ที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนในไอบีเอ็มมากว่า 2 ทศวรรษ แถมตำแหน่งสุดท้ายเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงที่สุดในเมืองไทยอีกด้วย

แม้ชาญชัย จะนั่งเก้าอี้ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการไอบีเอ็มได้เพียง 2ปีเท่านั้นแต่เขาก็เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ด้านการบริหารงานแบบใหม่ให้เกิดขึ้นในเมืองไทยจนโด่งดังอยู่พักใหญ่ นั่นคือการยกเครื่อง 2 ครั้งในรอบปีครึ่งติดต่อกัน ซึ่งผลพวงจากการยกเครื่องแต่ละครั้งของเขา จะต้องมีพนักงานลากออกทุกครั้งซึ่งครั้งล่าสุดเป็นการลาออกด้วยความสมัครใจ และได้ผลประโยชน์ตอบแทนคุ้มค่ากับการตัดสินใจลาออกด้วย

ภาพภายนอกองค์กรมองการตัดสินใจปฏิวัติองค์กรไอบีเอ็มล่าสุดของชาญชัยว่าเป็นความอาจหาญที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำมาก่อนในเมืองไทยเหมือนพระเอกในสายตาผู้บริหาร ซึ่งผู้บริหารของสามารถฯก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นที่ยกย่องการกระทำเช่นนั้น ในขณะที่ยังมีผู้บริหารในวงการธุรกิจเดียวกันอีกหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการเช่นนี้

อย่างไรก็ตามปัญหาในองค์กรสามารถฯ แม้จะแตกต่างกับไอบีเอ็มในประเด็นปัญหาระบบการบริหาร ซึ่งไม่ใช่พนักงานในองค์กรก็ตาม แต่ผู้บริหารของสามารถฯ ก็เชื่อว่าชาญชัยมีความเป็นมืออาชีพเพียงพอที่จะเข้ามาผ่าตัดองค์กรแก้ปัญหาเนื้อร้ายภายในของเขาได้

ขณะเดียวกันคนภายนอกกำลังจับตามองอยู่ว่าชาญชัยจะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่ หรือจะมาเสียมวยในคราวนี้ เพราะการบริหารระบบครอบครัวถือเป็นระบบการบริหารที่อันตรายและแก้ไขยากที่สุด อันเนื่องมาจากการกระทบกระทั่ง หรือการตัดสินใจจากมืออาชีพซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่ถูกว่าจ้างให้เข้ามาบริหารอาจไม่มีอำนาจเพียงพอที่จะมาสั่งการได้ หากชาญชัยทำได้สำเร็จเพราะได้รับความร่วมมือด้วยดี ชื่อเสียงของสามารถฯ และชาญชัยจะเริ่มเติบโตไปพร้อมๆ กัน แต่หากชาญชัยไม่ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากบุคคลภายใน ชื่อของชาญชัยก็จะหายเงียบไปจากวงการมืออาชีพ ในขณะที่ชื่อเสียงของสามารถฯ ก็ยังคงเป็นที่รู้จักกันดีเช่นเดิม

งานนี้จึงเป็นเรื่องที่ชาญชัยต้องรับบทหนักอีกงานหนึ่งหลังจากที่สร้างประวัติศาสตร์ในไอบีเอ็มมาแล้ว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.