|
'กรณ์ ณรงค์เดช’ขยับลงทุนอสังหาฯงัดที่ดินสุขุมวิทผุดอพาร์ตเมนต์ให้เช่า
ผู้จัดการรายวัน(31 พฤษภาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
"กรณ์ ณรงค์เดช”ปรับแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ หลังที่ดินในไพร์มเอเรียลหายากและราคาพุ่งต่อเนื่อง เล็งผุดอพาร์ตเมนต์ให้เช่า เจาะลูกค้าต่างชาติมูลค่า 300 ล้านบาท แถมควักเงินส่วนตัวลงทุน จ้องงัดที่ดินของตระกูล โซนสุวรรณภูมิกว่า 100 ไร่ พัฒนาโครงการ หากสนามบินสุวรรณภูมิเปิดชัดเจนก่อน
นายกรณ์ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการ บริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด ผู้ดำเนินโครงการ The Cadogan คอนโดมิเนียมหรูย่านสุขุมวิท เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนของบริษัทฯว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาสามารถปิดการขายโครงการคอนโดฯ ซึ่งหลังจากนี้ มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ 1 โครงการ รูปแบบอพาร์ตเมนต์ให้เช่าพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ในซอยสุขุมวิท 49 สูง 5 ชั้น จำนวนไม่เกิน 20 ยูนิต ขนาด 60-200 ตารางเมตร อัตราค่าบริการจะอยู่ที่ประมาณ 400 บาทต่อตร.ม.รวมมูลค่าลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งที่ดินดังกล่าวบริษัทฯได้ตัดสินใจซื้อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ในราคา1.7 แสนบาทต่อตร.ม.
" การลงทุนจะใช้เงินส่วนตัวทั้งหมด ไม่ได้กู้สถาบันการเงิน โครงการดังกล่าวจะเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับสูง โดยเฉพาะชาวต่างประเทศ ทั้งชาวญี่ปุ่นและยุโรปในสัดส่วนเท่ากัน คาดจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณปี 50 "
ส่วนภาพรวมของตลาดอสังหาฯในโซนสุขุมวิท พบว่า มีความต่างกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงนั้นจะชอบห้องชุดขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันราคาห้องชุดแพงขึ้น เนื่องจากวัสดุก่อสร้างมีการปรับราคาสูงขึ้น โดยปัจจุบันราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 80,000บาทต่อตร.ม. จากเดิม 65,000บาทต่อตร.ม.
อย่างไรก็ตาม นายกรณ์กล่าวแนวทางการลงทุนของเคพีเอ็น จะแยกเป็น 2 กลุ่มบริษัท คือ โครงการที่เน้นตลาดระดับบน จะดำเนินการภายใต้บริษัท บริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด และถ้าพัฒนาโครงการประเภทอพาร์ตเมนต์ให้เช่า ระดับราคา 5,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป จะดำเนินการภายใต้บริษัท เคพีเอ็น เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 แห่งคือที่บางนา,ดินแดน และรามคำแหง ส่วนโครงการอพาร์ตเมนต์ที่ซอยสุขุมวิท 49 นี้เราพัฒนาในนามบริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด
" ปัจจุบันที่ตลาดอสังหาฯชะลอตัว แต่บริษัทฯตนค่อนข้างโชคดีที่ธุรกิจอสังหาฯไม่ใช่รายได้หลักๆจะมาจากธุรกิจยานยนต์มากกว่า จึงทำให้บริษัทไม่มีความเสี่ยงมากนัก โดยจะพัฒนาปีละ 1 โครงการเท่านั้น ซึ่งตลาดอาคารสูงย่านสุขุมวิทในปัจจุบันดีมานด์ค่อนข้างลดลงแล้ว ส่วนโครงการเก่าก็ต้องมีการนำมาปรับปรุงใหม่ ขณะเดียวกันตลาดระดับล่างยังไปได้ดีอย่างต่อเนื่อง”
รองประธานกล่าวว่า บริษทฯยังมีที่ดินสะสม(แลนด์แบงก์)อยู่หลายทำเล อาทิเช่น ที่ดินติดชายหาดจังหวัดกระบี่ กว่า 10 ไร่ มาศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการ เนื่องจากพบว่า ตลาดต่างจังหวัดยังเหมาะที่จะเข้าไปลงทุน และมีผู้ประกอบการคนไทยและต่างชาติ เข้าไปพัฒนาโครงการในรูปแบบของวิลล่ามากมาย ราคาตั้งแต่ 60 ล้านบาทขึ้นไป
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีที่ดินสะสมในย่านสุวรรณภูมิ กว่า100ไร่ ใกล้ถนนกิ่งแก้ว- ลาดกระบัง ซึ่งมารดาของตนคือ คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช สะสมไว้เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ขณะที่มีนายหน้าติดต่อขอซื้อมากมาย แต่ก็ไม่ได้ขายแต่อย่างใด ต้องการเก็บไว้พัฒนา โดยอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล และรอจังหวะให้สนามบินสุวรรณภูมิมีความเจริญเติบโตมากกว่านี้เสียก่อน นอกจากนี้ยังมีที่ดินสะสมที่จ.เชียงใหม่ และพัทยา จ.ชลบุรี อีกบางส่วน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|