คาดคนไทยดูบอลโลกพุ่ง26%แนะปรับผังซื้อสื่อโฆษณาให้ดี


ผู้จัดการรายวัน(31 พฤษภาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

สตาร์คอมเผยผลวิจัย ‘StarCapture’ วัดชีพจรบอลโลกในไทย พบคนไทยกว่า 44 ล้านคนร่วมดูบอลโลก สูงกว่าปี 2545 ถึง 26.6 % กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มคนโสดคึกคักมากที่สุด ชี้ 5 ปัจจัยสำคัญรวมทั้ง ‘พิษเศรษฐกิจ’ ส่งผลให้คนไทยหันลุ้นบอลโลกทางทีวีที่บ้านมากเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ แนะนำนักการตลาดปรับผังการซื้อสื่อโฆษณาให้สอดคล้องกับกระแสบอลโลก ส่วนสตาร์คอมจัดตั้งทีมเฉพาะกิจ วิเคราะห์มีเดียรายวันและวางแผนซื้อสื่อโฆษณาสำหรับช่วงบอลโลกโดยเฉพาะ

StarCapture โดยสตาร์คอม มีเดียเวสต์ กรุ๊ป มีเดียเอเยนซี่ชั้นนำเปิดผลวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยในกระแสบอลโลกที่กำลังจะมาถึง เพื่อศึกษาถึงผลกระทบของการแข่งขันฟุตบอลโลกที่มีต่อพฤติกรรมผู้บริโภคภายใต้สภาพแวดล้อมปัจจุบัน รวมทั้งพฤติกรรมการเปิดรับสื่อและกิจกรรมของผู้บริโภคในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก

การวิจัย StarCapture ในครั้งนี้ดำเนินโดยหน่วยงานวิจัยผู้บริโภคของสตาร์คอม โดยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ แบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นสามช่วงอายุ คือกลุ่มอายุ 15 -25 ปี กลุ่มอายุ 26-35 ปีและกลุ่มอายุ 36 – 45 ปี ครอบคลุมทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา กลุ่มทำงานผู้ประกอบอาชีพค้าขาย นักธุรกิจ พนักงานบริษัท รวมทั้งกลุ่มคนโสด และกลุ่มเป้าหมายที่มีครอบครัวแล้ว และนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ร่วมกับฐานข้อมูลเดิมในคลังข้อมูลของสตาร์คอม ควบคู่ไปกับผลวิจัยด้านอื่น เพื่อประมวลเป็นข้อมูลที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้บริโภคคนไทยในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้

“ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสฟีเวอร์ครั้งนี้มีทั้งสิ้น 5 ประการ คือ 1) ช่วงเวลาการแข่งขันที่คนไทยคุ้นเคยกับการแข่งขันบอลภาคพื้นยุโรป 2) การถ่ายทอดผ่านทุกสถานีโทรทัศน์โดยทีวีพูล 3) การส่งเสริมการขายของสินค้าและสื่อต่างๆ ประการที่ 4) สถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประการที่ 5) เป็นการแข่งขันของสุดยอดทีมของโลก ซึ่งแตกต่างไปจากหลายๆ ปีที่ผ่านมาในบางครั้งทีมโปรดของคนไทยอาจไม่เข้ารอบสุดท้าย แต่การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้รวบรวมสุดยอดทีมของโลกมาแข่งโดยพร้อมเพรียงกัน เช่นฮอลแลนด์ บราซิล อังกฤษ อาร์เจนตินา เยอรมันนี อีตาลี เป็นต้น ปัจจัยทั้งห้าประการดังกล่าวจึงส่งผลให้คนไทยลดพฤติกรรมนอกบ้านและหันมาดูบอลโลกผ่านโทรทัศน์ที่บ้านเพิ่มมากขึ้น”

StarCapture สรุปรายงานว่าในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก คาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปดูโทรทัศน์ทุกช่องรวมกันถึง 32.5 % คิดเป็นอัตราส่วนสูงขึ้น 15 – 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเรตติ้งที่สูงสุดของปี 2549 และหากพิจารณาในรายละเอียด เมื่อเทียบกับช่วงเวลาไพรไทม์ ระหว่าง 19.30 น. – 20.20 น. ระหว่างปีนี้กับเมื่อปี 2545 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันทีมีการถ่ายทอดฟุตบอลโลก คาดว่าในปีนี้จะมีกลุ่มผู้ชมโทรทัศน์ในช่วงเวลาดังกล่าวสูงเพิ่มขึ้นถึง 26.6 % เมื่อเทียบเคียงกับฐานข้อมูลเดิมเราจึงสามารถสรุปได้ว่าการถ่ายทอดฟุตบอลโลกส่งผลโดยตรงทำให้เรตติ้งผู้ชมโทรทัศน์สูงขึ้น

“สำหรับในปี 2549 เราคาดว่าระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ คนไทยอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปจะดูฟุตบอลโลกสูงถึง 43.9 ล้านคน จากฐานประชากรกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งมีทั้งประเทศรวมกันทั้งสิ้น 48.8 ล้านคน หรือคิดเป็น 90% ของกลุ่มประชากรดังกล่าว ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์”

การเลือกซื้อโฆษณาต้องเพิ่มความรอบคอบมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาไพรไทม์ระหว่าง 19.30 น. – 22.00 น.ที่มีการถ่ายทางสถานีอื่นๆ โดยเฉพาะคู่สำคัญที่มีอังกฤษ บราซิล เยอรมัน อิตาลี ลงแข่งขัน กลุ่มเป้าหมายพร้อมจะเปลี่ยนพฤติกรรมจากการดูละคร ข่าวหรือรายการประจำ ไปดูการแข่งขันฟุตบอลโดยทันที ซึ่งจะกระทบต่อเรตติ้งของสถานีอื่นๆ ที่ไม่ได้ทำการถ่ายทอดในคู่นั้นๆ การวางแผนซื้อสปอตโฆษณาในช่วงเวลาดังกล่าวจึงต้องรอบคอบเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตามกลุ่มวัยรุ่นและคนโสดสนใจที่จะไปดูตามสถานที่ที่จัดให้ เช่น หน้าเซ็นทรัล เวิร์ลด์ หรือช้างสเตเดียม เป็นต้น

“เมื่อพิจารณาในด้านการตลาดพบว่าผู้บริโภคไม่สามารถจดจำได้ว่าใครเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ต่างอิงกระแสบอลโลกเหมือนๆ กัน และยังเกิดความสับสนระหว่างพฤติกรรมการรับรู้กับพฤติกรรมคุ้นชิน เช่นรับรู้ว่าไวไวเกาะกระแสบอลโลก แต่เลือกซื้อมาม่าเพื่อเก็บไว้ทานยามดึก เป็นต้น”

ในส่วนของสตาร์คอม ได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าของเราโดยเฉพาะ เพื่อแนะนำการซื้อสื่อในช่วงเวลาดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยรูปแบบการทำงานจะเป็นการวิเคราะห์การแข่งขันเป็นรายคู่ตามรอบการแข่งขัน ควบคู่ไปกับพฤติกรรมการเปิดรับสื่อ เพื่อปรับวิธีการวางแผนและการซื้อสื่อให้สอดคล้องกับกระแสในขณะนั้น ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าของเราคุ้มค่าสูงสุดกับงบประมาณที่ใช้ไปในกิจกรรมนี้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.