กรุงเทพแลนด์ปั๊มรายได้ฝ่าเศรษฐกิจ ชู"เดอะ แกรนด์ฯ"แม่เหล็กดูดลูกค้า


ผู้จัดการรายวัน(29 พฤษภาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

กรุงเทพบ้านฯปั๊มยอดขายปี 49 วางเป้า 2,000 ล้านบาท โดยโครงการเดอะ แกรนด์ พระราม 2 แหล่งยอดขายหลัก 1,400 ล้านบาท พร้อมเร่งก่อสร้างบ้านพร้อมอยู่ในโซน ราชพฤกษ์ พาร์ค วิลล์ กลางปีเสร็จ 124 หลัง ปลายปีผุดคฤหสน์หรูบนเกาะลายล้อมด้วยแม่น้ำ สนนราคา 60 ล้านบาท เดินหน้าโครงการทาวน์เฮาส์ย่านภาษีเจริญ เปิดพรีเซลส์เฟสแรกส.ค.นี้

นางอุไรวรรณ ภัทรกานต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ กรุงเทพแลนด์ ในเครือบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)หรือ PF เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการการลงทุนของบริษัทในปีนี้ว่า บริษัทยังคงเดินตามแนวนโยบายที่วางไว้ แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจอยู่ในช่วงของการปรับเปลี่ยน แต่ด้วยศักยภาพและความมั่นคงของบริษัทแล้วจะไม่ได้รับผลกระทบมาก ทั้งนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย

ซึ่งตามแผนในปีนี้จะมีการพัฒนา 2 โครงการขนาดใหญ่บน 2 ทำเลที่มีศักยภาพรวมมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว เดอะ แกรนด์ พระราม 2 และโครงการทาวน์เฮาส์ ราชพฤกษ์-ภาษีเจริญ แหล่งเงินกู้มาจากธนาคารกรุงไทย(KTB) โดยโครงการเดอะ แกรนด์ฯ เป็นโครงการขนาดใหญ่มีเนื้อที่ในการรองรับการพัฒนาทั้งโครงการกว่า 600 ไร่ ตามแผนผังในเบื้องต้นจะพัฒนาประมาณ 350 ไร่ แบ่งโซนการพัฒนาเป็น 3 รูปแบบ ที่สามารถตอบสนองถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างลงตัว มีการนำที่ดินมาพัฒนาเป็นทะเลสาบและสวนขนาดใหญ่กว่า 60 ไร่ ส่วนแรกของการพัฒนาจะเป็นโซนราชพฤกษ์ พาร์ค วิลล์ เป็นบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ (พรีบิลล์) ภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านหรูล้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ทำให้เกิดความร่มรื่น มีการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ผสมกับพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งนี้ ในเฟสแรกจะแบ่งที่มาพัฒนาประมาณ 43 ไร่ จากประมาณ 90 ไร่ คาดว่าในเฟสแรกจะก่อสร้างแล้วเสร็จกลางเดือนมิ.ย.นี้ประมาณ 124 หลัง ราคาเริ่มต้นประมาณ 4.2 ล้านบาทถึงสูงสุด15 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้ถูกจองไปหมดแล้ว คงเหลือบ้านเดี่ยวราคาสูงสุดที่ 11 ล้านบาท

“ จริงๆแล้วเดอะ แกรนด์ พระราม 2 ได้เปิดมาช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ยอมรับช่วงนั้นยังไม่พร้อมเท่าที่ควร การก่อสร้างทำได้น้อยหลัง เพราะเจอปัญหาผู้รับเหมาไม่พร้อม โดยยอดขายที่ทำได้ไม่มากประมาณ 200-300 ล้านบาท ขณะที่บ้านพร้อมอยู่ ในทางบัญชีสามารถบันทึกรายได้ทันที แต่ถ้าเป็นแบบบ้านสั่งสร้างแล้ว จะบันทึกในส่วนของค่าที่ดิน ”นางอุไรวรรณกล่าว

ในส่วนของโซนอื่นๆ คือ โซนเลค ราชพฤกษ์ และไอซ์แลนด์ พาราไดซ์ พัฒนาต่อจากในโซนแรก รูปแบบจะมีความแตกต่างกัน กล่าวคือ โซนเลค ราชพฤกษ์ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวแบบสั่งสร้างและพร้อมอยู่ บนเนื้อที่ 70-80 ไร่ ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับโซนราชพฤกษ์ พาร์ค วิลล์ ในช่วงแรกจะแบ่งออกมาพัฒนาประมาณ 40 ไร่ สามารถพัฒนาได้ 69 หลัง ราคาขายเริ่มต้น 10-25 ล้านบาทขึ้น และโซนสุดท้ายคือ ไอซ์แลนด์ พาราไดซ์ จะเป็นคฤหาสน์บนเกาะและมีน้ำล้อมรอบคฤหาสน์ พัฒนาบนเนื้อที่ 100 ไร่ เปิดการขายไม่ถึง 20 หลัง บางหลังมีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ถึง 1 ไร่ครึ่ง ราคาประมาณ 30-60 ล้านบาท โดยจะก่อสร้างบ้านตัวอย่างจำนวน 3 หลัง และจะเปิดขายประมาณปลายปี 49

นางอุไรวรรณ กล่าวถึงเป้ายอดขายปี 49 ว่า บริษัทตั้งยอดขายรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท มียอดรับรู้รายได้ประมาณ 1,600 ล้านบาท ยอดขายหลักๆจะมาจากโครงการเดอะ แกรนด์ พระราม 2 ประมาณ 1,400 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของโซนราชพฤกษ์ พาร์ค วิลล์ประมาณ 1,000 ล้านบาท ,โซนเลค ราชพฤกษ์ ประมาณ 250 ล้านบาท และไอซ์แลนด์ พาราไดซ์ประมาณ 150 ล้านบาท วางเป้ารับรู้รายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทและมาจากโครงการที่เหลือ

" แม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย แต่เท่าที่ตรวจสอบยอดขายยังไปได้ดี ไม่หืดเท่าที่ควร โดยโครงการเดอะ แกรนด์ ขายได้เฉลี่ย 4-5 หลังต่อสัปดาห์ ขณะเดียวกันบริษัทยังจัดรายการส่งเสริมการขาย โดยลูกค้าที่จองในโซนราชพฤกษ์ พาร์ค วิลล์ รับฟรี New Zone Package ตกแต่งวอลเปเปอร์ให้ทั้งหลัง ชุดครัว Built-in สวยหรู เครื่องปรับอากาศ และจัดสวนสวยไม่ซ้ำแปลง และเมื่อสมัครสมาชิก Perfect Alliance สามารถรับสิทธิเพิ่มอีกมากมาย เช่น รับอัตราดอกเบี้ยลดพิเศษ 0.25% เฉพาะปีแรก เป็นต้น " กรรมการผู้จัดการกล่าว

สำหรับแผนโครงการทาวน์เฮาส์นั้น บริษัทยังคงยึดทำเลราชพฤกษ์-ภาษีเจริญในการพัฒนาโครงการ เนื้อที่พัฒนา 90 ไร่ แบ่งพัฒนาเป็นหลายเฟส มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยเฟสแรกจะมีเกือบ 200 ยูนิต ราคาขายประมาณ 4-5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างบ้านตัวอย่างช่วงเดือนก.ค. และเปิดพรีเซลส์เดือนส.ค.ก่อนที่จะเปิดอย่างเป็นทางการเดือนต.ค.นี้ คาดว่ายอดขายบางส่วนจะโอนได้ในปี 49

"แปลงดังกล่าวบริษัทซื้อมาเมื่อปลายปี47ต่อเนื่องปี 48 และเดิมคิดว่าจะพัฒนาในรูปแบบบ้านเดี่ยว แต่เมื่อตรวจสอบสภาพตลาดแล้ว การแข่งขันสูง จึงปรับคอนเซ็ปต์มาทำทาวน์เฮาส์พร้อมอยู่ ซึ่งก่อนหน้าบริษัทเคยพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์มาแล้วชื่อโครงการสราญพฤกษ์ ลาดพร้าว ปิดการขายแล้ว " นางอุไรวรรณกล่าว อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 โครงการสามารถรองรับการพัฒนาได้ 3-5 ปี

อนึ่ง นอกเหนือจากโครงการบ้านจัดสรรแล้ว บริษัทกรุงเทพบ้านฯยังได้มีการร่วมทุนกับพันธมิตรจากสิงคโปร์ คือ บริษัท เซ็นเตอร์พอยท์ พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทในเครือเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ พัฒนาโครงการขนาดใหญ่บนถนนพระราม 3 มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท พัฒนาภายใต้ชื่อบริษัท ริเวอร์ไซด์ โฮมส์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมหรู "เดอะ พาโน" มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท โครงการดังกล่าวมีธนาคารยูโอบี รัตนสิน จำกัด (มหาชน)ให้สินเชื่อ 3,500 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.