|
ล้ำลึกกว่าแค่ ‘การอบรม’
โดย
น้ำค้าง ไชยพุฒ
นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
เพราะเหตุใดบริษัทแห่งนี้ถึงยอมทุ่มเงินหลายล้านบาทเพื่อเปิดคอร์ส Mini MBA ให้ดีลเลอร์หลายสิบชีวิตเรียนกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อะไรคือเบื้องหลังความตั้งใจขององค์กรแห่งนี้?
โลโกของผู้ผลิตสินค้าไอทีระดับโลกนับสิบ ที่แข่งกันอวดสีสันและลวดลายด้านหลังนามบัตรของ สุพันธ์ มงคลสุธี ประธาน บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความสามารถอย่างหนึ่งของบริษัท ในฐานะเป็นตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ให้กับบริษัทผู้ผลิตสินค้าไอทีตามโลโกเหล่านั้น
ชื่อของซินเน็ค อาจจะไม่คุ้นหูสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไปนัก แต่สำหรับดีลเลอร์กว่า 4,000 รายของซินเน็คที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ย่อมรู้จักชื่อบริษัทนี้ดีเป็นแน่
ซินเน็คถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 18 ปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านั้นใช้ชื่อบริษัทว่า คอมเทค (ประเทศไทย) ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็นชื่อ ซินเน็ค เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เริ่มแรกธุรกิจของซินเน็ค เน้นหนักไปที่การขายสินค้าและบริษัทด้านเน็ตเวิร์ก ถือเป็นบริษัทแรกๆ ในประเทศไทยที่ให้บริการด้านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ก่อนขยับขยายมาเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ หรือคอมโพแนนท์ทางด้านไอทีทั้งหมด ทั้งการ์ดจอ ซีพียู ปรินเตอร์ หมึกเติมปรินเตอร์ เมาส์ ไปจนถึงแป้นคีย์บอร์ด และมียอดขายผลิตภัณฑ์ไอที เฉพาะปีที่ผ่านมาถึง 9,000 ล้านบาท
แต่เป็นเพราะว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของโลก หรือแม้แต่ของไทยเองในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เริ่มทรงตัว ธุรกิจไอทีเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน แม้จำนวนการใช้จ่ายด้านไอทีของผู้บริโภคในประเทศจะสูงขึ้นทุกที แต่ด้วยราคาสินค้าที่ถูกลง ประกอบกับ margin หรือสัดส่วนของรายได้ต่อสินค้าหนึ่งชิ้นนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้หลายองค์กรเริ่มตื่นตัวกับการหากลยุทธ์ใหม่ๆ มาช่วยพยุงตัวเองให้ผ่านพ้นสภาวะเช่นนี้ และไม่ล้มหายตายจากวงการที่อยู่มานานนี้ได้
ด้วยความที่เป็นผู้ที่ชอบเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา สุพันธ์ซึ่งจบการศึกษาในระดับปริญญาโทถึงสองแห่งจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ MBA University จากสหรัฐอเมริกา พ่วงด้วยปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ไม่นับรวมกับตำแหน่งทางสังคม ทั้งที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้พิพากษาสมทบ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง และอื่นๆ อีกมากมาย ริเริ่มนำแนวความคิดในการนำการเรียนรู้ดังกล่าวมาใช้กับซินเน็คบ้าง
"สองสามปีก่อนมีองค์กรด้านไอทีค่อนข้างเสียหายและล้มหายตายไปจากวงการค่อนข้างมาก นั่นเป็นเพราะหลายคนทำธุรกิจ ด้วยความเคยชิน และลืมนึกถึงมุมที่ว่าเหล่านี้ หลายคนให้ความสำคัญในการตัดราคาแข่งขัน จนลืมที่จะคิดหาทางที่จะทำให้ตัวเองอยู่ได้ในระยะยาว ยิ่งเวลามีการแข่งขันกันในตลาดมากๆ เราอาจจะมองธุรกิจไม่กว้างพอ อาจจะคิดแค่ทำอย่างไรให้ขายของ ลืมคิดถึงมุมอื่น เช่นวิธีการอื่นที่จะช่วยทำให้บริษัทมีกำไร อาทิ การลดต้นทุน ก็ถือเป็นอีกหนทางหนึ่งให้องค์กรมีกำไรได้ ทั้งการลดต้นทุนด้านการจัดการ, สินค้าคงคลัง การขายก็ไม่จำเป็นต้องขายด้วยราคา แต่สามารถขายด้วยบริการที่ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้หากเปิดเป็นคอร์สออกมาก็จะช่วยดีลเลอร์ได้มาก" สุพันธ์บอกกับ "ผู้จัดการ"
4 มีนาคมที่ผ่านมา ซินเน็คจัดงานแถลงข่าวร่วมกับคณะพณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดตัวโครงการ "เสริมสร้างผู้ประกอบการไอทียุคใหม่ : Modern IT CEO Program" หลักสูตร Mini MBA ที่เปิดให้คนเรียนนั้นมีเฉพาะดีลเลอร์ของซินเน็คเพียง 60 คนเท่านั้น
ดีลเลอร์จำนวน 60 ชีวิต ซึ่งคัดเลือกจากเกณฑ์เริ่มต้นที่ไม่ซับซ้อน คือการเป็นดีลเลอร์ที่มียอดสั่งซื้อสินค้าของซินเน็คมากที่สุด, เป็นดีลเลอร์ที่มีศักยภาพมากที่สุด รวมถึงดีลเลอร์ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ในต่างจังหวัด ต้องเดินทางมาร่วมการอบรมในหลักสูตร Mini MBA เพื่อเสริมสร้างผู้ประกอบการไอทียุคใหม่ ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม และสิ้นสุดในวันที่ 24 มิถุนายน 2549
รวมเวลาการอบรมทั้งสิ้น 153 ชั่วโมง ครอบคลุมเนื้อหามากมาย อาทิ เศรษฐศาสตร์เพื่อการบริหาร การบัญชีเพื่อการบริหาร การเงินเพื่อการบริหาร ยุทธศาสตร์การจัดการเชิงระบบ การบริหารทุนมนุษย์ กลยุทธ์ทางการตลาด การจัดการด้านการดำเนินงาน เทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่เพื่อการบริหาร ไปจนถึงการจัดเสวนาหัวข้อพิเศษ และการบริหารเกี่ยวกับธุรกิจ IT โดยที่ซินเน็คและพันธมิตรเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเรียนไปจนถึงการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศต่อหัวถึง 1 แสนบาท
แน่นอน ความคุ้มค่าเป็นคำถามที่สุพันธ์หรือซินเน็คได้รับการไต่ถามจากคนทั่วไปมากที่สุด ซินเน็คย่อมมองเห็นโอกาสจากการลงทุนไปกับการอบรมดังกล่าวเป็นมูลค่าหลายล้านบาท มากกว่าแค่การโปรโมตกิจกรรมประจำปีของบริษัท เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตนเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกันกับคำถามที่ว่า "จำเป็นแค่ไหน" ที่ซินเน็คต้องลงทุนไปกับกิจกรรมดังกล่าว
สุพันธ์ให้คำตอบเรื่องนี้ไว้ชัดเจนในวันที่ "ผู้จัดการ" มีโอกาสได้พบกับเขาที่สำนักงานใหญ่ของซินเน็คว่า การตอบแทนดีลเลอร์ด้วยการให้เข้าฝึกอบรมโครงการ Mini MBA นี้จะช่วยให้กลุ่มดีลเลอร์ได้รับความรู้ และเกิดไอเดียใหม่ในการกลับไปดำเนินธุรกิจของตนต่อไป ซึ่งนั่นหมายถึงว่า หากกลุ่มดีลเลอร์มีความรู้ในการทำธุรกิจมากขึ้น ย่อมส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของดีลเลอร์ในอนาคต และหมายถึงการสั่งซื้อสินค้าจากซินเน็คของกลุ่มดีลเลอร์จะดีขึ้นอย่างสอดคล้องซึ่งกันและกัน
แรกเริ่มเดิมทีนั้น ซินเน็คเองก็ถือปฏิบัติเป็นธรรมเนียมเช่นเดียวกันกับองค์กรอื่นๆ ที่มักจะอาศัยช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งจัดพาคณะดีลเลอร์ของตนที่มียอดขายที่ดีและมีศักยภาพไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ และถือโอกาสพักผ่อนจากการตรากตรำทำธุรกิจมาตลอดระยะเวลาปีนั้นๆ ไปในตัว
แม้สิ่งนี้จะไม่ได้หายไป แต่ซินเน็คก็เห็นว่าการเพิ่มความแตกต่างและได้ประโยชน์อย่างการจัดอบรมด้านการบริหารจัดการธุรกิจขององค์กรเข้าไปในแผนของปีนี้ด้วย ย่อมสร้างผลดีให้กับธุรกิจของตนที่ต้องการอยู่อย่างยั่งยืน อีกทั้งดีลเลอร์ก็คือลูกค้าคนสำคัญที่สุดของตน
"เขาดี เราก็ดี เขาไม่ดี เราก็ไม่ดี" สุพันธ์ทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยใจความสั้นๆ กับ "ผู้จัดการ" ให้เห็นความสำคัญของไอเดีย การจัดอบรมให้กับดีลเลอร์
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|