|

ธปท.หนุนควบแบงก์กรุงศรี-จีอีมันนี่
ผู้จัดการรายวัน(23 พฤษภาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติไฟเขียวจีอี แคปปิตอล เอเชีย แปซิฟิค ให้เลือกตัดสินใจจะควบรวมหรือจะทำอย่างไรก็ตามสบาย แถมไม่จำกัดช่วงเวลาหากต้องการจบเร็วก็ยื่นเร็ว ระบุมีช่องทางเลี่ยงเกณฑ์ 25% เปิดรออยู่แล้ว "ธาริษา" หนุนใช้แนวทางควบรวมเป็นทางออกเข้ากฎหนึ่งสถาบันการเงินหนึ่งรูปแบบ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่า การ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.กำลังรอข้อมูลของทางบริษัทจีอี แคปปิตอล เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ในฐานะผู้ ซื้อหุ้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) จำนวน 25% ว่าจะดำเนินการไปในรูปแบบใด หรือ ต้องการจะควบรวมกับธนาคาร กรุงศรีอยุธยาหรือไม่ ซึ่งทาง ธปท. ไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการ เสนอเรื่อง ขึ้นอยู่กับทางบริษัทจีอี แคปปิตอล เอเชีย แปซิฟิค ว่าต้องการให้เรื่องดังกล่าวจบเร็วหรือ ไม่ ถ้ายื่นเรื่องมาเร็วก็สามารถจบ ได้เร็ว
"แบงก์ชาติกำลังรอข้อมูลของ ผู้ซื้อว่าจะเอายังไง ต้องการยังไง ต้องการควบรวมหรือไม่ รอให้ชัดเจนอีกหน่อย ไม่นั้นเราก็เดินไม่ถูก ซึ่งเราก็มีกฎเกณฑ์ของเราอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงแค่เดินให้ถูกกฎหมาย เท่านั้นเอง แต่ถ้าอยากได้เร็วก็ต้องยื่นเรื่องเข้ามาเร็ว"
ด้านนางธาริษา วัฒนเกส รอง ผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบัน การเงิน ธปท. กล่าวว่า การที่บริษัท จีอี แคปปิตอล เอเชีย แปซิฟิค เข้าไปซื้อหุ้นของธนาคารกรุงศรี อยุธยา จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์หนึ่งสถาบันการเงินหนึ่ง รูปแบบ (One Presense) ดังนั้น ธนาคารจีอีมันนี่เพื่อรายย่อยจะต้องมีการควบรวมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถือว่าไม่ผิดกฎเกณฑ์ดังกล่าว
"ในที่สุดแล้วทั้งธนาคาร กรุงศรีอยุธยาและจีอีก็ต้องยื่นเรื่อง มาทั้งสองฝ่ายโดยทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็ต้องยื่นเรื่องสัดส่วนการเข้ามาถือหุ้น 25% เพราะเดิมเคยมีผู้ถือหุ้นต่างชาติถืออยู่ก่อนแล้วในสัดส่วนหนึ่ง ขณะที่ทางจีอีก็ต้องยื่นเรื่อง one presense เพราะติดที่ธนาคารจีอีมันนี่เพื่อรายย่อย ไม่เช่นนั้นจะทำให้ถือหุ้นในสถาบันการเงินถึง 2 แห่ง" นางธาริษากล่าว
อย่างไรก็ตาม โดยหลักเกณฑ์ แล้วการเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 25% ก็มีช่องทางที่ ธปท.จะอนุญาต ได้เพื่อแก้ไขปรับปรุงฐานะและการ ดำเนินงาน ซึ่งหากเหตุผลที่ชี้แจง มาเข้าหลักเกณฑ์ไม่มีเหตุผลใดที่ธปท.จะไม่อนุญาต แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูข้อมูลจากทางจีอีและธนาคาร กรุงศรีอยุธยาก่อนว่าจะชี้แจงอย่างไร
ทั้งนี้ธนาคารได้แจ้งให้ตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบถึงมติของคณะกรรมการธนาคารที่เห็นชอบให้จัดสรรหุ้นสามัญใหม่แก่บริษัทจีอี แคปปิตอล เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ซึ่งธนาคารขอชี้แจง ว่าหุ้นที่คณะกรรมการธนาคารให้ความเห็นชอบในการจัดสรรครั้งนี้ เป็นหุ้นที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 92 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2549 ที่ได้อนุมัติหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 2,000 ล้านหุ้น
โดยที่ประชุมได้กำหนดให้เสนอขายแก่นักลงทุนในลักษณะเฉพาะเจาะจง หรือผู้ลงทุนประเภท สถาบัน ซึ่งคณะกรรมการได้พิจารณาข้อเสนอของบริษัทจีอี แคปปิตอล เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ที่เสนอซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวในราคาหุ้นละ 16.00 บาท ซึ่งจะเสริม ศักยภาพในการแข่งขันของธนาคาร และสร้างคุณค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา อันจะนำมาซึ่งผลประกอบการที่ดี จึงให้ความเห็นชอบในการจัดสรรหุ้นตามราคาที่เสนอดังกล่าว
แต่จากสัดส่วนเข้าถือหุ้นสามัญ จำนวน 25% หรือ 16,000 ล้านบาท นั้น ทำให้บริษัทจีอี แคปปิตอล เอเชีย แปซิฟิค จำกัด จะต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศ ไทยเสียก่อน ซึ่งในขณะนี้บริษัทจีอี แคปปิตอล เอเชีย แปซิฟิค กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการขออนุญาตจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|