โอเรียนทอลฯชู4แผนสู้น้ำมันแพงเปิดแคมเปญใหม่ชิงกำลังซื้อลูกค้า


ผู้จัดการรายวัน(19 พฤษภาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

โอเรียนทอล พริ๊นเซสสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจ เผยไตรมาสแรกโตสูงกว่าเป้า13% ชูกลยุทธ์การตลาด 4 ด้านรับมือยุคน้ำมันแพง งบลงทุนปีนี้กว่า 100 ล้านบาท ล่าสุดอัดงบตลาด 52 ล้านบาทเปิดตัวแคมเปญใหม่พร้อมทำตลาดแบบครบวงจร ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีโต10% ชี้คนกำลังเห่อแบรนด์เกาหลีแต่หากกระแสเบาลงตลาดจะแข่งที่คุณภาพและกลยุทธ์การตลาด

นางสาวพาสนา อินทราทิพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโอ.พี.เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอเรียนทอล พริ๊นเซส เปิดเผยว่า ยอดรายได้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่า มีรายได้เกินกว่าเป้าถึง 13% หรือคิดเป็นมูลค่า 296 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเพราะการที่บริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และทยอยเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สินค้า รวมถึงทยอยปรับปรุงสาขาของผู้บริโภคมากนัก

ส่วนพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคน้ำมันแพงจะมีการซื้อสินค้าเครื่องสำอางตามอารมณ์มากกว่า รวมถึงมีการใช้จ่ายที่ประหยัดมากขึ้น ตรงนี้มองว่าเป็นโอกาสของบริษัทฯ เพราะสินค้ามีราคาไม่แพงและมีหลายกลุ่มให้เลือก มีแผนตั้งรับด้วยการจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องและใช้กลยุทธ์เรื่องราคาเป็นตัวกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้า โดยในส่วนค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคของโอเรียนทอลฯในปัจจุบันมีการใช้จ่ายต่อบิล 880 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มี 830 บาท

ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้นทั้งในส่วนของเคาน์เตอร์แบรนด์ตามห้างที่มีแบรนด์ใหม่เข้ามามากจึงเกิดการแย่งลูกค้าซึ่งมีจำนวนจำกัดมากขึ้น ดังนั้นการแข่งขันจึงต้องขึ้นกับกลยุทธ์การตลาดของแต่ละบริษัท ในส่วนของตลาดสเปเชียลลี่ สโตร์ที่เน้นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติในปัจจุบันโอเรียนทอลฯเป็นผู้นำตลาดอยู่ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด55% จากรวม 1,900 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะโตขึ้น 20%

โดยการแข่งขันในตลาดนี้พบว่ามีคู่แข่งมาก อาทิ แบรนด์เกาหลี2-3 แบรนด์ที่ชูคอนเซ็ปต์สารสกัดจากธรรมชาติเหมือนของบริษัทฯ อีกทั้งการที่คนเห่อกระแสเกาหลีส่งผลให้แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีได้รับความนิยม แต่เชื่อว่าในอนาคตหากกระแสเกาหลีเบาบางลง ผู้บริโภคจะหันมาดูที่เรื่องคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก

ส่วนทิศทางดำเนินธุรกิจของโอเรียนทอล พริ๊นเซสในปีนี้จะใช้ 4 กลยุทธ์ ประกอบด้วย

1.การขยายช่องทางการขายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีสาขารวม 192 สาขา แบ่งเป็นรูปแบบร้านค้า 156 สาขา และจุดจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า 36 สาขา ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 18 สาขา ภายใต้งบลงทุน 40 ล้านบาท รวมสิ้นปีมีสาขาทั้งหมด 200 สาขาครอบคลุม 72 จังหวัด รวมถึงบริษัทฯมีแผนปรับปรุงสาขาเดิมให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น ในคอนเซ็ปต์ความเป็นธรรมชาติผสมความเป็นตะวันออก ภายใต้งบลงทุนสาขาละ 3 ล้านบาท ซึ่งสาขาแรกที่จะทำเป็นต้นแบบ คือ ที่สยามสแควร์ คาดว่าจะได้เห็นไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้นจะทยอยปรับปรุงสาขาอื่นให้ครบ

2.การออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ 103 รายการ แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า 12 เอสเคยู , ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายและเส้นผม 11 อสเคยู และเครื่องสำอางบำรุงผิว 63 เอสเคยู และกลุ่มไลฟ์สไตล์ เช่น น้ำหอม 18 เอสเคยู

3. การเน้นระบบสมาชิก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีฐานสมาชิกอยู่ 212,000 คน คิดเป็นสมาชิกที่มาซื้อสินค้าต่อเนื่อง(แอคทีฟ) 70% ปีนี้ตั้งเป้าสมาชิกใหม่เพิ่มอีก 90,000 คน

และ 4. การสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า ด้วยการทำการตลาดผ่านสื่อโฆษณา ภายใต้งบการตลาด 12%ของยอดรายได้

ล่าสุดบริษัทฯใช้งบประมาณ 52 ล้านบาทในการทำตลาดแบบครบวงจรในช่วงไตรมาสสองนี้ อาทิ การเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ 3 ตอน ภายใต้แนวคิด “Keep Beautiful-ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” ความยาว 30 วินาที เริ่มออกอากาศวันที่ 18 พ.ค. 49 นอกจากนี้จะมีโรดโชว์,แจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกับบัตรเครดิต เป็นต้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.