|
กลุ่มการแพทย์โชว์ผลงานQ1กำไรโต27%อานิสงส์ผู้ป่วยเพิ่มขยายศูนย์ปรับปรุงรพ.
ผู้จัดการรายวัน(19 พฤษภาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
กลุ่มการแพทย์ไตรมาสแรกปีนี้โชว์ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องดีเกือบทุกบริษัท โดย ผลงานรวมกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 26.86 % คือเพิ่มจาก 765.78 ล้านบาทในไตรมาส แรกปี 48 เป็น 971.50 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากหลายแห่งปรับปรุงสถานประกอบการให้กว้างขวางและมีศูนย์การแพทย์เฉพาะเพิ่ม รวมทั้งผู้ป่วยประกันตน ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ด้วย โดย LNH กำไรทะยาน ส่วน RAM BGH และ KH ยังคงโดดเด่น แม้ว่าจะมีบางตัวที่กำไรหดลงบ้างอันเป็นผลจากค่าใช้จ่ายและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
LNH กำไรโตสุด RAM BGH ยังคงเจ๋งเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับ LNH หรือบริษัท โรงพยาบาลเชียงใหม่ธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน) แม้ว่าบริษัทนี้จะมีกำไรไตรมาสแรกไม่มาก แต่ปีนี้ไตรมาสแรกของ LNH กำไรยังขยับ เนื่องจากได้รับรายได้ค่าบริการทางการ แพทย์แบบเหมาจ่ายเพิ่มขึ้น แต่จากการที่ต้นทุนค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ในปี 2549 มีจำนวนคนไข้มาใช้บริการ มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยประกันสังคมทำให้ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาเพิ่มขึ้นประมาณ 1.60 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินเดือนและค่าจ้างเพิ่มขึ้น ค่าซ่อมแซมและค่าใช้จ่ายในการบริหารล้วนเพิ่มขึ้น
ขณะที่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BGH ไตรมาสแรกปีนี้โตกว่า 38% เนื่องจาก การเพิ่มขึ้นของรายได้ทั้งบริษัทและบริษัทย่อย ส่งผลให้การขยายตัวของรายได้จากการเข้ามาพักรักษาของคนไข้เพิ่มขึ้น จากการที่บริษัทได้มีการ ขยายศูนย์การแพทย์เฉพาะทางเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การที่บริษัทปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่มโรงพยาบาลภาคตะวันออกและเปลี่ยนสถานะจากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย มีผลทำให้รายได้ของค่าบริการคนไข้ตามงบการเงินรวมสูงขึ้น ขณะที่ AHC ของบริษัท โรงพยาบาลเอกชล จำกัด(มหาชน) กำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 20% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก 140 ล้านบาท เป็นเกือบ 170 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีนี้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มจาก 112 ล้านบาทเป็น 132 ล้านบาท ในไตรมาสแรกปีนี้
สำหรับ RAM ของบริษัทโรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด(มหาชน) ถือว่าผลการดำเนินงานโดดเด่นกว่าโรงพยาบาลอื่นๆ สำหรับไตรมาสแรกปีนี้ เพราะโตเกิน 50% จากไตรมาสแรกปีก่อนที่มีกำไสุทธิ 75.92 ล้านบาท เป็น 118.06 ล้านบาท เนื่อง จากรายได้จากการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นอีกทั้งยังรับส่วนแบ่งจากบริษัทย่อยและร่วมเพิ่ม แม้ว่าบริษัทจะมีรายการค่าเผื่อการด้อยค่าเงินลงทุนใน บริษัท โรงพยาบาลชัยภูมิ ราม จำกัดก็ตาม ส่วน VIBHA หรือบริษัทโรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) ไตรมาสแรกปีนี้กำไรขยับเล็กน้อยจากงวดไตรมาสแรกปี 48 ที่มี14.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 15.77 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากรายได้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยใน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารลดลง
ส่วน BH หรือบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) กำไรไตรมาสแรกปีนี้ขยับไปเกือบ 18% โดยเพิ่มจาก 227.12 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 267.11 ล้านบาท และรายได้ของบริษัทก็เพิ่มขึ้น 21% จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกิจการโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการเติบโตจากรายได้ผู้ป่วยทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังคงที่ในระดับ 38% และค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ให้อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA MARGINA) ดีขึ้นเป็น 25.1% ในไตรมาส 1 ปี 2549
KDH หรือ บริษัท โรงพยาบาล กรุงธน จำกัด (มหาชน) โชว์ผลงานไตรมาสแรกปีนี้ขยับต่อเนื่อง โดยกำไร สุทธิเพิ่มจาก 9.54 ล้านบาท เป็น 11.62 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีจำนวนผู้ประกันตนประกันสังคมและได้รับเงินค่าเหมาจ่ายรายหัวของผู้ประกันตนจากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นจากปี 2548และมีรายได้จากผู้ป่วยทั่วไปที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้น จึงทำ ให้ผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2549 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2548
ขณะที่ KH หรือบริษัท บริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ที่ผลงานไตรมาสแรกปีนี้ออกมาเจ๋ง โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 40% โดยเพิ่มจาก 63.57 ล้านบาท ใน ไตรมาสแรกของปี 48 เป็น 90.46 ล้าน บาทในไตรมาสแรกปีนี้ อันเป็นผลจากการปรับเพิ่มงบประมาณรายหัวของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 บวกกับการที่บริษัทได้เปลี่ยนวิธีการรับเงิน ของผู้ป่วยในของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จากการเหมาล่ำซำต่อหัว เป็นเบิกตามความรุนแรงของโรคที่ให้บริการ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 ส่งผลให้จำนวนผู้ประกันตนในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเฉลี่ยไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นจากไตร-มาสแรกป• 48 อีกทั้งงบประมาณเพิ่มจากการเพิ่มสิทธิการคลอดบุตรในกองทุน ประกันสังคม และการเพิ่มสิทธิทันต-กรรมของผู้ประกันตน
โรงพยาบาล บริษัท วัฒนาการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEW ไตรมาสแรกปีนี้บริษัทเริ่มฟื้นตัวแล้ว จากไตรมาสแรกปี 48 ที่ขาดทุนเกือบ 2 ล้านบาท แต่ปีนี้กลับมีกำไรเกือบ 1 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการ ปรับปรุงมาตรฐานการบริการรักษาอยู่ ตลอดเวลา อีกทั้งได้ขยายแผนกผู้ป่วย นอกไปชั้น 1 อาคาร 3 ทำให้สถานที่ โอ่โถง สะดวกสบายแก่ผู้มาใช้บริการมากยิ่งขึ้นทำให้มีผู้ป่วยมาใช้บริการมากขึ้น รวมทั้ง โรงพยาบาลนนทเวช จำกัด (มหาชน) หรือ NTV ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ผลการดำเนินงานปีนี้กำไรยังโตต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ก้าวกระโดดก็ตาม
M-CHAI และ SVH กำไรตกเกือบ 40%
บริษัทในกลุ่มนี้ที่ผลงานตกคือ M-CHAI หรือบริษัทโรงพยาบาลมหาชัย จำกัด(มหาชน) ไตรมาสแรกปีนี้พบว่ากำไรลดลง สวนทางกับโรงพยาบาลอื่นที่ส่วนใหญ่กำไรโต โดยลดลงจากไตรมาสแรกของปี 48 ที่มี 17.60 ล้านบาท แต่ไตรมาสแรกปีนี้มีกำไรสุทธิเพียง 10.64 ล้านบาท หรือกำไรหดเกือบ 40% แม้ว่ารายได้จากค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของคนไข้ แต่ต้นทุนการบริหาร และค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเกือบ 20% บวก กับภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นถึงกว่า 107% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
บริษัท โรงพยาบาลศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) ( SKR) เป็นอีกบริษัทหนึ่งของกลุ่มนี้ที่มีผลกำไรไตรมาสแรกตกเกือบ 26% โดยลดลงจากเดิมที่มี 17.93 ล้านบาทเหลือเพียง 13.27 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีนี้ เพราะรายได้แม้จะขยับแต่ก็เพียงเล็กน้อย แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากต้นทุนในการรักษาพยาบาล และยังมีค่าเสื่อม ราคาจากการขยายอาคารโรงพยาบาลใหม่ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลกระทบจาก การปรับต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้ง SVH หรือ บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ที่กำไรไตรมาสแรกตกลงเล็กน้อย แม้ว่ายอดขายไตรมาส แรกจะเติบโตโดยเพิ่มจาก 672.70 ล้านบาทเป็น 805.57 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทก็เพิ่มขึ้นเกือบ 20%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|