| |
ไทยเบฟฯรุกหวังยึดตลาดเซาท์อีสต์ ไล่บี้ซานมิเกลหลังน้ำเมาไทยอิ่มตัว
ผู้จัดการรายวัน(18 พฤษภาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ไทยเบฟฯ ประกาศบูมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยกพอร์ตในต่างประเทศ หวังดันผลประกอบการโตมากกว่ารายได้ในประเทศ หลังอุตฯน้ำเมาไทยเริ่มอิ่มระบุปีนี้โต 1-2% ล่าสุด (วันนี้) 18 พ.ค. 49 เตรียมเทรดในประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการเพื่อระดมทุน เปิดแผนนำร่องบุกหนักเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชูเบียร์ช้าง-แม่โขง-แสงโสมหัวหอก ตั้งป้อมไล่บี้ยักษ์ใหญ่ซานมิเกลผงาดขึ้นเป็นระดับอันดับหนึ่งรีจินัลในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์ช้าง แสงโสม แม่โขง ฯลฯ เปิดเผยว่า นโยบายของบริษัทฯต้องการรุกตลาดในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้รายได้ของไทยเบฟฯมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยรวมภายในประเทศ มีอัตราการเติบโตที่น้อยลง โดยคาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตเพียงแค่ 1-2% เท่านั้น โดยเฉพาะตลาดเหล้าสีมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษี ทำให้ต้องปรับราคาขึ้น ขณะที่ตลาดเบียร์มูลค่า 8.2 หมื่นล้านบาทยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้
ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บริษัทฯต้องรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายเปิดการค้าเสรีมากขึ้น การแข่งขันในประเทศมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะมีคู่แข่งหน้าใหม่เข้ามาเปิดตลาดในไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่เราเป็นผู้ประกอบการไทย ก็ต้องเปิดตลาดต่างประเทศเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังเป็นเพราะในไทย บริษัทไทยเบฟฯเป็นผู้นำตลาดแอลกอฮอล์เกือบทุกกลุ่มอยู่แล้ว อาทิ ตลาดเบียร์มูลค่า 8.2 หมื่นล้านบาท ครองส่วนแบ่ง 50% ส่วนตลาดเหล้าขาวครองส่วนแบ่งได้ถึง 70% จากมูลค่าตลาด 3.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่กลุ่มเหล้าสีและเหล้าแอดมิกซ์ มีส่วนแบ่ง 63-65% จากมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามแนวทางการรุกตลาดต่างประเทศ สอดคล้องกับการที่ไทยเบฟฯประกาศเข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เพื่อระดมทุน โดย(วันนี้) 18 พ.ค. 49 ได้เดินทางเพื่อเตรียมไปเทรดอย่างเป็นทางการ โดยนายฐาปน กล่าวว่า การเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนรุกขยายตลาดต่างประเทศ เป็นโมเดลเดียวกับหลายประเทศทั่วโลกนี้ที่ใช้ อาทิ ประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้บริษัท ซานมิเกล หรือกระทั่งในประเทศเวียดนาม ซึ่งธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ โดยมีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้น แต่ในเร็วๆนี้ได้เตรียมแปรรูป หรือกรณีของค่ายเพอร์นอทริคาร์ดที่เทคโอเวอร์อัลลายด์โดเมคสพิริตแอนด์ไวน์ทั่วโลก
“การรุกตลาดต่างประเทศ จะดันการเติบโตธุรกิจของบริษัทฯได้มากกว่า โดยหลังจากเราเข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ไทยเบฟฯได้มีการวางแผนการตลาดทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยรวมของบริษัทฯไม่มีถึง 10% เท่านั้น รายได้หลักมาจากแม่โขง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นแบรนด์ที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย และด้วยตัวรสชาติ ขณะที่แสงโสมปัจจุบันมีการทำตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว โดยเป็นเหล้าที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างจากยุโรป ซึ่งส่วนมากจะนิยมดื่มออนเดอะร็อก“ นายฐาปน กล่าวว่า
สำหรับแนวทางการทำตลาดต่างประเทศ ในเบื้องต้นได้เตรียมรุกตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน โดยปัจจุบันในตลาดดังกล่าวมีคู่แข่งรายหลัก 2 ราย ได้แก่ ยักษ์ใหญ่ซานมิเกลจากประเทศฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งบริษัทฯจะนำเหล้าและเบียร์ในพอร์ตทยอยทำตลาด โดยจะนำกลุ่มเบียร์ประกอบด้วย เบียร์ช้าง ช้างไลท์ ช้างดราฟต์ เป็นต้น ทำตลาดควบคู่กับเหล้าสีแสงโสม และแม่โขง เนื่องจากเหล้าสีในเครือของบริษัทฯค่อนข้างเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายไว้ว่าในอนาคตไทยเบฟฯจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดรีจินัลในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยรวมทั้งกลุ่มเหล้าและเบียร์ โดยปัจจุบันในรีจินัลยักษ์ใหญ่ในวงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ “ซานมิเกล” ของฟิลิปปินส์ ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคนี้ s
นายฐาปน กล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้สถานการณ์ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่มีอัตราการเติบโตมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความไม่ชัดเจนของมาตรการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากทางภาครัฐ ซึ่งมองว่าภาครัฐจะต้องสร้างความชัดเจน ส่วนแผนการทำตลาดภายในประเทศ ในกลุ่มเหล้าสี “แสงโสม”บริษัทได้ตอกย้ำแนวคิดหลัก”คนไทยถ้าตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก” ล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด “บัณทิต อึ้งรังสี” วาทยกรอัจฉริยะไทยระดับโลก ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขัน Maazel-Vilar Conductor’s Competition จัดขึ้นที่ Carnegie Hall ในนิวยอร์ค เป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการอำนวยเพลงของโลก ทั้งนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยรุ่นใหม่ เพื่อมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จในเวทีระดับโลก โดยภาพยนตร์โฆษณาออกอากาศวันที่ 17 พ.ค. นี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|