เอส.บี.ฯหนีเฟอร์ฯตกแต่ง-ออฟฟิศลุยเตียงนอนหวังเป้ายอดขายโต10%


ผู้จัดการรายวัน(16 พฤษภาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

"เอส.บี.ฯ"ส่งชุดเตียงนอนทำตลาดดึงยอดขาย หวังรักษาอัตราการเติบโต 10% หลังตลาดเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ซบตามตลาดบ้านจัดสรร-ออฟฟิศเช่า พร้อมเตรียมเปิดเพิ่มสาขา เอส.บี. ดีไซน์แสควร์ เนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 5,000 ตร.ม. ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 3,600 ล้านบาท

นางธัญญารักข์ ชวาลดิฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ภายใต้แบรนด์ เอส.บี.เฟอร์นิเจอร์ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองและปัจจัยลบด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดอาคารสำนักงานเช่า และตลาดบ้านจัดสรร โดยในช่วงต้นปีจนถึงขณะนี้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อมาลงไปค่อนข้างมาก โดยอัตราการตัดสินใจซื้อในแต่ละครั้งใช้ระยะเวลานานถึง 2-3 เดือน

ทั้งนี้ เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงตามการปรับตัวของต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้การขยายตัวของตลาดเฟอร์นิเจอร์ชะลอลงไปด้วย อย่างไรก็ตามในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา เอส.บี.ฯ ยังสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่ามีอัตราการเติบโตของยอดขายรวมตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 3,600 ล้านบาท จากเดิมที่ปี48 ที่มียอดขายรวม3,300 ล้านบาท

โดยในส่วนของรายได้ที่เพิ่มขึ้นมานั้นจะมาจากยอดขายสินค้าชุดเตียงนอน ซึ่งในปีนี้ เอส.บี.ฯ ได้มีการเปิดตัวสินค้าประเภทเตียง คอลเล็คชั่นใหม่ "Hip Bed Collection" เพื่อเจาะตลาดสินค้าประเภทเตียงมากขึ้นเนื่องจากความต้องการสินค้าตกแต่งชุดเฟอร์นิเจอร์ห้องรับแขกและออฟฟิศเช่าต่างๆ มีการชะลอตัวลงตามอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนและธุรกิจต่างๆ ยังชะลอการขยายบริษัทและออฟฟิศแห่งใหม่เนื่องจากต้องการดูความชัดเจนของเศรษฐกิจและสถานการณ์ด้านการเมืองก่อน

สำหรับ เปิดตัวสินค้าประเภทชุดเตียงนอนนี้ บริษัทคาดว่าจะทำให้ยอดขายในส่วนของสินค้าชุดนอนเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% เป็นอย่างต่ำ โดยสินค้าชุดเตียงนอนนี้ มีแชร์ยอดขายรวมตลอดทั้งปีของบริษัทอยู่มากกว่า 50% โดยมีช่องทางการขายผ่านโครงการประมาณ 10% ในส่วนของโครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ส่วนที่เหลือเป็นการขายปลีก และการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการขายเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ 70% ส่วนที่เหลือ 30% เป็นการส่งออกไปขายในต่างประเทศ

นางธัญญรักข์ กล่าว่า สำหรับตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการขายตัวโดยรวมประมาณ 10% จากเดิมที่ในปี 2548 ที่ผ่านมาอัตราการขยายตัวของตลาดรวมอยู่ที่ 10-15% สำหรับการขยายตัวที่ลดลงของตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ในปี49 นี้เนื่องจาก ปัญหาด้านการเมืองที่เข้ามากระทบ และปัจจัยสำคัญคือระดับการปรับขึ้นราคาน้ำมันที่มีอัตราการปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง และเกิดการชะลอการซื้ออย่างต่อเนื่องจากต้นปีที่ผ่านมา เพื่อรอดูสถานการณ์และความชัดเจนของเศรษฐกิจประเทศ

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาส่งผลต่อต้นทุนการขนส่งของบริษัทกว่า 70-80% ส่วนต้นทุนในการผลิตโดยรวมนั้นเพิ่มขึ้นประมาณ 20% นอกจากนี้วัตถุดิบในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ยังเตรียมที่จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะเหล็ก และ อลูมิเนียม ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ตลาดในต่างประเทศมีการปรับขึ้นราคากันไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่า ต้นทุนด้านการขนส่งที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ และต้นทุนการผลิตจะมีการปรับตัวขึ้นแต่ จนถึงขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนในการปรับราคาขายสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจาก กำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลง ซึ่งหากมีการปรับขึ้นราคินค้าใหม่จะทำให้ยอดขายของบริษัทชะลอลง

อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนจะขยายสาขา เอส.บี. ดีไซน์แสควร์ เพิ่มอีก 1 สาขา จากเดิมที่ในปัจจุบันบริษัทมี 2 สาขา โดยสาขาที่จะเปิดใหม่นี้จะใช้พื้นที่ในการพัฒนาขั้นต่ำ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการหาทำเลและออกแบบตกแต่ง สำหรับสาขาร้านเอส.บี.ฯ ในปัจจุบันมีอยู่ 30 สาขา ส่วนร้านดีไซน์คอนเซ็ปต์มีอยู่ 18 สาขา


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.