สว่าง มั่นคงเจริญ ไทยรุ่งเรืองทรัสต์ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่


นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2539)



กลับสู่หน้าหลัก

"แผนการที่จะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีนี้ตามที่วางไว้ คงจะต้องเลื่อนไปก่อน มีสาเหตุหลักสองประการ คือ ภาวะตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโดยรวมไม่สดใสนัก อีกประการหนึ่ง คือ ผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติ ปีนี้แผนงานหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่คาดหมายไว้บางแผนต้องเลื่อนไป ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่"

นั่นคือ คำกล่าวของสว่าง มั่นคงเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไทยรุ่งเรืองทรัสต์ จำกัด ที่ได้ชี้แจงถึงแผนงานของบริษัทที่มีอันต้องเลื่อนไป ด้วยเหตุผลของภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยจนมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท

แม้ว่าแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะเลื่อนไป แต่สว่างบอกว่า แผนการเพิ่มทุนยังไม่เปลี่ยน โดยในปีนี้บริษัทจะทำการเพิ่มทุนอีก 200 ล้านบาท โดยจะเรียกชำระขั้นแรก 50 ล้านบาท ทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 350 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 150 ล้านบาทนั้นจะพิจารณาอีกครั้งว่า จะเป็นการชำระในลักษณะใด

ด้านผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของบริษัทดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งปี 2538 ทั้งปี บริษัทมีผลกำไรทั้งสิ้น 138 ล้านบาท ในขณะที่ครึ่งปี 2539 มีกำไรสุทธิ 110 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สว่างบอกว่าก็ยังถือว่าไม่ได้ตามประมาณการที่กำหนดไว้ว่า ปีนี้จะมีกำไรสุทธิ 258 ล้านบาท ทำให้ต้องปรับตัวเลขประมาณการลดลง 20%

สำหรับสาเหตุของการดำเนินงานที่ดีขึ้นกว่าปีก่อนนั้น ส่วนใหญ่มาจากรายได้ของค่าธรรมเนียมในการเป็นแมทช์เมคเกอร์ในการขายแบบบิ๊กล็อต ซึ่งเป็นรายได้ที่ดีและสูงมาก สว่าง เล่าว่า "เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทมีคู่ค้าที่จะให้เป็นแมทช์ เมคเกอร์อีก 1 ราย นอกจากนี้ การที่กำไรสูงขึ้นก็มาจากรายได้ที่ได้จากทางด้านเงินทุนด้วย"

"รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นรายได้จากค่าธรรมเนียม ซึ่งเป็นรายได้ที่เพิ่มสูงมาก เป็นการช่วยลูกค้าในการทำบิ๊กล็อต แต่ทั้งนี้ กำไรโดยรวมก็ยังไม่เข้าเป้าทำให้ต้องปรับประมาณการลดลงจากที่คาดไว้ก็เกือบ 20% เห็นจะได้"

ในส่วนของสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ มียอดรวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท โดยในสิ้นปีนี้ คาดว่ามีสินทรัพย์จะมีทั้งสิ้น 17,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น มาจากยอดสินเชื่อประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 30%

ในขณะที่ปี 2538 มีสินเชื่อจากด้านอสังหาริมทรัพย์สูงถึง 39% ถ้าพิจารณาดูจนถึงสิ้นปีนี้ สินเชื่อจากอสังหาริมทรัพย์อาจจะลดลงเหลือเพียง 25% ที่เหลือก็จะกระจายกันไประหว่างสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภค / เพื่ออุตสาหกรรม / เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์และอื่น ๆ ส่วนละ 20%

ทางด้านธุรกิจหลักทรัพย์โดยภาพรวมอื่น ๆ นั้น กรรมการผู้จัดการไทยรุ่งเรืองทรัสต์ บอกว่า ปัจจุบันนี้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 0.5-0.7% ซึ่งส่วนแบ่งในปีนี้ไม่ค่อยดีนัก เนื่องมาจากภาวะตลาดที่ซบเซาทำให้เคอร์บี้ ซีเคียวริตี้ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น และเป็นพาร์ตเนอร์ของบริษัทยังไม่สามารถที่จะส่งออร์เดอร์ได้เต็มที่จากที่ตั้งเป้าก่อนเป็นโบรกเกอร์จะส่งออร์เดอร์ไว้ 50% แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะส่งได้ตามเป้าที่ตั้งไว้

สำหรับภาวะตลาดหุ้นที่ซบเซาขณะนี้ นอกจากส่งผลต่อการดำเนินการของบริษัทที่ไม่ได้ตามเป้าหมายแล้ว ยังส่งผลถึงการเข้าประมูลเก้าอี้โบรกเกอร์ใหม่อีกด้วย สว่าง เล่าว่า ขณะนี้มี โบรกเกอร์ใหม่ประมาณ 6-7 รายได้มีการปรึกษาหารือกันเพื่อเตรียมการในการเข้าพบคณะทำงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้มีการทบทวนในเรื่องค่าชดเชยและค่าธรรมเนียมแรกเข้าของโบรกเกอร์ใหม่ที่เข้ามาก่อนหน้านี้ 4 ราย และที่เข้ามาล่าสุด 6 รายรวม 10 ราย

เนื่องจากฐานการคำนวณค่าธรรมเนียมแรกเข้าของบริษัทสมาชิกที่ตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งเป็นหลักเกณฑ์เดิมนั้น ในขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสภาวะแวดล้อมที่เป็นอยู่ทำให้โบรกเกอร์ไม่สามารถที่จะทำกำไรจากธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้

สำหรับรายละเอียดในการหารือกันระหว่างโบรกเกอร์ใหม่นั้น กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยรุ่งเรืองทรัสต์ บอกว่า จากข้อสรุปต้องการจะให้ตลาดหลักทรัพย์มีการทบทวนและชดเชยการชำระค่าธรรมเนียมในส่วนของการจ่ายแรกเข้า 200 ล้านบาท ซึ่งตามกำหนดเดิมตลาดจะตัดบัญชีจากระยะเวลา 5 ปี ๆ ละ 40 ล้านบาทนั้น จะขอยืดเวลาไปเป็น 10 ปี โดยจะขอตัดบัญชีเป็นปีละ 20 ล้านบาท เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับรายได้ของบริษัทและความเหมาะสมในการบันทึกบัญชี

ส่วนที่เหลืออีก 100 ล้านบาทที่โบรกเกอร์จะต้องทยอยจ่ายโดยตัดจากปริมาณการซื้อขาย 10% นั้นควรจะให้มีการจ่ายเก็บในสัดส่วนที่น้อยลงเหลือเพียง 5% หรือยืดระยะเวลาออกไป

"ดูเหมือนทุกอย่างจะฝากความหวังไว้ที่ปี 2540 ซึ่งเราหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นกว่าปีนี้"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.