|
TBANKย้ำนโยบายดบ.สู้แบงก์ใหญ่ตั้งเป้าโกยเงินฝากปีนี้ 2.2หมื่นล้าน
ผู้จัดการรายวัน(9 พฤษภาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ธนาคารธนชาตประกาศนโยบายตรึงดอกเบี้ยในระดับสูงกว่าแบงก์ใหญ่ ชิงติด 1 ใน 8 ของธนาคารพาณิชย์ 16 แห่ง พร้อมเน้นรุกสินเชื่อรายย่อยโดยเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น ตั้งเป้าระดมเงินฝากปีนี้ 2.2 หมื่นล้าน หวังเฉพาะงานมันนี่ เอ็กโป โกยฝากประจำพิเศษ 9 เดือน 300-500 ล้าน ด้านกสิกรฯยกบริษัทในเครือร่วมงานเสนอหลากหลายผลิตภัณฑ์การเงิน
นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ กรรมการ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TBANK เปิดเผยว่า จากนโยบายของธนาคารที่รุกตลาดให้ติด 1 ใน 8 ธนาคารพาณิชย์จาก 16 แห่งที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ โดยการให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์ปกติ จากที่ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้เสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำ 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.25% สามารถระดมเงินฝากได้สูง 20,000 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ให้อัตราดอกเบี้ย 5.125 % โดยเป้าทั้งปีของธนาคารคาดว่าจะระดมเงินฝากได้ 220,000 ล้านบาท จากช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาก็มีเงินฝากไหลเข้ามา ต่อเนื่อง
ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ที่ธนาคารให้สูงถึง 3% ขณะที่ระบบธนาคารปกติอยู่ที่ประมาณ 0.75% นั้น เนื่องจากธนาคารยังมีสาขาอยู่เพียงเล็กน้อยเป็นจำนวน 80 สาขาจากเป้าสิ้นปีนี้ที่จะเพิ่มเป็น 150 สาขา ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของธนาคารให้แก่ลูกค้าในระดับสูงกว่าตลาด หากในอนาคตสาขาของธนาคารมีปริมาณ 5 %ของจำนวนสาขาของธนาคารทั้งระบบ ซึ่งก็คงจะประมาณ ปี 2551 ธนาคารอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยให้ใก้ลเคียงกับคู่แข่ง โดยปัจจุปันบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารมีอยู่ประมาณ 10% ขณะที่ทั้งระบบธนาคารมีอยู่ประมาณ 40 –50% ในปี 2549นี้จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 20%
ด้านส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยรับและจ่าย(สเปรด) ปัจจุปันของธนาคารอยู่ที่ระดับ 3% แม้นว่าภาวะต้นทุนจะปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ธนาคารเองยังมีส่วนของเงินฝากเดิมที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาดในขณะนี้ ซึ่งสามารถนำมาเฉลี่ยกับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุปันประกอบกับสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อกลุ่มรายย่อยและเอสเอ็มอี อย่างไรก็ตามก็คงจะรักษาสัดส่วนสเปรดไว้ที่ระดับ 3%
นอกจากนี้ในส่วนของการรุกตลาดรายย่อยที่ธนาคารว่าเป้าหมายไว้นั้นเมือภาวะอัตราดอกเบี้ยเริ่มทรงตัว ธนาคารจะรุกในสินเชื่อเพื่อมี่อยู่อาศัยเป็นกลุ่มงานในอนาคต เพราะการที่อัตราดอกเบี้ยขยับตัวสูงขึ้นจะกระทบต่อสเปรดของธนาคาร
นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ธนาคารธนชาต กล่าวว่า เนื่องจากในปัจจุบันประชาชนให้ความสำคัญกับการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ธนาคารจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ที่จะศึกษาต่อ โดยได้เสนอบริการสินเชื่อเพื่อการศึกษาปริญญาโท ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ 'Scholar Loan' ซึ่งให้สิทธิพิเศษด้วยระยะเวลาปลอดการชำระหนี้ในปีที่ 1 วงเงินสินเชื่อ 100% ผ่อนได้นาน 8 ปี โดยในระยะแรกได้เริ่มที่สถาบันการศึกษาชั้นนำ 9 แห่ง ก่อนขยายต่อไปเพื่อสร้างความเป็น Niche Bank ในตลาดสินเชื่อเพื่อการศึกษาปริญญาโท และจะพัฒนาให้เป็นธุรกิจหลักในระยะยาวของธนาคารต่อไป โดยตั้งเป้าว่าธนาคารจะมีส่วนแบ่ง 30% จากมูลค่าการตลาดของสินเชื่อประเภทนี้
ตั้งเป้าออมทรัพย์งาน Money Expo 300 บัญชี
นายบัณฑิตกล่าวว่า สำหรับการจัดงาน Money Expo ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 พ.ค. 2549 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นั้น ธนาคารตั้งเป้าเงินฝากออมทรัพย์ไว้ที่ 300 บัญชี และตั้งเป้าเงินฝากประจำพิเศษ 9 เดือนไว้ที่ 300-500 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในงานดังกล่าวธนาคารจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งบัตรเอทีเอ็ม 3 มิติ สินเชื่อเพื่อการศึกษาระดับปริญญาโท และผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านเงินฝากและสินเชื่อไปแสดงในงานดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้คาดหวังในด้านของการปล่อยสินเชื่อเท่าใดนัก เนื่องจากต้องการให้ลูกค้ารู้จักผลิตภัณฑ์ของธนาคารและเป็นการให้ความรู้กับประชาชนอีกด้วย
ส่วนในปี 49 ธนาคารได้ตั้งเป้าเงินฝากไว้ที่ 22,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมายอดเงินฝากใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารก็จะพยายามทำกำไรและผลการดำเนินงานให้ได้ดีกว่านี้ ถึงแม้เป้าหมายเงินฝากในปีนี้ใกล้เคียงกับที่ตั้งไว้แล้วก็ตาม นอกจากนี้ ในปี 49-51 ธนาคารมีแผนที่จะเปิดสาขาให้ได้ 150 สาขา โดยจะเน้นเปิดในห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าค่อนข้างมากและมีทำเลที่ดี
"ส่วนใหญ่ธนาคารของเราก็จะเน้นเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าซึ่งไม่ค่อยมีวันหยุด ก็จะเป็นข้อได้เปรียบคู่แข่งที่จะมีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งคำนวณแล้วปีหนึ่งธนาคารจะได้หยุดงานแค่ 4 วัน/ปี ก็จะทำให้ยอดเงินฝากเพิ่มขึ้นมากกว่าธนาคารอื่นๆ 'นายบัณฑิต กล่าว
เครือกสิกรไทยร่วมงานมันนี่เอ็กซโป
นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในงาน Money Expo 2006 ระหว่างวันที่ 11-14 พฤษภาคมนี้ ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทในเครืออีก 5 บริษัทร่วมกันออกบูธและจัดโปรโมชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างและหลากหลาย ในรูปแบบ Smart Package ซึ่งเป็นโปรโมชั่นแบบกลุ่มผลิตภัณฑ์ 4 แบบ คือ
Surf Package เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม K-mPay K-Cyber Banking และ K-mAlert ,Auto Package เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม K-Auto Finance และ K-Credit Card ,Home Package ผู้สมัครใช้บริการ KBank Home Loan จะได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำ 1.49% ใน 3 เดือนแรก หลังจากนั้นจะมีดอกเบี้ยให้เลือก 3 แบบ คือ แบบที่หนึ่ง เดือนที่ 4-12 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR-2.50% ตั้งแต่เดือนที่ 13 เป็นต้นไปคิด MLR-0.25% แบบที่สอง เดือนที่ 4-24 คิด MLR-1.50% เดือนที่ 25 เป็นต้นไปคิด MLR-0.25% และแบบที่สาม เดือนที่ 4-36 คิด MLR-1.0% เดือนที่ 37 เป็นต้นไป คิด MLR-0.25% และ Plan Package เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Mutual Fund (RMF, LTF) และ K-Bancassurance (ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ 715)
"ในปีที่ผ่านมาบูธธนาคารกสิกรไทย ค่อนข้างประสบความสำเร็จ มีผู้เข้าเยี่ยมชมและลงทะเบียนใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งในปีนี้ธนาคารได้รวมบริษัทในเครือมาไว้ด้วยกัน และได้เตรียมพนักงานให้บริการถึง 120 คนต่อวัน จึงคาดว่าน่าจะมีลูกค้ามาเยี่ยมบูธธนาคารถึง 180,000 คน ในจำนวนนี้จะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธนาคาร 36,000 คน"นายกฤษฎากล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|