|

มั่นคงฯสานต่อโครงการบ้านหรู8-12ล้านซื้อที่ดินเปิด'ชวนชื่นรีเจ้นท์ฯ'เฟส2รับนักธุรกิจ-หมอศิริราช
ผู้จัดการรายวัน(8 พฤษภาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
มั่นคงเคหะการฯชี้ยอดขายบ้านไตรมาสแรกแรงยังไม่ตก คาดไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท พร้อมลุยต่อโครงการชวนชื่นรีเจ้นท์ฯเฟส 2 หลังเฟสแรกยอดจองกว่า 60% ยันตลาด 8-12 ล้านบาทยังไปได้หากทำเลและคุณภาพโครงการดี ทำใจช่วงไตรมาส 2 ยอดขายอาจพลาดเป้าหลังเจอมรสุมการเมือง น้ำมัน ดอกเบี้ย แถมอยู่ในช่วงนอกฤดูขาย
นายธัญญา สิริปูชกะ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (MK) เปิดเผยว่าเดิมที่คาดยอดขายในไตรมาสแรกของปี 49 จะลดลง แต่ปรากฎยอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยในไตรมาสแรกสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 600 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 160 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 3.7 ล้านบาท ซึ่งยอดขายมาจากโครงการชวนชื่นรีเจ้นท์-ราชพฤกษ์ และชวนชื่นศรีนครินทร์ โดยยอดขายที่บริษัทฯทำได้ในช่วง3เดือนแรกคิดเป็น 20% ของเป้ายอดขายเดิมทั้งปีที่ 3,000 ล้านบาท ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายการขายหรือไม่ คงต้องรอประเมินสถานการณ์ในช่วงไตรมาส 2 จะมีทิศทางอย่างไรบ้าง ขณะที่เป้ายอดรับรู้รายได้ทั้งปีตั้งไว้ประมาณ 2,500 ล้านบาท
สำหรับโครงการชวนชื่นรีเจ้นท์-ราชพฤกษ์ ถือเป็นโครงการที่บริษัทเริ่มเข้ามาทำตลาดในกลุ่มลูกค้าAถึงA+ หรือมีรายได้ต่อครอบครัวกว่า 1.5 แสนบาทต่อเดือน โดยบริษัทได้เปิดการขายในเฟสแรกบนเนื้อที่ประมาณ 13 ไร่ จำนวน 41 ยูนิต เนื้อที่ตั้งแต่ 100 ตารางวา ราคาบ้านพร้อมที่ดินตั้งแต่ 8-12 ล้านบาท แต่ราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ 8.57 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 350 ล้านบาท และหลังเปิดการขายไปเมื่อปลายปี 48 ปรากฎว่าได้การตอบรับจากลูกค้าด้วยดี มียอดจองกว่า 60% ส่วนใหญ่เกือบ 80% จะเป็นนักธุรกิจในพื้นที่ รวมถึงหมอที่ทำงานในโรงพยาบาลศิริราช โดยบ้านในแบบ Pasadena Style บ้านหรูพื้นที่ใช้สอย 364 ตร.ม.ราคาขาย 12 ล้านบาทขายได้ 4-5 ยูนิต
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมที่จะเปิดโครงการชวนชื่นรีเจ้นท์ฯเฟส 2 ภายในไตรมาส 3 จำนวนประมาณ 40 ยูนิต กลุ่มลูกค้าเป้าหมายและราคาขายจะใกล้เคียงกับเฟสแรก อีกทั้งเพื่อให้การพัฒนาโครงการดังกล่าวสมบูรณ์มากขึ้น บริษัทได้เจรจาซื้อที่ดินติดกับโครงการเพิ่มอีก 30 ไร่ ซึ่งรวมแล้วทั้งโครงการคาดว่าจะผลิตบ้านออกสู่ตลาดได้ 150 ยูนิต อนึ่ง ในช่วงที่ผ่านมา โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของบริษัทมั่นคงฯจะเน้นทำตลาดระดับราคาขาย 3-5 ล้านบาท
" การแข่งขันในโซนดังกล่าว แยกจำแนกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเส้นถนนสาทรถึงเส้นพระบรมราชชนนี ส่วนนี้ถูกกำหนดต้องสร้างบ้านขนาดใหญ่ ราคาขายไล่ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากเป็นพื้นที่สีเขียว มีบริษัทอสังหาฯพัฒนาโครงการประมาณ 5-6 โครงการซึ่งรวมของบริษัทมั่นคง และช่วงที่เลยถนนพระบรมราชชนนีไปถึงเส้นพระราม 5 การแข่งขันรุนแรงมาก ไม่ติดข้อจำกัดเรื่องผังสี ตลาดส่วนใหญ่จะพัฒนาบ้านขาย 4-6 ล้านบาท"นายธัญญากล่าวและว่า
ในส่วนของยอดขายในไตรมาส 2 คงจะชะลอตัวลง เนื่องจากไม่ใช่ฤดูการขาย ประกอบกับได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง ดอกเบี้ย และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น แต่คาดจะสามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 400-500 ล้านบาท และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย บริษัทได้จัดโปรโมชันในเรื่องค่าโอน ค่าจดจำนองสำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นสุด 30 พ.ค.
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่นั้น นางธัญญากล่าวยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามแผนที่ตั้งไว้ เพื่อชดเชยโครงการเดิมที่คาดว่าจะปิดการขายในปีนี้ ได้แก่ โครงการเรสซิเดนซ์ ปาร์ค 1-3 ชวนชื่นซิตี้ ,โครงการอรีนา ปาร์ค ชวนชื่นซิตี้ ที่แบ่งแปลงขายขนาด 100-200 ตร.วา จำนวน 20 แปลง มูลค่าขาย 70 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อแปลง 3.5 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการใหม่จะมีเช่น โครงการเรสซิเดนซ์ ปาร์ค 5 ชวนชื่นซิตี้ เนื้อที่ 5 ไร่ จำนวน 32 ยูนิต , โครงการสิริเพลส สุวรรณภูมิ รูปแบบคอนโดมิเนียม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทการบินไทย เพื่อสนับสนุนให้แก่พนักงานการบินไทย ,โครงการสิรินเฮาส์บางนาเฟส 2 เป็นส่วนขายที่ดินเปล่าขนาด 50-60 ตร.วา หรือเฉลี่ยต่อไร่ 9 แสนบาท โดยเป็นการทดแทนโครงการชวนชื่นบางนา-ตราด ที่ขายที่ดินเปล่าขนาด 100 ตร.วา
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|