สมชัย ตัณมานะศิริขอ 'แทค ฮอยเออร์' เป็นภรรยาเพียงคนเดียว


นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2539)



กลับสู่หน้าหลัก

ในบรรดานาฬิกาสวิสที่เข้ามาเปิดตลาดในไทย นับได้ว่า แทค ฮอยเออร์ (Tag Heuer) ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เพราะจากระยะเวลาเพียง 6 ปีของการนำเข้ามาจำหน่าย ได้พลิกสถานการณ์จากนาฬิกาที่ยังมียอดขายไม่ติดอันดับสู่การก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ในตลาดนาฬิกานำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์

"ความสำเร็จของแทค ฮอยเออร์ อยู่บนพื้นฐานของสินค้าที่มีคุณภาพ และที่สำคัญการเข้าสู่ตลาดเมืองไทย เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา นับเป็นจังหวะที่เหมาะสม เป็นช่วงที่เศรษฐกิจกำลังบูม ทำให้เราใช้ระยะเวลาเพียง 3 ปีไต่สู่นาฬิกาที่มีอันดับ" สมชัย ตัณมานะศิริ ประธานบริหารบริษัท เอ.ซี.ไอ. (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายนาฬิกา แทค ฮอยเออร์ในประเทศไทย กล่าว

ปัจจุบัน แทค ฮอยเออร์ มีเครือข่ายประมาณ 100 ประเทศและมีจุดขายกว่า 7,000 แห่งทั่วโลก ปีที่ผ่านมา มียอดขายทั่วโลกประมาณ 400 ล้านฟรังก์สวิสหรือประมาณ 8,000 กว่าล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดส่งออกเป็นอันดับ 5 ของสวิสรองจากโรเล็กซ์ คาเทียร์ โอเมก้า และสวอช.

จุดที่ทำให้แทค ฮอยเออร์ ประสบความสำเร็จนั้นมาจากการชูจุดขายความเป็นนาฬิกา สปอร์ต และตัวของสินค้าซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่เน้นคุณภาพ และการออกแบบซึ่งครอบคลุมมาตรฐานนาฬิกาในด้านความเที่ยงตรง ทนทาน และสวยงามเป็นหลัก

ที่ผ่านมา พบว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายทั่วโลกมาจากภูมิภาคเอเชีย โดยมีญี่ปุ่นเป็นตลาดใหญ่สุด สำหรับย่านเอเชียตอนใต้ ซึ่งมียอดขายคิดเป็น 10% นั้น ไทยจัดเป็นตลาดใหญ่อันดับ 3 รองจากประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์

"เอเชียยังเป็นตลาดใหญ่ และตรงนี้ผมเชื่อมั่นว่า เราทำได้ในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า ผมค่อนข้างเชื่อมั่นว่า ยอดขายของแทค ฮอยเออร์ ในตลาดเมืองไทยจะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แซงหน้าเพื่อนบ้านอย่างฮ่องกงและสิงคโปร์ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ดี และจำนวนประชากรที่มีมากกว่า" ฟิลิปป์ แชมป์เปียน EXECUTIVE VICE-PRESIDENT แทค ฮอยเออร์ สวิตเซอร์แลนด์ กล่าวกับ "ผู้จัดการ" ในช่วงการเดินทางมาร่วมงานเปิดตัวนาฬิกา แทค ฮอยเออร์รุ่น 2000 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ฟิลิปป์ กล่าวถึงการเปิดตัวนาฬิกาแทค ฮอยเออร์ รุ่น 2000 ว่าเป็นภาคที่ต่อเนื่องของต้นแบบที่ได้รับการออกแบบในปี 1982 ซึ่งในช่วงนั้นนาฬิการุ่นนี้ได้รับการตอบรับอย่างดี จนกลายเป็นแนทางในการออกแบบแทค ฮอยเออร์ตั้งแต่นั้นมา ดังนั้นเพื่อให้เหมาะกับยุคสมัยนาฬิการุ่น 2000 จึงถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่ในปี 1996 แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ ซึ่งเป็นแนวทางการทำงานของแทค ฮอยเออร์ที่พยายามจะเก็บรักษานาฬิกาทุกรุ่นไว้ให้นานที่สุด ซึ่งเมื่อถึงเวลาจะเป็นการปรับโฉมไม่ใช่เปลี่ยนโฉม

"ผมเชื่อมั่นว่า เราน่าจะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตอนใต้ได้ เพราะจากศักยภาพการเติบโตของตลาดนาฬิกาเมืองไทยบวกกับความพร้อมของบริษัท น่าจะมีส่วนผลักดันให้ไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ" สมชัย กล่าว

บริษัท เอ.ซี.ไอ. (ไทยแลนด์) จำกัด นับเป็นน้องใหม่ในวงการนาฬิกาที่คร่ำหวอดในวงการมานานนับครึ่งศตวรรษ โดยเฉพาะสมชัยตัณมานะศิริ นับเป็นมืออาชีพที่ถูกหล่อหลอมประสบการณ์ในสายธุรกิจนาฬิกามาตั้งแต่แรกเกิด

กล่าวคือ หลังจากสมชัยลืมตาดูโลกได้เพียงเดือนเศษ บิดาของเขาก็เข้าสู่ธุรกิจนาฬิกาด้วยการตั้งบริษัท ธงไทย เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในย่านเยาวราช เพื่อดำเนินธุรกิจด้านจำหน่ายนาฬิกาและอะไหล่

ตระกูลตัณมานะศิริ สานต่อกิจการจนเติบใหญ่อย่างต่อเนื่องจนสมชัยจบการึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เป็นพ่อจึงตั้งบริษัทให้สมชัยดำเนินกิจการการเป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาสวิสอยู่หลายยี่ห้อ

ทำให้ในยุคนั้น สมชัยเริ่มมีโอกาสเดินทางไปดูงานที่สวิตเซอร์แลนด์บ่อยครั้ง เขาเริ่มติดตามความเคลื่อนไหวในแวดวงนาฬิกาสวิส จากประสบการณ์ที่ซึมเข้าไปในสายเลือดทำให้สมชัยเริ่มเห็นแนวโน้มความเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจของนาฬิกายี่ห้อแทค ฮอยเออร์หลังจากบริษัทแห่งนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น

สมชัย เริ่มทำการติดต่อเพื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายแทค ฮอยเออร์ ในประเทศไทย จนในที่สุด เอ.ซี.ไอ. จึงได้แทค ฮอยเออร์มาจำหน่าย โดยในช่วงปีแรก ๆ ของการเปิดตัวในไทยนั้น เขา กล่าวว่า ตัวเลขการเติบโตเป็นไปอย่างไม่คาดคิด คือ 100% ติดต่อกันหลายปี ซึ่งปีที่ผ่านมา แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะไม่สู้ดีนัก แต่ยอดขายแทค ฮอยเออร์ ก็ยังมีอัตราตัวเลขการเติบโตถึง 20% ปัจจุบันแทค ฮอยเออร์มีสินค้าระดับราคาตั้งแต่ 7,800-300,000 บาทขึ้นไป

"รุ่นที่ขายดีที่สุดจะเป็นรุ่นระดับราคาประมาณ 30,000 บาทขึ้นไป วิธีการที่เราเลือกสินค้าแต่ละรุ่น เราจะยึดพื้นฐานความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ซี่งตรงนี้ค่อนข้างยาก เพราะต้องอาศัยประสบการณ์ในการศึกษาตลาดพอสมควร" ส่องสกุล สมิตะเกษตริน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด หนึ่งในผู้บริหารมืออาชีพจากเซ็นทรัล เทรดดิ้ง ที่เพิ่งเข้ามาร่วมงานกับ เอ.ซี.ไอ. เมื่อต้นปีที่ผ่านมากล่าว

กระแสการประกาศลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยของรัฐ ซึ่งนาฬิกาก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่จะปรับภาษีจากเดิม 20% ลดลงเหลือเพียง 5% นั้นได้เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า จะทำให้นาฬิกาสวิสอีกหลายยี่ห้อเข้ามาเปิดตลาดในไทยและจะมีส่วนผลักดันให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นนั้น

สมชัย กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐในเรื่องดังกล่าวที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ทุกฝ่ายต่างชะลอดูท่าที แต่สำหรับเขาแล้วแม้โอกาสจะเปิดกว้างเพื่อเสาะหานาฬิกายี่ห้อใหม่เข้ามาเพิ่ม แต่เอ.ซี.ไอ.ยังมีนโยบายที่จะผลักดันแทค ฮอยเออร์ แต่เพียงยี่ห้อเดียวต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมายอดขายอันดับ 1 ในย่านเอเชียตอนใต้

"เป็นมารยาททางธุรกิจ เพราะแทค ฮอยเออร์ เปรียบไปแล้วก็เหมือนพ่อตาที่ให้ลูกสาวมาเป็นภรรยา บริษัทแม่ เขาคงไม่อยากเห็นผมมีภรรยาหลายคน เพราะดูแลไม่ทั่วถึง ตอนนี้ผมเลยไม่คิดที่จะนำนาฬิกายี่ห้ออื่นมาเสริม ขอทำตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน" สมชัย กล่าวในที่สุด



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.