|
ไขกลยุทธ์โนเกีย "Nseries"ซึมลึกเทคโนโลยีสู่ตลาดแมส
ผู้จัดการรายสัปดาห์(8 พฤษภาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
โนเกียเดินเกมสร้างตลาดนิวดีไวท์มัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ "Nseries" ต่อเนื่อง หลังกระแสตอบรับพุ่งทั่วโลก พัฒนาเทคโนโลยีลงมือถือไฮเทคตอบสนองกลุ่มผู้ใช้ระดับบน ก่อนซึมลึกเทคโนโลยีสู่ตลาดแมส ใช้โปรดักส์สร้างความแตกต่างคู่แข่งไม่เฉพาะแต่ในตลาดเทเลคอมเท่านั้น แต่ยังกระจายไปสู่คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ หมายยึดสองตลาดด้วยดีไวท์เพียงเครื่องเดียว
"มัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เป็นนิวดีไวท์ ไม่ใช่มือถือที่มีกล้องดิจิตอล ไม่ใช่มือถือที่มี MP3 แต่มือถือนิวดีไวท์คือแพลตฟอร์มที่จะใส่อะไรลงไปเพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้ก็ได้"
คำกล่าวข้างต้นมาจากคำพูดของ จูฮา พัทคิรันทา รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจมัลติมีเดีย โนเกีย ที่ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของโทรศัพท์มือถือยุคใหม่ที่ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือธรรมดา แค่ใช้โทรออกและรับสาย หรือมีเพียงเทคโนโลยีธรรมดาเท่านั้น
แต่นิวดีไวท์ในความหมายความโนเกีย หรือมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์กำลังเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่โดดเด่นที่สุดในตลาดอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย เนื่องจากมีเทคโนโลยีหลากหลายประเภทผสมผสานกัน (converged device) สอดคล้องกับแนวทางการทำตลาดของโนเกีย ที่กำลังมุ่งสร้างตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม "Nseries"
ทั้งนี้โนเกียได้วางตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Nseries เป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา เพื่อสนองความต้องการของตลาดที่เกิดขึ้น และปัจจุบันโนเกียได้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Nseries ไปแล้วประมาณ 5 ล้านเครื่อง
โนเกียคาดว่าอุปกรณ์สื่อสารไร้สายที่มีเทคโนโลยีหลายประเภทผสมผสานกัน จะมีขนาดใหญ่มาก โดยมีปริมาณเครื่องลูกข่ายรวมประมาณ 100 ล้านเครื่องในปี 2549 และมากกว่า 250 ล้านเครื่องในปี 2551 จากการวิจัยของคานาลิส พบว่าในปี 2547 ตลาดนี้มีประมาณเครื่องลูกข่ายรวมทั้งหมด 53 ล้านเครื่อง โดยที่โนเกียมีส่วนแบ่งในตลาดนี้มากกว่า 50%
พัทคิรันทา กล่าวถึงบทบาทในการทำตลาดมือถือ Nseries ของโนเกีย ว่าแนวทางการสร้างตลาดของกลุ่ม Nseries นั้นจะมีหน้าที่ในการตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีความชื่นชอบเรื่องของเทคโนโลยีเป็นหลัก มากกว่าที่จะตอบสนองกลุ่มลูกค้าในระดับแมส
อย่างไรก็ตามหน้าที่ในการสร้างตลาดของมือถือกลุ่ม Nseries นี้ ไม่ใช่ว่าจะเป็นการตอบสองกลุ่มลูกค้าระดับบนเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง โนเกียกำลังใช้เรื่องของการซึมลึกเทคโนโลยีล้ำสมัยจากมือถือไฮเทคกลุ่ม Nseries จากลูกค้าระดับบน ลงไปสู่ตลาดระดับแมส เมื่อเทคโนโลยีตัวใดตัวหนึ่งมีความพร้อมที่จะลงไปสร้างตลาดในกลุ่มแมส โนเกียก็พร้อมที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองทันที เนื่องจากปัจจุบันโนเกียมีโปรดักส์ไลน์ที่ตอบสนองความต้องการให้กับกลุ่มผู้ใช้ในทุกระดับ
โนเกีย Nseries ยังเป็นโปรดักส์ที่ช่วยให้โนเกียแตกต่างจากคู่แข่งขันในตลาดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเรื่องนี้ เออร์โป คาร์จาไลเนน รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารลูกค้าและการตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โนเกีย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า Nseries คือความแตกต่างของโนเกียกับคู่แข่งขัน เนื่องจากทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เหนือชั้นกว่า
"Nseries สร้างความแตกต่างให้กับเราจากยี่ห้ออื่นอย่างแท้จริง และถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่เราจะทำตลาดอย่างต่อเนื่องและจริงจังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ"
การทำตลาดโนเกีย Nseries ยังมีการเชื่อมโยงกับเหล่าพันธมิตรต่างวงการ ล่าสุดในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Nseries 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ โนเกีย N93 N73 และ N72 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้า B10) โนเกียได้ประกาศความร่วมมือต่อเนื่องกับคาร์ลไซส์ และอโดบี รวมทั้งประกาศความร่วมมือใหม่กับ Flickr ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของยาฮู
"อินเทอร์เน็ตกำลังพัฒนาไปสู่การเป็นชุมชนของผู้ที่นิยมสร้างสรรค์และแบ่งปันความคิดเห็นและประสบการณ์ร่วมกัน ดังนั้นการที่โนเกียร่วมมือกับบริษัทชั้นนำ เช่นคาร์ลไซส์ อโดบี Flickr จะทำให้ลูกค้าที่ใช้อุปกรณ์ในกลุ่ม Nseries ได้รับเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ใช้งานได้ดีที่สุด จะบันทึกวิดีโอได้ง่ายขึ้น ตัดต่อก็ง่าย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเล่าเรื่องราวของตนเองและแบ่งปันประสบการณ์ได้ในรูปแบบที่แต่ละคนต้องการ" พัทคิรันทากล่าว
ทั้งนี้โนเกียมีแผนที่จะสร้างชื่อของ Nseries ในระยะยาว โดยเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากการสร้างแบรนด์โนเกียในช่วงที่ผ่านมากว่าที่จะทำให้โนเกียก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดได้นั้น ต้องใช้ระยะเวลายาวนานพอสมควร ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Nseries จึงต้องมีการลงทุนมาก ทำอย่างต่อเนื่อง และทำให้ซับแบรนด์นี้แข็งแกร่งในตลาดให้ได้
"เรามีโพสิชั่นนิ่งสำหรับ Nseries อย่างชัดเจนคือการเป็นมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ผ่านกลยุทธ์หลัก See New Hear New และ Do New ที่พร้อมสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคว่า Nseries"
อย่างไรก็ตามผู้บริหารโนเกีย ยืนยันว่าการสร้างชื่อให้กับ Nseries เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลก จะใช้เวลาน้อยกว่าการสร้างแบรนด์ "ไอพอด" อย่างแน่นอน ซึ่งกว่าแบรนด์ "ไอพอด" จะมาถึงทุกวันนี้ต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ 4-5 ปี
ในส่วนการมองตลาดประเทศไทยนั้น ผู้บริหารโนเกียมองว่าตลาดไทยเป็นตลาดไดนามิก เป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของโนเกียในตลาดโลก และที่ผ่านมาโนเกียก็สามารถทำตลาดได้เป็นอย่างดีในตลาดไทยเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง
ส่วนผลประกอบการของโนเกียในปี 2549 ในไตรมาสแรกโนเกียมีส่วนแบ่งในตลาด 35% เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2548 และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 ที่ผ่านมา
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|