ราชบุรีโฮลดิ้งเร่งหาพันธมิตรใหม่ลงทุนสร้างบิ๊กโรงไฟฟ้า 2ประเทศ


ผู้จัดการรายสัปดาห์(8 พฤษภาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

"ณรงค์ ลีตสุวรรณ" เอ็มดีคนใหม่ราชบุรีโฮลดิ้ง เผยเล็งหาพันธมิตรรายใหม่ และมีนโยบายการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ 2แห่ง พร้อมผลักดันโครงการพลังงานทดแทนในประเทศเพื่อรองรับสถานการณ์น้ำมันโลก ขณะทีผู้บริหารคนเก่า ชี้ ราชบุรีฯ เป็นบริษัทลูกอันดับต้นๆที่ กฟผ.ให้ลงทุนแทน

ณรงค์ ลีตสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ราชบุรีโฮลดิ้ง กล่าวว่า ได้เข้ารับตำแหน่งนี้เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองมีนโยบายในการดำเนินงานคือ จะทำตามนโยบายเดิมแต่จะปรับรูปแบบองค์กรให้ มีความยืดหยุ่น และส่งผลดีต่อการขยายองค์กรมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ได้วางการขยายการลงทุนปี 2549 ไว้แล้วว่าจะเน้นธุรกิจผลิตไฟฟ้าโครงการขนาดใหญ่ โดยเน้นสร้างโรงไฟฟ้าต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งกำลังมองที่ประเทศกัมพูชาและประเทศพม่า ประเด็นสำคัญคือจะต้องขายกลับคืนมาในประเทศให้ได้ มากกว่าที่จะขายไฟให้กับต่างประเทศเหล่านั้น สำหรับโครงการโรงไฟฟ้า IPP นั้น ทางราชบุรีโฮลดิ้ง จะเข้าร่วมประมูลด้วยอย่างแน่นอนเพราะถือเป็นหนึ่งโครงการใหญ่ที่สำคัญของประเทศ

สำหรับการลงทุนภายในประเทศจะเน้นเรื่องพลังงานทดแทน เช่นพลังงานทดแทนจากแกลบ หรือ ใช้ บายโพรดักซ์จากกากวัสดุโรงงานไฟฟ้าภายในประเทศที่มีอยู่เดิม นั้นคือ บริษัท สยาม เอทานอล เอ็กซ์ปอร์ท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตแอลกอฮอล์เพื่อการส่งออกกำลังการผลิต 30,000 ตันต่อไป และต่อไปทางราชบุรีโฮลดิ้งจะต้องปรับตัวตามภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งต่อไปจะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ทาง ราชบุรีโฮลดิ้ง ต้องมองหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนเพิ่ม ดังจะเห็นได้จากการที่ทางราชบุรีได้ดึงบริษัทชุอูอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาร่วมมือในโครงการ บริษัทชูบุราชบุรี อิเล็คทริคเซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างเดินเครื่องไฟฟ้า ที่มีสัญญาเดินเครื่องภัย บริษัทราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด ระยะเวลา 25ปี ซึ่งทางราชบุรี ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50

มั่นใจ กฟผ.สนใจมากที่สุด

ส่วนโอกาสของ ราชบุรีโฮลดิ้งเองในการเข้าไปรับงานขยายการลงทุนแทน กฟผ.ที่จะต้องกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจดังเดิม ส่งผลให้ไม่เกิดความคล่องตัวในการลงทุน จึงทำให้การลงทุนขนาดใหญ่อาจจะต้องให้บริษัทลูกซึ่งทาง กฟผ.ถือหุ้นอยู่เข้าไปลงทุนแทนนั้น บุญชู ดิเรกสถาพร อดีตกรรมการผู้จัดการ และปัจจุบันเป็น กรรมการบริษัท ราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)ด้วย กล่าวว่า ทาง ราชบุรีโฮลดิ้ง มีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าจะเป็น Priority แรกๆที่ กฟผ.จะเลือกให้ลงทุนแทน ด้วยสาเหตุที่ขณะนี้ กฟผ.เข้ามาถือหุ้นราชบุรีโฮลดิ้งอยู่ 40% ถือว่าสูงกว่าบริษัทลูกรายอื่นๆที่ทางกฟผ.ถือหุ้นเพียง 25% และถ้าจะเลือกลงทุนผ่านบริษัทราชบุรี ทาง กฟผ.จะได้รายรับในปริมาณที่มากกว่า ซึ่งทาง ราชบุรีโฮลดิ้งถือว่ามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร และเทคโนโลยีที่จะรองรับการลงทุนใหม่ๆได้

"ถ้ามองเฉพาะตัวเลขตอนนี้ บมจ.ราชบุรีโฮลดิ้งน่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆที่น่าสนใจ เพราะต่อไปการลงทุนของ กฟผ.จะเป็นได้อยากขึ้น เพราะถือเป็นหนี้สินของประเทศไปด้วย ซึ่งการพัฒนาประเทศต้องมองถึงการพัฒนาด้านสังคม ควบคู่พร้อมกันคงจะมาทุ่มให้กับการลงทุนด้านเดียวไม่ไหว" บุญชูกล่าว

เร่งสร้างโรงไฟฟ้าในลาว

นอกจากนี้ยังมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ในระหว่างดำเนินการอยู่คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 ซึ่งมีกำลังการผลิต 630 เมกกะวัตต์ /วัน และโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 3 มีกำลังการผลิต 460 เมกกะวัตต์/วัน นั้น เอ็มดีคนใหม่ กล่าวว่า สำหรับโครงการน้ำงึม 2 ได้จัดทำสัญญาเรื่องทางด้านการเงินใกล้เสร็จแล้ว จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2549 ส่วนโครงการน้ำงึม 3 นั้นอยู่ในระหว่างการเจรจาคิดอัตราค่าไฟฟ้า จะทำให้โรงงานไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 3 แล้วเสร็จล่าช้ากว่าโครงการน้ำงึม 2 เล็กน้อย โดย คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2554 หรือต้นปีพ.ศ. 2555 และสามารถนำรายได้เข้ามาให้กับราชบุรีโฮลดิ้ง เพิ่มมากขึ้น ขณะนี้สินทรัพย์ของ บมจ.ราชบุรีโฮลดิ้งมีทั้งสิ้น 69,494 ล้านบาท

"โรงไฟฟ้าพลังน้ำจะมีความล่าช้ามากกว่าโรงไฟฟ้าแบบอื่นๆ เพราะจะต้องขึ้นอยู่กับสภาวะระดับน้ำในแต่ละปีด้วย จึงทำให้ความล่าช้ามากกว่า แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะทางลาวต้องการให้เข้าไปลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นสัญญาที่กำหนดไว้แล้วของทั้งสองประเทศ " ณรงค์กล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.