|

ผู้ประกอบการหน้าใหม่ชะลอลงทุนสปาหวั่นเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวหด-ตลาดอิ่ม
ผู้จัดการรายวัน(4 พฤษภาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
เดอะ โอเอซิส กรุ๊ปเชื่อธุรกิจสปาในไทยยังสดใส โดยคาดปีนี้เติบโต 30% ได้ฤกษ์เตรียมบุกเปิดสปาในกรุงเทพฯย่านสุขุมวิทในช่วงปลายปี มั่นใจจุดแข็งวัฒนธรรมการบริการแบบล้านนาเป็นจุดขาย ระบุไฮไลต์เด่นปีนี้งานพืชสวนโลกกระตุ้นนักท่องเที่ยวมาเชียงใหม่เพียบและสปาโต 50% ด้านนายกสมาคมไทยล้านนาสปาเผยสปาภาคเหนือโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ เชื่อใครมีความต่างอยู่รอด ส่วนตลาดรวมขณะนี้อยู่ในช่วงทรงตัว เพราะการแข่งขันที่สูงขึ้น
นายภาคิน พลอยแหวน ประธาน บริษัทเดสทินี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้บริหารเดอะ โอเอซิส สปา กรุ๊ป และสมาชิกสมาคมไทยล้านนาสปา เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจสปาในไทยปีนี้มองว่าจะมีอัตราการเติบโต 20-30%ในแง่รายได้ ซึ่งจากความแรงของธุรกิจสปาในปัจจุบันยังเชื่อว่าสปายังไปได้อีก 2-3 ปี ส่วนด้านการลงทุนของผู้ประกอบการรายใหม่เชื่อว่าจะชะลอตัวลงหรือผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยจะอยู่ได้ต้องมีการปรับกลยุทธ์และมาตรฐานให้เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละกลุ่มและต้องมีจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจ
ปัจจุบันสปาของโอเอซิสเปิดให้บริการในรูปแบบเดย์ สปาและมีให้บริการแล้ว 4 แห่งที่เชียงใหม่ ได้แก่ เดอะ เชียงใหม่ โอเอซิส สปา, เดอะ ลานนา โอเอซิส สปา , เดอะ อโรม่า โอเอซิส เชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งในปีนี้บริษัทฯมีแผนเปิดสปาแห่งใหม่ในกรุงเทพฯเป็นครั้งแรกที่ย่านสุขุมวิท 32 บนพื้นที่ขนาด 1 ไร่ ภายใต้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
"สาเหตุที่มาเปิดสปาในกรุงเทพฯ เนื่องจากมั่นใจในจุดแข็งของโอเอซิส สปาที่เด่นในเรื่องโปรดักส์ หรือการบริการต่างๆ เช่น วัฒนธรรมของคนภาคเหนือ, การรับส่งลูกค้าจากที่พัก หรือการนวดทรีตเมนต์ เป็นต้น โดยค่าบริการสปาจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-7,000 บาท"
ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักของสปาที่เปิดในกรุงเทพฯจะแตกต่างจากที่เชียงใหม่ที่เน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 80% ส่วนสปาในกรุงเทพฯจะแบ่งลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 60% และที่เหลือเป็นคนไทย 30-40%
สำหรับยอดรายได้บริษัทฯคาดว่าสาขาใหม่ในกรุงเทพฯจะมีประมาณเดือนละ 5 ล้านบาท ส่วน 4 สาขาในเชียงใหม่คาดว่ายอดรายได้จะเติบโตขึ้น 10-20% จากยอดรายได้ปีที่แล้ว 30 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมาพบว่าผลประกอบการสปายังดีอยู่ ถึงแม้จะมีปัญหาทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจชะลอตัว โดยในส่วนการเมืองมีผลกระทบต่อธุรกิจบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์มีการยกเลิกทริปไปบ้าง แต่ตรงนี้บริษัทฯก็มีแผนการตลาดออกมาเพื่อทำการตลาดแบบกว้างมากขึ้น
นอกจากนี้ปีนี้ยังเป็นปีที่ไทยจะจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเทิดพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ที่เชียงใหม่ในวันที่ 1 พ.ย. 49- 31 ม.ค. 50 ตรงนี้เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวแห่เข้าเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก และจะทำให้ธุรกิจสปาในภาคเหนือเติบโตมากหรือกว่า 40-50%
**ชี้สปาภาคเหนือเด่นด้านวัฒนธรรม**
ด้านนายการย์วิชย์ วงษ์ทอง ผู้จัดการทั่วไป ของ บริษัท เดอะ เฮลลิ่ง ริสชี่ สปา จำกัด และนายกสมาคมไทยล้านนาสปา กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจสปาทางภาคเหนือนั้น ถือว่าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งผู้ประกอบการเองและกลุ่มลูกค้า เนื่องจากความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะสปาของทางภาคเหนือนั้นจะมีความเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนา รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยภูเขา ต้นไม้ ซึ่งมีความแตกต่างจากสปาทางแถบภาคใต้อย่างชัดเจน โดยขณะนี้ทางสมาคมล้านนา สปา นั้น มีสมาชิกประมาณ 50 ราย แต่ที่ได้ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเพียง 17 รายเท่านั้น
สำหรับกลุ่มค้าหลักของธุรกิจสปาในภาคเหนือนั้นกว่า 80% จะเป็นชาวต่างประเทศ และ 20 % เป็นชาวไทย แต่ในขณะนี้ทางสมาคมฯกำลังร่วมกับผู้ประกอบการในการช่วยกันผลักดันให้คนในพื้นที่โดยเฉพาะคนไทย หันมาใช้บริการสปามากขึ้น เพราะคนไทยยังเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการที่จะทำให้ธุรกิจสปาสามารถดำเนินอยู่ได้
ทั้งนี้สถานการณ์ของธุรกิจสปาทางภาคเหนือนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงทรงตัว เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น บวกกับการที่จะเข้ามาทำธุรกิจนี้จะต้องมีความแตกต่างหรือเอกลักษณ์เฉพาะจึงจะอยู่ได้ เช่น การนำสปามารวมกับโยคะหรือการทำดีท็อกซ์ หรือเฮลท์สปา อย่างที่เดอะ เฮลลิ่ง ริสชี่ สปา ได้ทำอยู่
สำหรับผลการดำเนินงานตลอด 3 ปีที่ผ่านมานั้น ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนทำให้บริษัทฯเตรียมเปิดสปาอีกแห่ง คาดว่าจะเปิดในทำเลติดทะเลทางภาคใต้และยังคงมีความเป็นล้านนาและเฮลท์สปาเช่นเดิม ส่วนการดำเนินงานได้นั้นต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยทางภาครัฐเป็นหลัก โดยเฉพาะการที่ทางภาครัฐยังให้ความสำคัญกับธุรกิจสปาอีกหรือไม่ รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจที่ควรจะเป็นอีกด้วย จึงจะสามารถดำเนินการเปิดสปาแห่งใหม่นี้ได้
ปัจจุบันเดอะ เฮลลิ่ง ริสชี่ สปา มีสมาชิกกว่า 300 ราย มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นชาวต่างชาติ โดยในปีนี้บริษัทฯจะเน้นช่องทางการประชาสัมพันธ์ผ่านทางเว็บไซด์เป็นหลัก แต่ยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าในท้องถิ่นเช่นเดียวกัน โดยจะมีการจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ รวมไปถึงการทำดีท็อกซ์รูปแบบใหม่ๆเข้ามาอีกทางหนึ่งด้วย
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|