พรีมาเวสท์ลุ้นNAVพุ่ง2.4หมื่นล.คาดดัชนีตลาดหุ้นแตะ850จุดใน1ปี


ผู้จัดการรายวัน(4 พฤษภาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

บลจ.พรีมาเวสท์ตั้งเป้าNAVกองทุนภายใต้การบริหารทะลุ 2.4 หมื่นล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.2 หมื่นล้านบาท เล็งบุกกองทุนตราสารหนี้-หุ้น-พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์-กองทุนรวมลงทุนในต่างประเทศ คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยภายใน 1 ปีข้างหน้า ทะยานแตะระดับ 850 จุด ต่างชาติโยกเงินลงทุนตลาดหุ้นไทย

นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าบริหารพอร์ตกองทุนภายใต้การบริหารจัดการทั้งในส่วนของกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคลในปีนี้ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมาที่มีพอร์ตกองทุนรวม และกองทุนส่วนบุคคลภายใต้การบริหาร 1.2 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 100% สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทยังคงให้น้ำหนักกับการออกกองทุนตราสารหนี้ กองทุนห้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) กองทุนรวมลงทุนในต่างประเทศ (FIF) โดยล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทมีกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคลภายใต้การบริหาร มูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ บลจ.พรีมาเวสท์มีกองทุนภายใต้การบริหารทั้งหมด 30 กองทุน ส่วนใหญ่เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น และในปีนี้บริษัทฯจะเน้นออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นหลัก สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับโรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อจัดตั้งกองทุนโดยคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ภายในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน ขณะที่กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุน โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวในเร็วๆนี้โดยกองทุนที่จะออกนโยบายลงทุนจะให้น้ำหนักกับการลงทุนในตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยลงทุนผ่าน Fund of Fund

ด้านนางณัฐรา อิสรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 850 จุดได้ในอีก 1 ปีนับจากนี้ โดยมองว่าเม็ดเงินยังคงไหลเข้ามาในตลาดหุ้นแถบเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทย ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเม็ดเงินได้ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยประมาณ 1.1 แสนล้านบาท อีกทั้ง P/E อยู่ที่ระดับ 9-10เท่านั้นยังถือว่าถูกหากเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศ แม้ว่าจะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเมือง และปัญหาในภาคใต้ แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจยังคงมีอัตราเติบโตที่ดี

“ภาพภาวะการลงทุนตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ ปัจจุบันยังน่าสนใจอยู่และมองว่ายังมีโอกาสการเติบโตในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า เนื่องจากช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาค่าเงินทั้งในประเทศไทยและตลาดเอเชียได้แข็งค่าขึ้น ทำให้ความน่าสนใจยังคงมีอยู่ อีกทั้งเศรษฐกิจยังมีอัตราการเติบโตได้มากกว่าที่อื่น ดุลการค้ายังดีและสภาพคล่องยังมีอยู่ แม้ว่าจะมีปัญหาการเมืองและปัญหาในภาคใต้ แต่ดัชนีฯ และค่าเงินได้ปรับตัวลดลงไม่มาก”นางณัฐรา กล่าว

ทั้งนี้ บลจ.พรีมาเวสท์เตรียมเปิดขายหน่วยลงทุน “กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ 3M หรือ KP3M” ที่มีระยะเวลาลงทุนสั้นๆ เพียง 3 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท และมีมูลค่าขั้นต่ำในการสั่งซื้อตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป โดยจะเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 11-19 พฤษภาคม 2549และจะเปิดเสนอขายครั้งต่อไปทุกๆ รอบ 3 เดือน สำหรับคาดการณ์อัตราผลตอบแทนกองทุน KP3M ที่ผู้ลงทุนจะได้รับในงวดแรกจากการขายคืนอัตโนมัติในอัตราไม่น้อยกว่า4.30% ต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก หรือเทียบเท่าอัตราผลตอบแทนเงินฝาก 5.05% (ก่อนหักภาษี)


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.